สมาคมประกันชีวิตไทย เน้นวางแผนก่อนแก่ ดูแลชีวิตหลังเกษียณ

0
531
image_pdfimage_printPrint

IMG_8340

สมาคมประกันชีวิตไทยชี้ คนสูงอายุไทยเผชิญ 3 ปัญหาใหญ่ “สุขภาพ-การเงิน-สังคม”

สมาคมประกันชีวิตไทย
โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด สมาคมประกันชีวิตไทย จัดงานสัมมนาผู้สื่อข่าวครั้งที่ 15 หัวข้อ “วางแผนก่อนแก่ ดูแลชีวิตหลังเกษียณ” โดยดร. สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังประธานเปิดงานกล่าวว่าโครงสร้างประชากรส่วนใหญ่กำลังเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ หากไม่เร่งปฏิรูประบบสวัสดิการชราภาพ จะส่งผลต่อภาระการคลัง ในปี 67ที่คาดว่า ต้องใช้งบประมาณเข้ามาดูแลผู้สูงอายุสูงถึง 803,992 ล้านบาท คิดเป็น3%ของจีดีพี และต่ำสุด 674,242 ล้านบาทคิดเป็น 1% ของจีดีพี ดังนั้น จำเป็นต้องเร่งตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ ในรูปแบบกองทุนภาคบังคับ ให้เร็วที่สุด เพื่อเข้ามาช่วยลดภาระทางการคลังในอนาคต ขณะเดียวกันทุกส่วนต้องช่วยกันเตรียมความพร้อมสร้างหลักประกันให้กับสังคมสูงวัยกระตุ้นให้คนไทยวางแผนทางการเงินด้วยระบบประกันชีวิตเข้ามารองรับวัยเกษียณมากขึ้น”

นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า อีกประมาณ 10 ปี สังคมไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์“การเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ ต้องเริ่มตั้งแต่ช่วงวัยทำงาน ทั้งการวางแผนทางการเงินและการสร้างหลักประกันความมั่นคงเพื่อมีชีวิตที่ดีหลังเกษียณ การมีแผนรองรับสำหรับการจัดการด้านสุขภาพ และการรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การรณรงค์และเผยแพร่ความรู้ ให้คนไทยตระหนักและเห็นความสำคัญของการวางแผนชีวิตก่อนวัยเกษียณต้องทำให้ครบทุกมิติตั้งแต่การปรับเปลี่ยนทัศนคติคนไทยที่ยังคงเห็นว่าเรื่องการเกษียณอายุเป็นเรื่องไกลตัว ส่งผลให้ขาดการวางแผนด้านการเงินและการเตรียมแผนรองรับความเสี่ยงด้านสุขภาพ โดยบริษัทประกันชีวิตทุกบริษัท ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เริ่มตั้งแต่กลุ่มอายุ 20-40 ปี ซึ่งเป็นช่วงสร้างฐานะ อายุ 40-50 ปี เป็นช่วงความมั่นคง และช่วงเกษียณอายุ 51ปี ขึ้นไป โดยมีหลายรูปแบบตอบสนองทุกความต้องการ ทั้งความคุ้มครอง การออม และการลงทุน รวมถึงแผนรองรับความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุ สุขภาพ และโรคร้ายแรง เพื่อให้คนไทยมีหลักประกันความมั่นใจในดำเนินชีวิตเพื่อก้าวเข้าสู่วัยเกษียณอย่างมีคุณภาพ