- บริการและโชว์รูม รองรับทั้งภาคเหนือและเชื่อมต่อประเทศพม่า
- รองรับเศรษฐกิจภาคเหนือคึกคักและการเข้าสู่ประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC
บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถบรรทุกหนักวอลโว่ ทรัคส์ และยูดีทรัคส์ แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เดินหน้าขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายและศูนย์บริการทั่วประเทศ โดยล่าสุด เปิดสาขาตาก เพื่อรองรับการจัดหน่ายและให้บริการภาคขนส่งภาคเหนือเชื่อมต่อประเทศพม่า
มร. ฌาคส์ มิเชล ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าสาขาตาก ถือเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ที่จะรองรับการเติบโตของภาคการขนส่งภาคเหนือ และยังมีส่วนเชื่อมโยงต่อระบบขนส่งระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า อีกทั้งจังหวัดตากยังเป็นพื้นที่ที่มีการขนส่งหนาแน่น เหมาะที่จะกำหนดให้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการเปิดประตูสู่ภาคเหนือ
“จังหวัดตากนี้ ถือเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญต่อการขยายงานของวอลโว่ กรุ๊ป สู่จังหวัดภาคเหนือทั้งหมด และที่สำคัญเศรษฐกิจของภาคเหนือ มีส่วนความสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้เพราะภาคเหนือเป็นจุดเชื่อมต่อไปไปยังประเทศพม่า ประเทศจีนตอนใต้และประเทศลาว และยังเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งนักธุรกิจและประชาชนในจังหวัดตากต่างตื่นตัวต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต” มร.มิเชล กล่าว
มร.มิเชล กล่าวว่าภายใต้แผนการขยายงาของวอลโว่ กรุ๊ป บริษัทฯ ได้ตั้งงบประมาณไว้สูงถึง 3,000 ล้านบาทในการสร้างสาขาเพิ่มเติม 10 แห่งและขยายปรับปรุงสาขาปัจจุบันจำนวน 5 แห่ง ทั่วประเทศ โดยขณะนี้ได้มีสาขาที่ให้บริการ 10 แห่ง และวอลโว่ กรุ๊ป จะเร่งเปิดให้ครบตามแผนงานทั้งสิ้น 15 แห่งภายในสิ้นปีนี้
ทางด้านนางลัดดาวรรณ ชาญพทิยานุกูลกิจ ผู้จัดการทั่วไป วอลโว่ กรุ๊ป ภาคเหนือ กล่าวเพิ่มเติมว่าศูนย์บริการสาขาจังหวัดตากแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ มีพื้นที่ให้บริการทั้งสิ้น 1,200 ตารางเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ให้บริการทั้ง แบรนด์วอลโว่ และแบรนด์ยูดี โดยมี6 ช่องให้บริการตามแบบมาตรฐานของวอลโว่ พร้อมให้บริการงานบำรุงรักษาทุกประเภท
– 2 –
“ดิฉันมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าสาขาตากนี้ จะเป็นสาขาที่สามารถให้บริการได้ทั้งรถที่มาจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทั้งรถบรรทุกวิ่งงานเหมืองแร่ งานก่อสร้างและงานขนส่งทั่วไป ทั้งนี้เพราะตาก ถือเป็นจังหวัดที่เชื่อมต่อไปหลายจังหวัดในภาคเหนือ และยังเชื่อมโยงไปถึงการขนส่งข้ามชายแดนแม่สอด โดยเฉพาะประเทศพม่า ผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถโดยสารจะสามารถนำรถเข้าใช้บริการภายใต้มาตรฐานวอลโว่ กรุ๊ป เราจึงเชื่อมั่นว่าสาขาแห่งนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ประกอบการ” นางลัดดาวรรณ กล่าว
มร. มิเชล กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดจำหน่ายรถบรรทุกหนักของวอลโว่ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ วอลโว่ กรุ๊ป สามารถจำหน่ายวอลโว่ 765 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในช่วงเดียวกัน 40% ในขณะที่ ยูดี ทรัคส์ 354 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในช่วงเดียวกัน 300% โดยวอลโว่ กรุ๊ป มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 5 %
“สาเหตุที่ตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น ผมอยากจะบอกว่าเป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและนักลงทุนที่เล็งเห็นความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการในอนาคตของรัฐบาลที่มีแผนจะสร้างปัจจัยพื้นฐานของประเทศ แน่นอนครับ โครงการเหล่านี้ ย่อมมีส่วนสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในอนาคตของประเทศไทย” มร.มิเชล กล่าว
