PT Rintis Sejahtera (Rintis) สถาบันด้านเอทีเอ็มสวิตช์ของอินโดนีเซีย และ ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล (UPI) เครือข่ายผู้ให้บริการชำระเงินระดับโลก ได้ลงนามในกรอบความร่วมมือเพื่อออกบัตรเดบิตแบบชิปการ์ดในประเทศอินโดนีเซีย ความร่วมมือนี้จะปูทางให้ UPI มีบทบาทมากขึ้นในการช่วยเหลือ Rintis และอุตสาหกรรมการชำระเงินในอินโดนีเซียให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชำระเงิน รวมถึงนำเสนอวิธีการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่ๆให้แก่ลูกค้าทั่วไปและผู้ประกอบธุรกิจ ในขณะที่อาเซียนกำลังมุ่งสู่การเป็นสังคมที่ไม่ใช้เงินสด
ข้อตกลงใหม่นี้ต่อยอดมาจากข้อตกลงชิปการ์ดที่ UPI ลงนามไปเมื่อปีที่แล้วร่วมกับสมาชิก 7 รายของ Asian Payment Network (APN) ซึ่งมี Rintis เป็นหนึ่งในนั้น โดยข้อตกลงใหม่มีการขยายขอบเขตความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย และเป็นจุดเริ่มต้นของการออกบัตรเดบิตร่วม PRIMA-UnionPay ที่ใช้เทคโนโลยีชิปการ์ดของยูเนี่ยนเพย์เป็นครั้งแรกในอินโดนีเซีย
เนื่องจากบัตรเดบิตส่วนใหญ่ในอินโดนีเซียยังคงเป็นบัตรแบบแถบแม่เหล็ก เทคโนโลยีชิปการ์ดของยูเนี่ยนเพย์จึงเข้ามายกระดับความปลอดภัยในการชำระเงินด้วยการป้องกันการคัดลอกข้อมูลบัตรและข้อมูลผู้ใช้ นอกจากนี้ บัตรเดบิตร่วม PRIMA-UnionPay ยังใช้รหัสพิน PIN ที่ทำให้การทำธุรกรรมมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จึงสามารถใช้บัตรซื้อสินค้าออนไลน์ได้อย่างอุ่นใจ ทั้งยังรองรับวิธีการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆในอนาคต
Iwan Setiawan ประธานกรรมการ PT Rintis Sejahtera กล่าวว่า “การลงนามข้อตกลงกับ UPI ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ความร่วมมือครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ความทุ่มเทที่ทีมงาน Rintis มีให้กับการสร้างความร่วมมือครั้งนี้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และในขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับธนาคารหลายแห่งในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 เราก็มองหาความร่วมมือใหม่ๆกับ UPI ในด้านการชำระเงินแบบดิจิทัลเช่นกัน โดยจะเริ่มจากการชำระเงินผ่าน QR Code ในช่วงต้นปี 2561”
ไช่ เจียนป๋อ ซีอีโอของยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่าง Rintis และ UPI เป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่าย หนึ่งคือ อุตสาหกรรมการชำระเงินในอินโดนีเซียกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่าน และ UPI ซึ่งมีธุรกิจใน 162 ประเทศและดินแดน จะมอบความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ บริการ เทคโนโลยี และเครือข่ายการชำระเงิน เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินและกำหนดสถานะของตนเองเพื่ออนาคต สองคือ การออกบัตรเดบิตร่วม PRIMA-UnionPay ในวงกว้างจะทำให้ผู้คนจำนวนมากได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายผ่านบัตรยูเนี่ยนเพย์ ทั้งยังเปิดโอกาสให้เรายกระดับความเข้าใจและความร่วมมือกับธนาคารในประเทศเพื่อให้บริการผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น”
ปัจจุบัน บัตรยูเนี่ยนเพย์สามารถใช้ได้กับตู้เอทีเอ็มเกือบทุกตู้ รวมถึงร้านค้าและห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ในอินโดนีเซีย เช่น DFS, Dufry, Grand Indonesia, Indomaret, Metro, Plaza Indonesia, Sogo และอื่นๆ โดยร้านค้ากว่า 45 ล้านแห่ง และตู้เอทีเอ็ม 2.55 ล้านตู้ทั่วโลกต่างรับบัตรยูเนี่ยนเพย์ ทั้งนี้ ผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียจะได้เพลิดเพลินไปกับความสะดวกและง่ายดายในการชำระเงินทั้งในประเทศและทั่วโลกเมื่อใช้บัตรเดบิต PRIMA-UnionPay นอกจากนั้นยังประหยัดเงินได้มากขึ้น ด้วยสิทธิพิเศษกว่า 1,400 รายการ ณ ร้านค้าพันธมิตรทั่วโลก
เกี่ยวกับยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล
ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล (UPI) มุ่งสนับสนุนธุรกิจการชำระเงินทั่วโลกของยูเนี่ยนเพย์ ที่ให้บริการแก่ฐานลูกค้าผู้ถือบัตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการออกบัตรกว่า 6.3 พันล้านใบ ใน 162 ประเทศและดินแดน ขณะที่ร้านค้ากว่า 45 ล้านแห่ง และตู้เอทีเอ็ม 2.55 ล้านตู้ทั่วโลกก็รองรับบัตรของเรา ปัจจุบัน ยูเนี่ยนเพย์จึงเป็นหนึ่งในเครือข่ายการชำระเงินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
ยูเนี่ยนเพย์มีเครือข่ายรองรับบัตรทั่วโลกและหลากหลายบริการชำระเงินระดับเวิลด์คลาส เรานำเสนอโซลูชั่นการชำระเงินที่คุ้มค่าและปลอดภัยตามความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศ เพื่อมอบทางเลือกและความสะดวกสบายในการชำระเงินให้แก่ลูกค้าทั่วไปและผู้ประกอบธุรกิจ
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการออกบัตรยูเนี่ยนเพย์และมีตู้เอทีเอ็มและร้านค้าที่รับบัตรยูเนี่ยนเพย์ครบทั้ง 10 ประเทศ โดยในอินโดนีเซีย UPI ได้จับมือกับ Bank Mandiri, Bank Sinarmas, BCA, BOC, Bukopin, ICBC, Indopay, Rintis ฯลฯ เพื่อส่งมอบหลากหลายผลิตภัณฑ์และบริการชำระเงินให้แก่ลูกค้า สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.unionpayintl.com
รูปภาพ – https://photos.prnasia.com/prnh/20171130/2004111-1