1

รีเจ้นท์จับมือยักษ์ใหญ่ BTEC-Pearson เปิดวิทยาลัยรีเจนท์นานาชาติเพื่ออาชีพ มาตรฐานสากล รองรับAEC

1.ความร่วมมือเปิดวิทยาลัยรีเจ้นท์นานาชาติเพื่ออาชีพ-Large

จากนโยบายของนายกรัฐมนตรีในการเร่งปฎิรูปการศึกษาเพื่ออาชีพสู่มาตรฐานสากล แก้ปัญหาวิกฤติคุณภาพและการขาดแคลนแรงงานวิชาชีพปีละ 4 แสนคน โดยมุ่งเสริมทวิศึกษา (Dual system) ให้สถาบันการศึกษาทำงานร่วมกับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมใกล้ชิดในการออกแบบและฝึกงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์รองรับเศรษฐกิจยุคดิจิตอลและประชาคมอาเซียน ทำอย่างไรให้มีคุณภาพมาตรฐานวิชาชีพเป็นสากล จบแล้วมีงานทำรายได้มั่นคงและเป็นที่ต้องการของนายจ้างและองค์กรในประเทศไทยและอาเซียน มีรายได้ดีและสามารถพัฒนาอาชีพได้ยั่งยืน ทั้งนี้ในหลายประเทศได้ยกระดับมาตรฐานการศึกษาวิชาชีพเป็นระดับสากลเดียวกันหลายปีแล้ว (International Qualifications) คงเหลือแต่ประเทศไทย ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ ประธานกรรมการกลุ่มโรงเรียนนานาชาติจึงได้ร่วมมือกับ สภาการศึกษาธุรกิจและเทคโนยีแห่งอังกฤษ Business Technology Education Council หรือ BTEC และ Pearson องค์กรด้านการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดดำเนินการนำร่อง วิทยาลัยรีเจ้นท์นานาชาติเพื่ออาชีพ (Regent’s International College) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษานานาชาติเพื่ออาชีพครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อร่วมขับเคลื่อนโมเดลของมัธยมเพื่ออาชีพและอุดมศึกษาเพื่ออาชีพ ด้วยหลักสูตรนานาชาติ BTEC-Pearson ที่เปิดสอนแพร่หลายมากที่สุดในนานาประเทศ ปัจจุบันมีผู้เรียนทั่วโลก 1.1 ล้านคน ได้แก่ ประเทศอังกฤษ สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ฮ่องกง ออสเตรเลีย จีน พม่า บราซิล อียิปต์ และเป็นที่ยอมรับของธุรกิจอุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัยทั่วโลกมากที่สุดกว่า 1,100 แห่ง เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ “ผู้ใช้ร่วมคิด ผู้ผลิตร่วมกำหนด” และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้สังคมและเศรษฐกิจของประเทศเจริญเติบโตและเกิดการพัฒนาที่วัดผลได้

ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ (Dr. Virachai Techavijit) ประธานกรรมการ วิทยาลัยรีเจ้นท์นานาชาติเพื่ออาชีพ (Regent’s International College -RIC ) ตั้งอยู่ที่ถนนประชาอุทิศ ห้วยขวาง อยู่ในเครือเดียวกับโรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติระดับแนวหน้าของเมืองไทยที่สั่งสมประสบการณ์ด้านการศึกษานานาชาติมายาวนานและสร้างชื่อเสียงโดยนักเรียนของรีเจ้นท์จบจากประเทศก็มักจะเข้าเรียนต่อที่ Cambridge, Oxford, LSE เป็นประจำ กล่าวว่า” วิทยาลัยรีเจ้นท์นานาชาติเพื่ออาชีพ เกิดจากความร่วมมือระหว่างโรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ ร่วมกับ BTEC – Pearson บอร์ดการศึกษาใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ และของโลกผู้พัฒนาหลักสูตร IGCSE ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศอังกฤษและของโลก ปัจจุบัน BTEC ของ Pearson มีมากกว่า 5,500 หลักสูตร มีนักศึกษารวมทั่วโลก 1.1 ล้านคนต่อปี ได้ตรวจและอนุมัติให้ รีเจ้นท์ เป็นตัวแทนในการนำหลักสูตรมาเปิดการเรียนการสอนในประเทศไทยได้ นับเป็นสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติเพื่ออาชีพครั้งแรกในประเทศไทย ทั้งในระดับมัธยมปลาย และอนุปริญญา และสามารถไปเรียนต่ออีกเพียงหนึ่งปีเพื่อรับปริญญาตรีในประเทศอังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลียและสิงคโปร์ เรียกว่า Top up degree ประกอบด้วย 4 คณะ คือ 1.คณะบริหารธุรกิจ (Business Management) 2.คณะการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว (Hospitality and Tourism Management) 3. คณะการบัญชีนานาชาติ (International Accounting) 4.คณะคอมพิวเตอร์เพื่อธุรกิจนานาชาติ (ICT for Business) หลักสูตรเป็นภาษาอังกฤษโดยหลักสูตรมัธยมปลาย BTEC levels 1 – 3 เรียน 1 ถึง 3 ปี (ขึ้นอยู่กับอายุและพื้นฐานภาษาอังกฤษ) หลักสูตรอนุปริญญา BTEC levels 4 – 5 เรียน 2 ปี และไปเรียนต่ออีกเพียง 1 ปีที่เมืองนอกเพื่อรับปริญญาตรีจาก 250 มหาวิทยาลัยที่ผู้เรียนเลือกในประเทศอังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลียและสิงคโปร์ กล่าวโดยสรุปคือเรียน 2 ปีในไทยและอีก 1 ปี สามารถเลือกเรียนต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำในนานาประเทศทั่วโลกกว่า 250 แห่ง

มิสฟรานเชสก้า วู้ดเวิร์ด (Ms.Francesca Woodward) , Global Head แห่ง Pearson Ltd. กล่าวถึงจุดเด่นหลักสูตรของวิทยาลัยรีเจ้นท์นานาชาติเพื่ออาชีพ (Regent’s International College) คือ เราใช้หลักสูตรการศึกษาเพื่ออาชีพ BTEC ซึ่งแพร่หลายในนานาประเทศทั่วโลก โดยเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานและประสิทธิผลที่ภาคเอกชนธุรกิจอุตสาหกรรมยอมรับในคุณภาพ และเป็นที่ยอมรับของมหาวิทยาลัยทั่วโลกกว่า 250 แห่ง จุดเด่นหลักสูตรผสมผสานระหว่างการเรียนกับโลกแห่งการทำงานจริงเข้าไว้ด้วยกันโดยเน้นให้มีการฝึกปฏิบัติงานจริงควบคู่กัน ณ สถานประกอบการจริง ที่กรรมาธิการการศึกษาของ สนช.และกระทรวงศึกษา เรียกว่า ทวิศึกษา (Dual system) ซึ่งมีการนำส่วนวิชาการมาผสมผสานกับภาคปฏิบัติได้อย่างลงตัว กว่า 30 ปี ที่หลักสูตร BTEC ได้ช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานโดยสามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับผู้คนนับล้านซึ่ง BTEC นั้นเป็นหลักสูตรที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานได้จริง ทั้งยังเป็นที่น่าสนใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เรียนในแต่ละวัย เน้นวิธีการปฏิบัติงานในสถานที่จริง โดยนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการทำงานจริง ผู้เรียนได้ลงมือทำเองและแสดงศักยภาพ ได้รับอิสระในการศึกษาค้นคว้ามากขึ้น โดยการเปิดโลกกว้างทางความคิดไม่ใช่แค่ความรู้จากการสอนภายในห้องเรียนสี่เหลี่ยมเท่านั้น ในระหว่างที่ผู้เรียนทำรายงานนั้นคณาจารย์ผู้สอนจะเป็นผู้ประเมินผลงาน พร้อมทั้งให้คำแนะนำและช่วยเหลือในข้อบกพร่องต่างๆ ห้องเรียนมีจำนวนผู้เรียน 10-15 คน การวัดผลต่อเนื่องด้วยวิธีลงมือปฏิบัติจริง หลักสูตรมีความยืดหยุ่นทำให้สามารถเลือกเรียนเต็มวัน หรือจะเรียนและทำงานควบคู่ไปด้วยกันก็ได้ จบแล้วทำงานได้ทั่วโลก หรือจะศึกษาต่อ หลักสูตรระดับสากลที่เทียบโอนหน่วยกิตได้ทั่วโลก นอกจากนี้หลักสูตรยังมีการอัพเดทเทคโนโลยีตลอดเวลา และที่สำคัญจะมี inspectors and reviewers มาตรวจงานต่างๆของนักเรียนที่โรงเรียน หากผ่านก็จะได้รับการรับรองจาก Pearson เป็นรายวิชาไป วิทยาลัยรีเจ้นท์นานาชาติเพื่ออาชีพ จะไม่สามารถออกประกาศนียบัตรของตนเองได้ เหมือนที่ไม่สามารถออกประกาศนียบัตรให้นักเรียนที่เรียนจบ IGCSE, A level หรือ IB แต่เป็น Pearson และ IBO จะเป็นผู้ออก เมื่อนักเรียนเรียนจบหลักสูตรครบสมบูรณ์และสอบผ่าน นี่คือ International Qualifications ที่บริษัทต่างชาติผู้ว่าจ้างคุ้นเคยและเชื่อมั่นว่าใครจบ BTEC level โน้น Level นี้ จะมีความสามารถ คือ competency ในการทำงานที่ชัดเจนแน่นอน ประเทศไทยต้องยกระดับทักษะการทำงานให้ไปสู่ระดับสากล หรือ International Qualifications ให้ได้ โครงการนี้เป็นโมเดลจุดประกายแก่สถาบันการศึกษาต่อไป

มร.นิติน ดัตต้า (Mr.Nitin Dutta) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของวิทยาลัยเพื่ออาชีพแห่งนี้ กล่าวว่า “ BTEC ในประเทศไทย มีเป้าหมายจำนวนนักศึกษา ในปี 2559 ประมาณ 100 คน และ 1,000 คน ในอีก 5 ปีข้างหน้า กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน ได้แก่ นักเรียนนานาชาติในประเทศไทยและประเทศอาเซียน นักเรียนจากโรงเรียนสองภาษา นักเรียนมัธยมศึกษาจากทั่วประเทศที่ต้องการทางเลือกใหม่ของความก้าวหน้าในอาชีพโดยสามารถต่อยอดไปถึงปริญญาตรีได้โดยเรียนเพี่ยง 1 ปีในต่างประเทศ สำหรับนักเรียนต่างจังหวัดและต่างประเทศ เรามีหอพักที่ทันสมัยสำหรับนักเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หลักสูตร BTEC ประกอบด้วย หลักสูตรสู่ปริญญาตรี 3 ปี โดยเรียน Level 4 and 5 ใน 2 ปี ในประเทศไทย และอีก 1 ปี ณ มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกกว่า 250 แห่ง ที่ผู้เรียนเลือกได้ พร้อมรับคุณวุฒิปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยนั้นๆโดยตรง แน่นอนนักเรียนที่ฐานภาษาอังกฤษอ่อนยังไม่เข้าเกณฑ์ จะต้องเรียน foundation 1 ปีก่อน จึงต้องใช้เวลาเรียนในประเทศไทย 3 ปีและต่อ 1 ปีสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศอังกฤษ พร้อมหลากหลายทางเลือกกับมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 250 แห่งทั่วโลกที่สามารถเลือกไปเรียนต่อได้ การเรียนในประเทศไทยจะใช้เวลาเรียนทั้งหมด 3 ปี โดยแต่ละปีแบ่งออกเป็น 3 เทอมผู้เรียนจะได้เรียนทั้งภาคทฤษฎีผสมการปฏิบัติงานไปพร้อมกัน และลงมือฝึกปฏิบัติงานแบบเต็มเวลาในเทอมที่ 3 ของปีที่ 1 และ 2 ซึ่งผู้เรียนจะได้ฝึกงานกับบริษัทชั้นนำในสายอาชีพนั้นๆโดยตรง ตามยุทธศาสตร์ dual system ของ สนช. และกระทรวง เมื่อจบการศึกษา 3 ปีในประเทศไทย ผู้เรียนของเราจะได้รับวุฒิ Higher National Diploma (HND) จากบอร์ดการศึกษาของอังกฤษ Pearson -Edexcel และในปีสุดท้ายของการเรียนนั้นผู้เรียนจะได้รับวุฒิปริญญาตรีจากทางมหาวิทยาลัยที่เลือกเรียนต่อโดยตรง Regent’s International College ในไทยไม่สามารถประสาทประกาศนียบัตรหรือ ปริญญาตรีได้ แต่เป็นสถาบันต่างประเทศเป็นผู้ออก เหมือนโรงเรียนนานาชาติในปัจจุบัน

ประโยชน์ที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเรียนหลักสูตร BTEC คือ ได้ฝึกปฏิบัติในหน่วยงานหรือองค์กรเฉพาะด้านในสาขานั้นๆโดยตรง Dual system เรียนรู้จากอาจารย์เจ้าของภาษาที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและประสบการณ์ในสาขาวิชาชีพนั้นๆ เพื่อตอบโจทย์นายจ้างตรงความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม,ผู้เรียนจะได้รับวุฒิปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศที่เลือกเรียนในปีสุดท้าย และจะได้รับคุณวุฒิจากบอร์ดการศึกษา Pearson- Edexcel ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล ผู้เรียนสามารถเลือกศึกษาต่อในปีสุดท้ายได้มากกว่า 250 มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก ได้เรียนในหลักสูตรระดับสากลที่สามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้ทั่วโลก ส่วนค่าเล่าเรียน Level 3, Level 4-5 ปีละ 255,000 บาท รายละเอียดติดต่อ www.ricbkk.com; Email: info@ricbkk.com”
ผู้ที่จบ BTEC ระดับ 5 ( แทน ปวส.) จะได้งานทำที่มั่นคง มีรายได้ที่มั่งคั่งและมีอนาคตที่ยั่งยืน สมตามเจตนาของการปฏิรูปการเรียนเพิ่มทักษะอาชีพของรัฐบาลชุดนี้
นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม้จะเริ่มช้าไปสักนิด แต่การศึกษาเพื่ออาชีพและมาตรฐานวิชาชีพระดับสากลเป็นพลังและโอกาสสำคัญของคนไทยและประเทศไทยในการก้าวไปข้างหน้าให้ถูกทางและมั่นคง