3 บทบาทหลักนี้ได้แก่
1.บทบาทที่จะสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันสุขภาพในระดับปฐมภูมิ(Health Promotion & primary prevention)
การตระหนักในบทบาทนี้และนำเอามาประยุกต์ใช้มีความสำคัญอย่างมาก เน้นในการที่จะเสริมสร้างสุขภาพผู้สูงวัยที่ได้ดูแลให้มีความแข็งแรง สุขภาพดีในทุกๆมิติทางด้านร่างกายจิตใจและสังคม เน้นในการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก เช่น การดูแลรับประทานอาหารที่ดี การดูแลในการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การทำกิจกรรมที่สร้างเสริมสุขภาวะโดยรวม ดูแลคนหนึ่งคนในภาพรวมภาพใหญ่ เป็นคนทั้งคน การค้นหาคัดกรองความเสี่ยงที่ผู้สูงวัยอาจจะมีเน้นพบให้เร็วแก้ไขให้ได้เพื่อที่จะป้องกันการเกิดโรคความเจ็บป่วยและเน้นที่จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเจ็บป่วย ไม่สบายต่างๆให้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อการคงไว้ซึ่งศักยภาพที่ดีของสุขภาพโดยรวมในทุกมิติ
2.บทบาทในการป้องกันสุขภาพในระดับทุติยภูมิ (Secondary prevention)
บทบาทนี้เป็นบทบาทหน้าที่หนึ่งที่สำคัญของผู้ดูแลเช่นกันเนื่องจากผู้สูงวัยบางคนเริ่มมีโรค ภัยไข้เจ็บที่เริ่มก่อตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านทางกาย ทางใจหรือความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมาก อาจกระทบโดยตรงถึงสุขภาพโดยรวม หากผู้สูงวัยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยผู้ดูแลไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือคนที่ทำงานอยู่ในอาชีพนี้ที่ได้ตระหนักและมีความรู้ ความเข้าใจถึงความสำคัญและมีทักษะมากเพียงพอ ที่จะพบและทราบปัญหา อันจะนำมาซึ่งการดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงทีในช่วงที่ยังไม่มีอาการมากนัก ยังไม่มีภาวะแทรกซ้อนสามารถที่จะลดความสูญเสียหรือภาวะที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆที่อาจจะตามมาในอนาคตได้ทำให้สุขภาพวะที่ดียังเกิดขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อผู้สูงวัยเป็นอย่างมาก
3.บทบาทในการป้องกันสุขภาพในระดับตติยภูมิ (Tertiary Prevention)
บทบาทนี้มีความสำคัญอีกเช่นเดียวกันสำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง หากผู้ดูแลกลุ่มนี้ มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักในบทบาทที่สำคัญดังกล่าว ในการที่จะลดภาวะแทรกซ้อนอันเนื่องมาจากการเกิดความเจ็บป่วยขึ้นแล้วของผู้สูงวัยการลดความสูญเสียความพิการความไม่สบายกายสบายใจอย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่องและมีผลลัพธ์จะทำให้สุขภาพวะโดยรวมของผู้สูงวัยเหล่านั้นดีขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญแม้ว่าจะเกิดโรคภัยไข้เจ็บเกิดภาวะแทรกซ้อนแล้วก็ตาม
จะเห็นได้ว่าบทบาทการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงของประเทศไทยในปัจจุบันที่อยู่ในกระแสโลกาภิวัตน์ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมากมายและรวดเร็วนี้ มีความท้าทายเป็นอย่างยิ่ง
การเปลี่ยนแปลงองค์ความรู้ใหม่ๆ ศาสตร์ใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ มีการเชื่อมโยงและถ่ายเทข้อมูล การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของคนในทุกระดับของสังคมอย่างมากมาย รวดเร็วและทั่วถึง รวมทั้งการที่ผู้ดูแลจะต้องมีทักษะในการที่จะส่งเสริมสุขภาพและป้องกันภาวะต่างๆทั้ง 3 ระดับดังที่กล่าวไปซึ่งนับว่าเป็นงานใหญ่งานยากและเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและทักษะเป็นอย่างยิ่ง
จึงนับได้ว่าบทบาทของการเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงในปัจจุบันเป็นบทบาทที่สูงส่งและสำคัญ เป็นจุดฟันเฟืองเล็กที่สุดในงานผู้สูงวัยหากแต่จะเป็นจุดที่มีความสำคัญที่สุดเช่นเดียวกัน ที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยไทยดีขึ้น และเชื่อว่าหากท่านเหล่านี้มีทั้งคุณภาพอาชีพ ทั้งความรู้ ทักษะความชำนาญและคุณภาพชีวิตที่ดีแล้ว สังคมผู้สูงอายุไทยรวมไปถึงสังคมไทยโดยภาพรวมจะมีความสุขสวัสดีอย่างแน่นอน