สทบ. จัดใหญ่งานตลาดประชารัฐเพื่อประชาชนส่งท้ายปี หวังดันสมุนไพรไทยโกอินเตอร์

0
367
image_pdfimage_printPrint

สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ร่วมกับ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร(วัดโพธิ์) จัดงาน“ตลาดประชารัฐเพื่อประชาชน (ลานบุญสมุนไพร ครั้งที่2)” ตระการตากับผลิตภัณฑ์สินค้าสมุนไพรไทยคุณภาพมากมาย ทั้งเครื่องดื่มสมุนไพร ยาสมุนไพร ลูกประคบ อาหารเสริม เครื่องสำอาง เครื่องหอม น้ำมันหอมระเหย ฯลฯ จากชุมชนทั่วประเทศไทยมาจำหน่ายในราคาย่อมเยา พร้อมกิจกรรมอบรมอาชีพฟรี และกิจกรรมสร้างสีสันในงานอีกคับคั่ง จัดระหว่าง
วันที่ 20-22 ธันวาคม 2562 ณ วัดโพธิ์ มุ่งหวังส่งเสริมสมุนไพรให้ประจักษ์สู่สายตาชาวต่างชาติต่อยอดสินค้าไทยให้สร้างชื่อไกลสู่สากล โดยงานนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดงาน ตลาดประชารัฐเพื่อประชาชน (ตลาดลานบุญสมุนไพร) ครั้งที่ 2 ว่า “ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ได้มีนโยบายสนับสนุนให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ได้มีการพัฒนาศักยภาพในการพึ่งตนเอง โดยเฉพาะการพัฒนาอาชีพ การผลิตสินค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มพูนรายได้ ตลอดจนพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย โดยการจัดงานตลาดประชารัฐในวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยการนำผลผลิตสมุนไพรประเภทต่างๆ ทั้งที่แปรรูปแล้วและยังไม่ได้แปรรูปหลากหลายผลิตภัณ์ รวมทั้งสมุนไพรใกล้ตัว ซึ่งเป็นผลิตผลธรรมชาติ ได้จาก พืช สัตว์ และแร่ธาตุ ที่ใช้เป็นยา ผสมผสานตามตำรับยา จากภูมิปัญญาไทย เพื่อบำบัดโรค บำรุง ร่างกาย โดยเฉพาะกลุ่มอาหารที่ผู้บริโภครับประทานในปัจจุบัน เช่น กลุ่มผัก ผลไม้ กลับกลายเป็นอาหารที่มีคุณค่ามากชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถช่วยรักษาโรคได้อย่างไม่น่าเชื่อ สมุนไพรเพื่อสุขภาพ และการนำสินค้าอื่นๆ ของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองมาออกร้านเพื่อจำหน่าย อีกทั้งยังมีการสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดการพัฒนาสินค้า

นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า “สำหรับการจัดงาน“ตลาดประชารัฐเพื่อประชาชน (ลานบุญสมุนไพร ) ครั้งที่2” ในครั้งนี้จัดขึ้นที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก จะเป็นโอกาสดีที่ทำให้สินค้าสมุนไพรไทยอวดเสน่ห์และคุณค่าให้ชาวต่างชาติรับรู้และเข้าถึงได้ เป็นการต่อยอดชื่อเสียงสมุนไพรไทยให้โด่งดังไกลสู่สากล นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน

จุดสำคัญภายในงานรวบรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีให้เห็นในรูปแบบต่างๆ อาทิ ยาหม่องสูตรโบราณ ลูกประคบ เครื่องดื่มสมุนไพร เครื่องสำอาง เครื่องหอม น้ำมันหอมระเหย รวมทั้งของใช้อุปโภคบริโภคจากสมุนไพรไทยมากมาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอบรมอาชีพฟรี อาทิ การทำยาหม่อง การทำลูกประคบ การทำพิมเสนจากใบย่านาง รวมทั้งกิจกรรมการแสดงและร่วมสนุกในงานอีกคับคั่ง ที่สำคัญงานนี้ยังส่งเสริมความรู้ในการพัฒนาสินค้าเพื่อต่อยอดให้ผู้ประกอบการไทยนำไปปรับปรุงพัฒนาสินค้าให้ได้คุณภาพมาตรฐาน เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดและการจัดจำหน่าย และที่ทำให้กลุ่มชุมชนได้มีประสบการณ์ในการจัดจำหน่าย ขยายตลาดและสร้างรายได้ โอกาสในการนำสินค้าของชุมชนสู่ตลาดสากล สร้างการรับรู้ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาจับจ่ายใช้สอย และรวมถึงการได้รับความรู้จากกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย”

นายนที ขลิบทอง กล่าวสรุปว่า “การจัดงานในครั้งนี้ประกอบไปด้วยร้านค้าที่มาจำหน่ายสินค้าในงานจำนวน 73 บูธ อีกทั้งยังมีกิจกรรมส่งเสริมอาชีพฟรี และกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ จึงน่าจะทำให้เกิดการสะพัดเงินหมุนเวียนภายในงานไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก อีกทั้งยังสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับภูมิปัญญาไทยและความมุ่งมั่นตั้งใจของพี่น้องคนไทยที่จะดูแลสนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งการช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนสินค้าสมุนไพรไทยให้ได้รับการพัฒนาและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก”