1

วสท.ฉลอง 72 ปี จัดวิ่ง วสท.มินิมาราธอน ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ 8 พ.ย.นี้ เปิดรับสมัครวันนี้-30 กย.58

1.คณะบริหารแถลงนโยบายและวสท.มินิมาราธอน

วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) องค์กรเสาหลักด้านวิศวกรรมของประเทศที่มีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจจากประชาชนและสังคม ฉลองวาระครบรอบ 72 ปี เผยนโยบายมุ่งเสริมสร้างคุณภาพวิศวกรและนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของธุรกิจอุตสาหกรรมและสังคมส่วนรวม จุดเปลี่ยนวิศวกรในโลกศตวรรษที่ 21 ต้องไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิตและสามารถเชื่อมโยงวิศวกรรมกับองค์ความรู้อื่นๆด้วย เตรียมจัดกิจกรรมเพื่อประชาชนในวาระครบรอบ 72 ปี ตลอดเดือนพฤศจิกายน 58 โดยจัดงานวิ่ง วสท.มินิมาราธอน ชิงถ้วยพระราชทาน พระบรมโอรสาธิราชฯ ณ สวนหลวง ร.9 ตามด้วยจัดงาน Engineering Expo 2015 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และงาน วสท.กาล่า ดินเนอร์ ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.)กล่าวว่า ในปัจจุบัน วสท. มีสมาชิกมากกว่า 30,000 คน ที่จบจากภายในและต่างประเทศ นายช่างเทคนิคในระดับต่างๆ หลากหลายสาขา ได้แก่ วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมอุตสาหการ วิศวกรรมเหมืองแร่โลหการและปิโตรเลียม วิศวกรรมเคมีและปิโตรเคมี วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม วิศวกรรมยานยนต์ และวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ นโยบายของวสท. สร้างเสริมพัฒนาความเข้มแข็งด้านวิชาการของประเทศ ทำให้วิศวกรรมมีบทบาทต่อวิถีชีวิต การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ มั่นคงและปลอดภัย วสท.ยังมีบทบาทเป็นศูนย์รวมความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของประเทศในการสร้างมาตรฐานต่างๆสำหรับประเทศไทย จัดอบรมให้ความรู้และพัฒนาบุคลากรของไทย เพื่ออัพเดทกับเทคโนโลยีและโลกที่เปลี่ยนแปลงรวมทั้งกฎกติการะหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เรามุ่งมองอนาคตของประเทศไทยที่จะต้องก้าวไปในโลกศตวรรษที่ 21 ซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทาย และความเสี่ยง หากเราไม่ปรับเปลี่ยนวิธีคิด และยุทธศาสตร์ก็จะทำให้เราเสียเปรียบ วิศวกรท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียว เมื่อเกิดสิ่งใดขึ้นจะส่งผลกระทบมาถึงเราด้วย บุคลากรไทยในด้านวิศวกรรมต้องไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิต รอบรู้และสามารถประยุกต์เชื่อมโยงกับองค์ความรู้อื่นๆและปัจจัยแวดล้อมได้ด้วย แนวโน้มด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีจะไม่เพียงตอบสนองประสิทธิภาพและความก้าวหน้าเท่านั้นแต่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วย ดังจะเห็นได้ว่าวิศวกรรมหลายสาขาที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น วิศวกรรมชีวการแพทย์ วิศวกรรมอาหาร ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์เพื่อสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี ขณะที่วิศวกรรมโยธาหรืองานก่อสร้างก็มีการพัฒนาโดยวิธีการก่อสร้างที่รวดเร็วและมีการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

สำหรับประเทศไทย ในอนาคตมี 5 กลุ่ม อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มจะเป็นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างมูลค่า .(Value Creation Industries ) ที่จะยกระดับกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมของประเทศให้มีความได้เปรียบในเชิงแข่งขันโดยนำเอาองค์ความรู้และการบริหารจัดการสมัยใหม่ รวมทั้งวิศวกรรมเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาประยุกต์ใช้ 5 กลุ่มนี้ ได้แก่ 1.กลุ่มอุตสาหกรรมทางชีวภาพ(Bio-Based Industry Cluster) คือ การพัฒนาต่อยอดระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร 2.กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน (Renewable Industry Cluster) คือ การพัฒนาต่อยอดระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและพลังงาน 3.กลุ่มอุตสาหกรรมด้านวิศวกรรมและการออกแบบ(Engineering & Design Industry Cluster) คือ การพัฒนาต่อยอดระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 4. กลุ่มอุตสาหกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิต (Wellness Industry Cluster) คือ การพัฒนาต่อยอดระหว่างกลุ่มอุตสาหรรมการท่องเที่ยว สุขภาพและการแพทย์ และ 5.กลุ่มอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy Industry Cluster) คือ การนำเอาความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศ (Cultural Diversity) มาสร้างคุณค่าและมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ

รศ. สิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า การดำเนินงานของวสท.มุ่งเน้นการพัฒนาวิชาชีพวิศวกรรมให้ก้าวทันโลก และมาตรฐานความปลอดภัย ประกอบด้วย การจัดอบรมสัมมนาและศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศแก่บุคลากรด้านวิศวกรรมและผู้สนใจปีละกว่า 250 หลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมปลอดภัย และวสท.จะขยายหลักสูตรเพิ่มทางด้านวิศวกรรมพลังงานและทางด้านคอมพิวเตอร์ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังศึกษาวิเคราะห์และร่วมมือกับองค์กรต่างๆในการพัฒนาคู่มือ ตำรา และมาตรฐาน วสท.เพื่อใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงานวิศวกรรมตามหลักสากลเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของประชาชนและสังคมส่วนรวม ทั้งนี้ทางวสท.ได้ร่วมมือกับสมาคมวิชาชีพ สภาวิศวกร หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ทั้งทางด้านวิชาการ และวิชาชีพในความร่วมมือต่างๆ ในด้านงานบริการสังคมนั้น ทางวสท.ได้ช่วยเหลือประชาชนและชุมชนกรณีภัยพิบัติต่างๆ อาทิเช่น ครั้งรุนแรงที่สุดของไทยในจ.เชียงรายเมื่อปี 57 ระดมวิศวกรอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและตรวจอาคารให้ประชาชน วสท.ได้สนองพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯในการออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างอาคารเรียนพระราชทาน 4 หลังทดแทนหลังเดิมของโรงเรียนที่เสียหายจากแผ่นดินไหวในจ.เชียงราย ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในปี59 วสท.ยังมีโครงการจัดทำมาตรฐานเป็นวิชาชีพที่เพิ่มขึ้น เช่น Data Center Generator คู่มือวิศวกรใหม่ เป็นต้น

ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ วสท.และประธานจัดการเเข่งขัน กล่าวถึง 3 กิจกรรมในเดือนพฤศจิกายน58 ฉลองวาระครบ 72 ปี วสท. ว่า กิจกรรมแรก คือ งาน วสท. มินิมาราธอน ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2558 ณ สวนหลวง ร.9 นับเป็นครั้งแรกที่จะร่วมกันสร้างสถิติใหม่ในอาเซียน โดยการวิ่ง…ไม่ทิ้งแก้วน้ำ และเริ่มการแข่งขันที่ตรงเวลาทางวิศวกรรม โดยเปิดรับสมัครเหล่าวิศวกรทุกเพศทุกวัย นักศึกษาและผู้รักสุขภาพในจำนวน 2,000 คนเท่านั้น การแข่งขันมีให้เลือก 3 ระยะ แบ่งเป็น 12 กิโลเมตร, 6 กิโลเมตร และ FUNRUN 3 กิโลเมตร วัตถุประสงค์เพื่อรวมพลังเหล่าวิศวกรและบุคลากรด้านวิศวกรรมในโอกาสพิเศษและเสริมสร้างพลังสร้างสรรค์ในการนำวิชาชีพมาร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืน กิจกรรมที่ 2 วันที่ 14-15 พ.ย.58 วสท.ร่วมกับพันธมิตรจัดงาน Engineering Expo 2015 เป็นงานแสดงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับวิถีชีวิตทันสมัยและโลกศตวรรษที่ 21 ณ โซนอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และกิจกรรมที่ 3 งานกาล่า ดินเนอร์ วสท.ครบรอบ 72 ปี ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์

การเเข่งขัน วสท.มินิมาราธอน เปิดรับสมัคร ประเภทระยะทาง 12กม.และระยะทาง 6 กม. ค่าสมัคร 400 บาท และสำหรับประเภท Funrun ระยะทาง 3กม. ค่าสมัคร 250 บาท ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับเสื้อที่ออกแบบอย่างสวยงามซึ่งด้านหลังจะมีข้อความ “วิ่ง…โดยไม่ทิ้งแก้วน้ำ” และรับเหรียญผู้พิชิตหลังเส้นชัยทุกท่าน โดยแบ่งรุ่นเป็นอายุต่ำกว่า 18 ปี, 18-29 ปี, 30-39 ปี, 40-49 ปี, 50-59 ปี และ 60 ปีขึ้นไป (มีถ้วยทุกรุ่น) ส่วนรางวัล ประกอบด้วย ถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มอบให้เฉพาะผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่ 1 ประเภท Overall ของชายและหญิง, ถ้วยรุ่นอายุ สำหรับ 5 อันดับแรก สำหรับการแข่งขันระยะ 12 กิโลเมตรเท่านั้น และเหรียญทอง สำหรับผู้ที่เข้าเส้นชัย 300 ท่านแรกเท่านั้น ส่วนเวลาการปล่อยตัว เริ่มเวลา 05.30น. ปล่อยตัวสำหรับ ระยะ 12 กิโลเมตร , เวลา 05.45น. ปล่อยตัว ระยะ 6 กิโลเมตร และเวลา 06.00น. ปล่อยตัวระยะ 3 กิโลเมตร

เปิดรับสมัครวันนี้ -30 กย.58 ลงทะเบียนการแข่งขันได้ที่:http://goo.gl/forms/UgdaxOK1N3
สอบถามเพิ่มเติม โทร 02-678-3712 หรือ 086-339-3020 ในเวลา 10.00น.-17.00น. หรือส่งข้อความทาง Inboxโดยตรง ที่ EIT mini Marathon Fanpage : https://www.facebook.com/pages/EIT-mini-Marathon/1609769399277260?fref=ts