สนพ.มั่นใจถ่านหินเทคโนโลยีสะอาด
ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
จากการคาดการณ์พบว่าไฟฟ้าจากเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ และเทคโนโลยีอัลทรา-ซูเปอร์คริติคัล (Ultra-Supercritical: USC) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าพลังงานถ่านหินที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน
สนพ.ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลนโยบายพลังงาน จึงได้ร่วมเผยแพร่ความรู้และสร้างความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดในงานสัมมนา”เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด” ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต
วันนี้ (28 ก.พ.60) ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า “ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย(PDP) ไทยจะค่อยๆมุ่งสู่สมดุลใหม่ในการผสมผสานแหล่งพลังงานในช่วง 20 ปีข้างหน้า โดยผนวกรวมกระแสไฟฟ้าพลังน้ำที่นำเข้า (ร้อยละ 15-20) ไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ (ร้อยละ 30-40) ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ซึ่งรวมถึงไฟฟ้าพลังน้ำ (ร้อยละ 15-20) และถ่านหิน (ร้อยละ 20-25) ดังนั้นเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยในอนาคต เราจะมุ่งเน้นเทคโนโลยีการผลิตกระแสไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและปล่อยมลพิษน้อยลง ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีถ่านหินขั้นสูง เนื่องจากถ่านหินหาได้ง่ายและมีราคาเหมาะสม ถ่านหินจึงเป็นแหล่งพลังงานที่มีความเสถียร เนื่องจากราคาไม่ผันผวน ทั้งยังมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จึงทำให้ช่วยลดค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมให้ภาคธุรกิจสามารถลดต้นทุนจากค่าไฟฟ้า เสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้”
มร. อาเมียร์ มูเจซิโนวิค ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ แผนกเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าถ่านหินของจีอี กล่าวว่า “โรงไฟฟ้า
ถ่านหินรุ่นใหม่ล่าสุดได้มีการใช้เทคโนโลยีอัลทรา-ซูเปอร์คริติคัล ซึ่งทำให้การปล่อยมลพิษลดลงและมีต้นทุนการดำเนินการที่ต่ำลง โรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบันกำลังใช้เทคโนโลยีอัลทรา-ซูเปอร์คริติคัล โดยมีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 47.5 – ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ระดับร้อยละ 34 และจีอียังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้ดียิ่งขึ้น ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมด้วยพารามิเตอร์ระบบไอน้ำที่สูงกว่าเดิม ทำให้ประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าเพิ่มสูงถึงร้อยละ 50 ทั้งหมดนี้ช่วยให้ผลิตกระแสไฟฟ้าที่เสถียรและมีราคาเหมาะสม อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีการจัดการการปล่อยมลพิษ ซึ่งจะทำให้มีการผลิตกระแสไฟฟ้าที่สะอาดกว่าสำหรับชุมชนท้องถิ่น“
นายโกวิทย์ คันธาภัสระ ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท จีอี ประเทศไทยและลาว กล่าวว่า “ด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นดิจิตอลเหล่านี้จะทำให้อนาคตด้านพลังงานของไทยก้าวหน้าต่อไป เรามุ่งหวังที่จะสนับสนุนโครงการมากขึ้นในอนาคตด้วยโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบนิเวศพลังงานใหม่ของไทย”
ดร.ทวารัฐ กล่าวเสริมว่า “โรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีสะอาดที่ได้ใช้ระบบ Ultra-Supercritical (USC) เป็นเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงและได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ อาทิธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) รวมทั้งยังมีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่มีมาตรฐานระดับสากลไม่เกิดผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวและวิถีชีวิตของชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน”