วีเอ็มแวร์เร่งทรานส์ฟอร์มองค์กรธุรกิจในไทย จับมือไอเน็ตผลักดันบริการคลาวด์และนวัตกรรม เร่ง “ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น” ให้เกิดในองค์กร

0
656
image_pdfimage_printPrint

ไอเน็ตเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ด้วยเทคโนโลยีของวีเอ็มแวร์รายแรกในไทยที่นำเสนอบริการคลาวด์ VMware HCX รองรับการโยกย้ายระบบคลาวด์ การเคลื่อนย้ายแอปพลิเคชั่น และการผสมผสานโครงสร้างพื้นฐาน

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 3 เมษายน, 2562 – บริษัท วีเอ็มแวร์ (NYSE: VMW) ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมซอฟต์แวร์ระดับองค์กร เปิดตัวบริการคลาวด์ VMware HCX อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมแต่งตั้ง บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเน็ต (INET) ผู้นำด้านบริการโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีชั้นนำของไทย นำเสนอบริการคลาวด์ HCX ให้แก่องค์กรต่างๆ ในประเทศไทย ในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกในประเทศไทยที่ให้บริการดังกล่าว ไอเน็ตมีเป้าหมายในการช่วยเสริมศักยภาพให้แก่องค์กรต่างๆ เปลี่ยนย้ายจากดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นเก่าแบบดั้งเดิม ไปสู่สภาพแวดล้อมมัลติคลาวด์ที่ทันสมัย รองรับการให้บริการแอปพลิเคชั่นที่รวดเร็วยิ่งขึ้น และเพิ่มความเร็วในการนำผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาด

ภายใต้วิสัยทัศน์ Thailand 4.0 องค์กรหลายแห่งในประเทศไทยกำลังเร่งปรับปรุงระบบไอทีรุ่นเก่าเพื่อให้มีความทันสมัยและปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น ค่าใช้จ่ายสำหรับบริการด้านไอทีเพิ่มขึ้นถึง 9.2% โดยแตะระดับ 92.6 พันล้านบาทเมื่อปี 2561 ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัย ไอดีซี (IDC) ขณะเดียวกัน ยอดใช้จ่ายสำหรับบริการคลาวด์สาธารณะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากที่อัตราเฉลี่ย 32.58% ต่อปี ในปี 2559 ถึง 2564 ความร่วมมือระหว่างวีเอ็มแวร์และไอเน็ตมีจุดมุ่งหมายในการช่วยส่งเสริมกลยุทธ์ Thailand 4.0 ด้วยการผลักดันให้องค์กรปลี่ยนย้ายไปสู่สภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์และมัลติคลาวด์ และช่วยให้องค์กรของไทยปรับใช้นวัตกรรมและการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ

VMware HCX ช่วยให้องค์กรดำเนินการโยกย้ายระบบขนาดใหญ่จากดาต้าเซ็นเตอร์แบบดั้งเดิมที่ติดตั้งภายในองค์กรไปยังสถาปัตยกรรมแบบใหม่ที่ทันสมัยได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นและไม่มีสะดุด ด้วยบริการคลาวด์ HCX เวิร์กโหลดต่างๆ จะถูกโยกย้ายไปมาระหว่างระบบคลาวด์ โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนที่ต้นทาง การเคลื่อนย้ายของแอปพลิเคชั่นก็เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีการรักษาความปลอดภัยด้วยระบบเครือข่ายแบบไฮบริดที่ก้าวล้ำ การรีพลิเคตข้อมูล และความสามารถในการกู้คืนระบบในกรณีที่เกิดปัญหา ทั้งยังสามารถทำการโยกย้ายระบบขณะใช้งานอยู่โดยที่ระบบไม่หยุดทำงาน ช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจตามปกติได้อย่างต่อเนื่อง

มร. ซานเจย์ เค เดซมุขฮ์ รองประธานและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี (SEAK) บริษัทวีเอ็มแวร์ กล่าวว่า “เพื่อสร้างรากฐานดิจิทัลแก่องค์กรธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทย วีเอ็มแวร์เดินหน้าขยายความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ เราได้ร่วมมือกับ ไอเน็ต ภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะเร่งขับเคลื่อนองค์กรต่างๆ ให้สามารถเข้าถึง VMware Cloud Foundation โซลูชั่นสำหรับระบบไฮบริดคลาวด์ที่รวมความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่สำคัญ ตั้งแต่ ระบบประมวลผล ระบบจัดเก็บข้อมูล ระบบเชื่อมต่อเครือข่าย และระบบการจัดการคลาวด์ครบวงจร ด้วย VMware Cloud Foundation องค์กรต่างๆ จะสามารถปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย้ายแอปพลิเคชั่นและดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหมดไปยังคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมความสามารถในการกู้คืนระบบกรณีที่เกิดปัญหาและอัพเกรดความสามารถใหม่ๆ อยู่เสมอโดยไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการสร้างรากฐานดิจิทัลที่สำคัญให้แก่องค์กรต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความสำเร็จในยุคดิจิทัลอีโคโนมี”

นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ประเทศไทยกำลังพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างรวดเร็ว และไอเน็ตมีความมุ่งมั่นในการจัดหาเครื่องมือที่จำเป็นเพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานไอทีให้ทันสมัย และมีการเชื่อมต่อถึงกันเพิ่มมากขึ้นควบคู่กับการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้เป็นแบบดิจิทัล เราเชื่อว่าโซลูชั่นชั้นนำของวีเอ็มแวร์จะช่วยให้ลูกค้าของเราปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้อย่างง่ายดายและคล่องตัว การสร้างรากฐานดิจิทัลที่ยืดหยุ่นและมีความมั่นคงปลอดภัย ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จในการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั้น”

นายเอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของวีเอ็มแวร์ กล่าวว่า “VMware HCX นับเป็นนวัตกรรมที่เรียกได้ว่าเป็น Game Changer ในการให้บริการคลาวด์รูปแบบใหม่สำหรับองค์กรที่ต้องการปรับใช้สถาปัตยกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทันสมัยโดยรองรับการเคลื่อนย้ายเวิร์กโหลดได้แบบไม่สะดุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไอเน็ตเป็นผู้ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย และเรามีความยินดีที่ไอเน็ตเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ระดับพรีเมียร์ด้วยเทคโนโลยีของวีเอ็มแวร์ (VMware Cloud Verified Partners) เราเชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้และการพัฒนาด้านไอซีทีจะช่วยผลักดันให้องค์กรของไทยก้าวสู่โลกของไฮบริดคลาวด์ และมัลติคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว สร้างโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจ และช่วยกระตุ้นการเติบโตในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล”

VMware Cloud Verified Partners คือ พันธมิตรผู้ให้บริการคลาวด์ของวีเอ็มแวร์ เป็นพาร์ทเนอร์ที่มีการกำหนดกลยุทธ์เพื่อรองรับการให้บริการ VMware SDDC ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงมีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริการ และการสนับสนุนระดับดาต้าเซ็นเตอร์ผ่าน Cloud Foundation โดย VMware Cloud Verified เป็นเครื่องหมายรับรองให้องค์กรต่างๆ มั่นใจได้ว่าผู้ให้บริการคลาวด์จะนำเสนอบริการอย่างสมบูรณ์แบบและทันสมัยที่สุดผ่านเทคโนโลยีของวีเอ็มแวร์ ด้วยโครงสร้างที่มีเสถียรภาพ และการทำงานบนมัลติคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันวีเอ็มแวร์มีผู้ให้บริการคลาวด์ที่ผ่านการรับรองจาก VMware Cloud Verified 35 ราย

# # #

เกี่ยวกับ วีเอ็มแวร์
วีเอ็มแวร์เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีความซับซ้อน ด้วยความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์กว่า 75,000 ราย ผนวกกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของวีเอ็มแวร์ อาทิ ระบบประมวลผล ระบบคลาวด์ โมบิลิตี้ เน็ตเวิร์คกิ้ง และระบบรักษาความปลอดภัย วีเอ็มแวร์จึงเป็นผู้ให้บริการระบบดิจิทัลพื้นฐานที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัว โดยให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 500,000 รายทั่วโลก สำนักงานใหญ่วีเอ็มแวร์ตั้งอยู่ที่เมืองพาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ในปีนี้ วีเอ็มแวร์ฉลองครบรอบ 20 ปีแห่งความก้าวหน้าในการพัฒนานวัตกรรมที่สร้างผลประโยชน์ต่อทั้งภาคธุรกิจและสังคม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ https://www.vmware.com/company.html

VMware, VMware SD-WAN, VeloCloud, vCloud, vCloud NFV, VMware Cloud, VMware Smart Assurance, NSX-T, NSX-T Data Center, VMware Ready, Workspace ONE, Pulse, Pulse IoT Center, Photon, and Photon OS เป็นเครื่องหมายทางการค้าของวีเอ็มแวร์ อิงค์ หรือ บริษัทในเครือในประเทศสหรัฐอเมริกาและเขตอื่น ๆ

เกี่ยวกับ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
ไอเน็ต (INET) ผู้ให้บริการ ICT Infrastructure as a Service Provider ด้วยประสบการณ์การให้บริการด้านไอซีทีโซลูชั่นมายาวนาน ประกอบกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ได้พัฒนาแนวทางการให้บริการเป็น ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที (ICT Infrastructure as a Service Provider) เพื่อมุ่งมั่น คิดค้น พัฒนานวัตกรรม สินค้า บริการและแอปพลิเคชั่นส์ต่างๆ รวมถึงให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้งระบบโครงข่าย เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าและสร้างความพึงพอใจอย่างต่อเนื่องด้วยมาตรฐานระดับสากล
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจากไอเน็ตได้ที่ https://inet.co.th เฟสบุ๊ค: inetclub