“สกอลล์”…รองเท้าสุดชิค ให้คุณมีความสุข สนุก ในฤดูร้อนนี้ กับสกอลล์ เทรนด์ใหม่ล่าสุด

0
377
image_pdfimage_printPrint

สกอลล์ แนะนำ คอลเล็คชั่นใหม่ สำหรับ Summer 2014 ให้คุณมีความสุข สนุก ในฤดูร้อนนี้ หรือ แม้แต่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้วย หลากหลาย สไตล์ สำหรับทุกวัย ทั้งสุภาพบุรุษ และสตรี พร้อมกับนวัตกรรม ที่ให้ความสบายเท้า และดูแลสุขภาพเท้าของคุณด้วยสไตล์ ที่ทันสมัย ในทุกโอกาส ไม่ว่าสภาวะ อากาศจะเป็นอย่างไรสกอลล์ สวมใส่สบาย ดูแลสุขภาพ เท้า ให้คุณเดิน ได้ นาน สบาย

IMG_7686

นายฟิลิปป์ อาวว์ ผู้จัดการทั่วไปรองเท้าสกอลล์ บริษัท เอสเอสแอล เฮลท์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าสกอลล์ เพื่อสุขภาพเท้า เปิดเผยว่า “สกอลล์” เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมรองเท้า เพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเท้า ด้วยการทุ่มเททั้งงกายและใจ ในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีในทุกย่างก้าว ดั่งปณิธานของ ดร วิลเลี่ยม สกอลล์ แมทเทียส ผู้ก่อตั้งสกอลล์ ที่เรายึดมั่น มากว่า หนึ่งร้อยปี และสกอลล์ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนารองเท้า ในรูปแบบ ที่ทันสมัย เพื่อความสบาย เท้า และสุขภาพที่ดีของเท้าคุณ ด้วยประสบการณ์ ในการทำรองเท้าเพื่อสุขภาพมานานกว่า 100ปี (ศตวรรษ )และมีจำหน่าย ทั่วโลก

ในช่วงซัมเมอร์นี้ทาง “สกอลล์” จึงได้อวดโฉมคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด ในงาน  “Scholl Comfort Health Style 2014” สำหรับคนรักเท้า ทั้งสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี หลากหลายรุ่น สวมใส่สบาย มีทั้งรองเท้าใส่ทำงาน ใส่เที่ยว และรองเท้าลำลอง ในราคาพิเศษลดสูงสุดถึง 70 % ที่จะให้คุณได้มีร้องเท้าคู่ใหม่ สวยเก๋ สวมใส่แบบมีสุขภาพเท้าที่ดี รับลมร้อนปีนี้ ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 2 เมษายน นี้ ณ แฟชั่นฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ

และ “สกอลล์” ขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์รองเท้าสกอลล์คอลเล็คชั่นใหม่ เทรนด์ซัมเมอร์สีสันสดใสต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ด้วยนวัตกรรมเพื่อสุขภาพเท้า 3 กลุ่ม ได้แก่ Memorycushion, Bioprint, Biomechanics มีทั้งสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี หลากหลายรุ่น สวมใส่สบายเท้า มีทั้งรองเท้าใส่ทำงาน ใส่เที่ยว และรองเท้าลำลอง กับความนุ่ม สบาย แถมได้สุขภาพเท้าที่ดีอย่างมีสไตล์

 

ด้วยนวัตกรรมล่าสุดกับ สกอลล์ “นวัตกรรมล่าสุดจากสกอลล์” นวัตกรรมเพื่อความสบายเท้า และ ดูแล สุขภาพเท้าคุณ ด้วย Massage นวดเท้า ด้วยพื้นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาให้มี ปุ่มนวดเท้า เพื่อผ่อนคลายเท้า ให้ความรู้สึกสบายเท้า  มีหลายแบบให้เลือก ในรูปแบบรองเท้าลำลอง เหมาะที่จะใส่ในวันสบายๆ หรือ หลังจากออกกำลังกาย และ exercise effect  ด้วยพื้นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาให้มี ความหนาแน่น 3 ระดับ ให้ความนุ่มที่ต่างกันภายในพื้นรองเท้าเดียวกัน เพื่อรองรับน้ำหนัก ในทุกย่างก้าว  ให้คุณเดินได้นานสบาย เพื่อเรียวขา ที่สวยงาม

 

 

นายฟิลิปป์ อาวว์ กล่าวต่อไปว่า ด้วยนวัตกรรม เมมโมรีคูชั่น ออกแบบมาเพื่อความสบายเท้า และ รองรับน้ำหนัก และแรงกระแทก เป็นอย่างดี ทำให้เดินสบาย ทุกอย่าง ก้าว เพื่อสุขภาพเท้า ที่ดีมี หลายแบบ ให้คุณเลือก ทั้ง สุภาพ บุรูษ และ สตรี ทั้งใส่ทำงาน และ ลำลอง ใส่เที่ยว ให้คุณ ได้ เท่ห์ สบายในทุกย่างก้าว ทำจาก วัสดุ หนังแท้อย่างดี ให้ความทนทาน

สำหรับสินค้าใหม่ Summer 2014 และเพื่อต้อนรับสงกรานต์ สกอลล์ขอแนะนำกลุ่ม Biomechanics ที่ออกแบบโดย แพทย์ผู้เขี่ยวชาญ ด้านเท้า จาก ออสเตรเลีย และ ครองยอดขาย เป็นอันดับ 1 ช่วยดูแล สรีระเท้า ของคุณ ให้มี อุ้งเท้า สรีระที่ดี ป้องกันไม่ให้เกิด ภาวะเท้าแบน ขณะสวมใส่ ด้วย พื้นรองเท้า ถูกออกแบบ มาให้ มี ส่วนโค้ง นูน รับอุ้งเท้า

นวัตกรรม Bioprint มีพื้นรองเท้า ที่มีความยืดหยุ่น  มีส่วนโค้งเว้า รับสรีระเท้า ให้ความรู้ สึกสบายเท้าเหมือนไม่ได้ใส่รองเท้า

นายฟิลิปป์ อาวว์ กล่าวต่ออีกว่า ด้วย คอลเลคชั่นใหม่รับฤดูร้อนปีนี้ สกอลล์จะทำให้คุณจะมีความสุขกับฤดูร้อนนี้อย่างสนุกสนาน และสนุกในวันสงกรานต์ ด้วยคอลเลคชั่นใหม่จากสกอลล์ ที่ให้ความสบายดูแลสุขภาพคุณในสไตล์ ที่ทันสมัย มีหลายแบบให้คุณเลือก ทั้ง ใส่ เที่ยว ทำงาน หรือ วันสบายๆ ทำให้ คุณเดิน ได้ นาน สบาย ให้ทุกวัน คือ ความสุข

 

ทางด้านนายแพทย์ เชิดพงศ์ หังสสูต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเท้า เวชศาสตร์ฟื้นฟู กล่าวว่า ในปัจจุบันนี้ หลายๆ คนมักจะมองข้าม “เท้า” อวัยวะที่อยู่ต่ำที่สุดของร่างกาย และไม่ได้ดูแลเอาใจใส่ให้ดีเท่าที่ควร โดยลืมคิดหรือไม่ทันคิดว่า แท้ที่จริงแล้ว เท้านั้นมีความสำคัญไม่แพ้อวัยวะอื่นๆ เช่นกัน หากการเลือกรองเท้าที่ใส่แล้วทำร้ายตัวเอง ก็เหมือนการเป็นมะเร็ง หรือการเลือกรองเท้าแบบผิดๆ ก็ทำให้รูปเท้าเสียได้ หรือบางคนมีอาการปวดส้นเท้า หัวเข่า หรือ หลังส่วนล่างที่มาจาก ภาวะเท้าแบน ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหา เพราะเมื่ออุ้งเท้าแบนลง ทำให้ข้อเท้า บิดเอียงเข้าด้านใน เส้นเอ็นต่างๆที่เท้าเกิดการตึง ยืดออกไปจากเดิม ทำให้เกิดอาการปวดส้นเท้าจนถึงหัวเข่า และหลังส่วนล่างได้

ปัจจุบันนี้อาการปวดส้นเท้า ปวดเข่า และหลังส่วนล่างเกิดขึ้นบ่อย โดยมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือจากการเคยประสบอุบัติเหตุกระดูก เส้นเอ็น หรือกล้ามเนื้อ หรือสาเหตุที่ใกล้ตัวที่สุดอาจเป็นเพราะรองเท้าที่เราสวมใส่ แต่มีอีก 1 สาเหตุที่หลายท่านอาจจะคาดไม่ถึงคือมาจาก “ภาวะเท้าแบน” ซึ่งสรีระเท้าที่ถูกต้องนั้นจะต้องมีอุ้งเท้า สมัยก่อนที่โลกเรายังไม่พัฒนาเราก็จะเดินบนพื้นหญ้าดินหรือทราย ซึ่งพื้นผิวธรรมชาติเหล่านี้ช่วยรองรับอุ้งเท้าเรา แต่ปัจจุบันโลกพัฒนาไปไกล จากดินหญ้า ทราย กลายเป็นพื้นปูนแข็งๆแบนราบ ทำให้อุ้งเท้าข้อเท้าต้องรับน้ำหนักร่างกาย เมื่อเราเดินเท้าเรากระทบกับพื้นราบแบนแข็งที่ไม่สามารถรับกับอุ้งเท้าของเราซึ่งเป็นส่วนโค้งเว้าก็จะทำให้เท้าบิดเข้าด้านในทีละน้อย ขณะก้าวเดินอุ้งเท้าค่อยๆแบนลงกลายเป็นเหมือนหุ่นจำลอง”

 

นายแพทย์ เชิดพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า เมื่ออุ้งเท้าแบนลง ทำให้ข้อเท้าบิดเอียงเข้าด้านใน เส้นเอ็นต่างๆที่เท้าเกิดการตึงยืดออกไปจากเดิม ทำให้เกิดอาการปวดส้นเท้า เมื่อมีอาการปวดส้นเท้าแล้วยังต้องเดินต่อไปอีก เส้นเอ็นต่างๆในร่างกายเรานั้นเกี่ยวพันกันถึงทุกส่วน ก็จะทำให้เกิดอาการปวดมากไปจนถึงหัวเข่าและหลังส่วนล่างได้  การใช้ยานวดหรือทานยาคลายกล้ามเนื้อเป็นวิธีการรักษาที่ปลายเหตุ ฉะนั้นเมื่อมีอาการเกิดขึ้นประจำเราควรรักษาที่ต้นเหตุก่อน สำหรับผู้มีภาวะเท้าแบนให้ใส่แผ่นเสริมปรับสภาพเท้าในรองเท้าตลอดเวลา เพื่อให้เท้าถูกปรับสภาพให้ถูกต้องตลอดเวลาหรือให้เกิดอุ้งเท้าขณะใส่นั้นเอง เมื่อสรีระเท้าของเรากลับไปอยู่ในภาวะเหมือนที่มีอุ้งเท้าปกติ เส้นเอ็นก็ถูกลดการยืดตึง อาการปวดก็จะบรรเทาลง แต่ต้องใส่อย่างสม่ำเสมอทุกครั้งที่ต้องเดิน แต่ทุกวันนี้มีนวัตกรรมการทำรองเท้าสำหรับการปรับสรีระเท้ามากมายให้เราเลือกใช้ได้อย่างสะดวกสบาย

ฉะนั้น การเลือกรองเท้า ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยลดสาเหตุปัญหาที่เกิดกับเท้าได้ เราไม่ควรเลือกรองเท้าสวยอย่างเดียว ต้องเลือกรองเท้าที่มีประโยชน์ด้วยคือ 1.รองเท้าที่ดูแลสรีระเท้า ป้องกันไม่ให้เท้าบิดเอียงหรือแบนลงได้ อย่าง Scholl Biomechanics 2.รองเท้าที่มีพื้นนุ่มและรองรับแรงกระแทรกได้ดี ช่วยกระจายน้ำหนัก 3.รองเท้าที่มีปุ่มนวดเท้า สำหรับช่วยผ่อนคลายเท้า และ 4.รองเท้าที่ใส่แล้วเหมือนได้ออกกำลังกายในขณะใส่คือ พื้นรองเท้าที่มีความนุ่มของพื้นรองเท้าไม่เท่ากัน เวลาเดินก็จะทำให้เราต้องใช้กล้ามเนื้อขามากขึ้น ก็จะทำให้กล้ามเนื้อขากระชับอีกด้วย

 

ทางด้านคุณพลอยหอวัง แฟชั่นกูรู ผู้นำเทรนแฟชั่น พูดถึงเทรนด์แฟชั่นสุดชิคที่กำลังมาแรงในซัมเมอร์นี้กับการเลือกรองเท้าให้เข้ากับสไตล์แฟชั่นเทรนด์ล่าสุดว่า “เทรนด์แฟชั่นมาแรงสำหรับปีนี้ก็คงยังไม่พ้นแนวสไตล์วินเทจ ย้อนยุคหน่อย ที่สำคัญสวมใส่สบาย ไม่อึดอัดหรือเยอะจนเกินไป ซึ่งบ้านเราเป็นเมืองร้อน ยิ่งจะเข้าเดือนเมษายนแล้ว การแต่งตัวจึงต้องปรับให้สวมใส่สบายขึ้น จะได้ไม่ต้องคอยกังวลจนทำให้เสียบุคลิก แต่อย่าลืมใส่สไตล์ความเป็นตัวเองลงไปในแฟชั่นด้วย เพราะคนเจเนเรชั่นนี้ชอบอะไรที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ชอบที่จะปลดปล่อยอิสระทางความคิดของตัวเองออกมาผ่านทางการแต่งตัว ทำให้เกิดสไตล์และแนวแฟชั่น แปลกๆ ใหม่ๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งแต่ละสไตล์ก็จะมีความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่อยู่ถึงแม้จะมีพื้นฐานของแฟชั่นมาจากที่เดียวกัน

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ทุกสไตล์จะต้องคำนึงถึงเรื่องของความสวมใส่สบาย ไม่ทำให้บุคลิกของเราเสียไปด้วย สิ่งที่จะช่วยเสริมให้บุคลิกภาพของเราดูดีขึ้นได้นอกจากเสื้อผ้าแล้ว ยังมีสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือรองเท้า ซึ่งจะต้องมีสไตล์ และอินเทรนด์ แต่สวมใส่สบาย แมชต์กับสไตล์การแต่งตัวของเราได้หลายสไตล์ ไม่จำเจ เพราะคนหนึ่งคนไม่จำเป็นต้องมีสไตล์การแต่งตัวเพียงแบบเดียว แต่สามารถเปลี่ยนไปได้ตามโอกาสและอารมณ์ในห้วงนั้นๆ ซึ่งรองเท้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการแต่งตัว รองเท้าที่ดี ต้องสวมใส่สบาย ช่วยถนอมสุขภาพเท้า ไม่ทำให้เกิดปัญหาของการปวดเท้าและข้อเท้า ใส่แล้วมั่นใจ ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการแต่งตัวได้หลายแบบ หลายสไตล์”

 

 

 

ด้านคุณเบล สุพล กล่าวถึงสไตล์การแต่งตัวในรูปแบบ  Mix & Match ในซัมเมอร์นี้ว่า สำหรับผมเวลาไปทะเลก็จะเตรียมเสื้อผ้าที่ค่อนข้างสบายๆ ไม่ร้อน อย่างเช่น เสื้อยืด กางเกงขาสามส่วน อาจจะมีหมวก หรือแว่นตากันแดด เก๋ๆ เป็น prop สำหรับถ่ายภาพ ส่วนรองเท้าผมจะเลือกที่ใส่แล้วนุ่มสบายเท้าครับ ทะมัดทะแมงเวลาสวมใส่และเดิน อย่างเช่นรองเท้าที่รัดส้น เวลาเดินบนทรายรองเท้าก็จะไม่หลุดซึ่งผมจะชอบทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ปั่นจักรยานเที่ยวหรือเดินไกล ก็จะพยายามเลือกรองเท้าที่ทะมัดทะแมงอย่างรองเท้ารัดส้น หรืออาจจะเป็นรองเท้าที่มีปุ่มนวดเท้าเพื่อความผ่อนคลาย และทุกครั้งที่ขึ้นคอนเสิร์ต หรือถ่าย MV ก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องยืนนานๆ หรือเดินไปเดินมาหลายครั้ง ฉะนั้นเรื่องของการปวดขา หรือเมื่อยขาก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นประจำ ผมก็จะหาเวลาว่างเพื่อที่จะไปนวดผ่อนคลายบ้างหรืออาจจะเอายามาทานวดเองบ้างถ้าเกิดไม่มีเวลา”