นายสิทธิวัฒน์ สหวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีนโยบายรุกตลาดสินค้าสำเร็จรูป (Finished Product) อย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการนำนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เทียบเท่ามาตรฐานยุโรปเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ล่าสุด บริษัทฯ ได้เข้าร่วมออกบูธในงานสถาปนิก’59 ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2559 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี และได้เปิดตัวสินค้าใหม่ 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย กลุ่มพื้นไม้ลามิเนต และ ประตูสำหรับภายนอก เพื่อขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์พื้นไม้ลามิเนต ได้มีการเปิดตัว 4 สินค้า ประกอบด้วย True Nature ขนาด 12x125x1210 มม. มีให้เลือก 8 เฉดสี, Wide plank (ไม้หน้ากว้าง) ขนาด 12x298x1205 มม. มีให้เลือก 8 เฉดสี, Long Plank (ไม้ยาวพิเศษ) ขนาด 12x193x1885 มม. มีให้เลือก 8 เฉดสี และ EIR ขนาด 12x193x1205 มม. โดยทั้งหมดมาพร้อมเทคโนโลยีระบบล็อกแบบใหม่ “5G System Lock” ที่สามารถติดตั้งได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งบริษัทฯ ได้ซื้อลิขสิทธิ์ (License) จาก Valinge ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติสวีเดนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) รายใหญ่ของโลก
“ปัจจุบันทั่วโลกมีบริษัทที่มีลิขสิทธิ์ด้านระบบ Click Lock เพียง 2 ราย ซึ่ง Valinge เป็น 1 ใน 2 ของโลก และมีสำนักงานใหญ่ที่เซี่ยงไฮ้เพื่อซัพพอร์ตลูกค้าในโซนเอเชีย ที่ผ่านมาบริษัทฯ ใช้เทคโนโลยีระบบล็อกของ Valinge มาตั้งแต่รุ่น 2G ซึ่งทาง Valinge ได้มีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนถึงนวัตกรรมล่าสุดคือ 5G ด้วยจุดขายที่โดดเด่นคือ ความสะดวกรวดเร็วในการติดตั้งมากกว่า 50% มีความทนทาน ประกอบง่าย ถอดง่าย รวมถึงสามารถแก้ไขซ่อมแซมได้อย่างสะดวกและง่ายดาย โดยบริษัทฯ เป็นรายแรกที่ได้ลิขสิทธิ์นวัตกรรม 5G เข้ามาในประเทศไทย ประกอบกับบริษัทฯ เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ ซึ่งสินค้าที่จะส่งออกไปยังยุโรปและอเมริกาจะต้องมีลิขสิทธิ์ของ Valinge เป็นการันตีมาตรฐานของสินค้า” นายสิทธิวัฒน์ กล่าว
ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ประตู จากเดิมที่บริษัทฯ ผลิตประตู HDF สำหรับภายในอยู่แล้ว ได้มีการเพิ่มไลน์สินค้าเป็นประตูสำหรับภายนอกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยได้เปิดตัว 4 สินค้าเช่นกัน ประกอบด้วย HDF ประตูกันน้ำ ขนาด 700/800/900×2000/2100×35 มม., เมลามีนพร้อมวงกบ ขนาด 700/800/900×2000/2200×35 มม., เมลามีนเซาะร่องพร้อมวงกบ ขนาด 700/800/900×2000/2200×35 มม. และ ไม้ตกแต่งภายใน ขนาด 15x224x0.9 ซม. โดยจะจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก เช่น ไทวัสดุ
โฮมโปร โฮมเวิร์ค และเมกาโฮม เป็นต้น
นายสิทธิวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เข้าชมบูธของบริษัทฯ ในงานสถาปนิก’59 ให้ความสนใจนวัตกรรม 5G เป็นอย่างมาก เนื่องจากการติดตั้งที่สะดวกรวดเร็วเป็นจุดแข็งของงานอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับงานพื้นเป็นงานในอันดับท้ายๆ ของการก่อสร้าง ดังนั้น หากดีเวลอปเปอร์จบงานได้เร็วก็จะปิดโครงการได้เร็วขึ้น ช่วยเซฟในเรื่องของการเวลา ลดต้นทุนการเสียโอกาส ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของวนชัยกรุ๊ปที่จะออกมาในปีนี้จะเป็นนวัตกรรม 5G ทั้งหมด และเป็น ไม้ E1 มาตรฐานยุโรป มั่นใจว่านวัตกรรม 5G และมาตรฐาน E1 จะส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายในส่วนของพื้นไม้ลามิเนตเพิ่มขึ้นประมาณ 10 – 15%
“ปัจจุบันสินค้าของบริษัทฯ แบ่งตามประเภทการผลิตออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. สินค้าที่ผลิตตามความต้องการของลูกค้า (OEM) คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% กลุ่มลูกค้าคือ ดีเวลอปเปอร์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ระดับ TOP10 เช่น พฤกษา แอลพีเอ็น แลนด์แอนด์เฮาส์ แสนสิริ และคิวเฮาส์ เป็นต้น และ 2.สินค้าที่เป็นแบรนด์ของวนชัย 20% จะจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดพื้นไม้ลามิเนตในประเทศไทย 70% แบ่งเป็นสินค้า OEM 60% และสินค้าแบรนด์วนชัย 10% โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา กลุ่มผลิตภัณฑ์พื้นไม้สำเร็จรูปของบริษัทฯ เติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมองว่าไตรมาส 2 จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกบริษัทที่ประกอบธุรกิจลักษณะเดียวกับวนชัยฯ ก็ยังคงเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ
อย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคระดับมีเดียมไปจนถึงระดับไฮเอนด์ยังคงมีกำลังซื้อสูง” นายสิทธิวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้สนใจสามารถสัมผัสนวัตกรรมสินค้าของบริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ที่ ไทวัสดุ โฮมโปร โฮมเวิร์ค เมกาโฮม ตัวแทนจำหน่าย และตัวแทนร้านค้า ร้านวัสดุทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.vanachai.com หรือ facebook.com/vanachaiinside โทรศัพท์ 02 913 2180-9