ม.บูรพาออกโรงสรรหาผู้รักษาการแทนอธิการบดีทำทุกอย่างตามกฎหมาย มั่นใจผลงานเป็นที่ประจักษ์

0
357
image_pdfimage_printPrint

ผู้บริหารมหาวิทยาลัยบูรพา  พร้อมด้วยคณบดีกว่า 90% ร่วมเป็นสักขีพยานแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีการแต่งตั้ง  ศ.นพ.สมพล  พงศ์ไทย  เป็นผู้รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา  ณ อาคาร 50 ปี  มหาวิทยาลัยบูรพา

IMG_8429_resize

ดร.ฤทธิกร  ศิริประเสริฐโชค  ผู้รักษาการแทนอธิการบดีในฐานะผู้ได้รับมอบหมายจากผู้รักษาการแทนอธิการบดีและได้รับอนุญาตจากนากยกสภามหาวิทยาลัย  กล่าวว่า  สาเหตุที่สภามหาวิทยาลัยไม่พิจารณาเลือกเสนอชื่อเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากรายชื่อ 3 ราย  เนื่องจากการแต่งตั้งกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก 3 คนให้เป็นกรรมการสรรหาอธิการบดีนั้น  มีการบล็อกโหวต  คือนัดแนะชักจูงกรรมการสภาให้เลือกบุคคลที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า  มีหลักฐานเป็นข้อความ SMS ที่ส่งให้กันทางโทรศัพท์  ซึ่งข้อมูลไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้ส่ง  แต่จากผลจากลงคะแนนลับเลือกกรรมการ 3 คนเป็นกรรมการสรรหาอธิการบดี  ก็เป็นบุคคล 3 คน  ตามรายชื่อใน SMS นั้น  และได้มีการทักท้วงเรื่องนี้ในที่ประชุมสภา  นอกจากนี้  ศ.ดร.สุชาติ  อุปถัมภ์  เคยเป็นกรรมการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  ได้มาเป็นประธานกรรมการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพาและได้มาสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นอธิการบดีด้วย  ลักษณะเช่นนี้เป็นสถานะที่นำพาไปสู่ผลประโยชน์ทับซ้อนได้ แต่กรรมการสรรหาและนายกสภาในขณะนั้นปฏิเสธการพิจารณาข้อทักท้วงเหล่านี้และให้ดำเนินการสรรหาต่อไป อีกทั้งคณะกรรมการสรรหาได้กำหนดน้ำหนักคะแนนคุณลักษณะอธิการบดี 4 ด้านคือ  คุณธรรม 30 คะแนน  ด้านบริหาร 40 คะแนน  ด้านความเป็นผู้นำ 20 คะแนน  ด้านมนุษยสัมพันธ์ 10 คะแนน  แต่มิได้กำหนดวิธีการวัดและพิจารณาคุณสมบัติเหล่านี้ให้เป็นรูปธรรม  จึงได้มีการทักท้วงอีกจากกลุ่มคณบดี  รองคณบดี และบุคลากรมหาวิทยาลัย  แต่คณะกรรมการสรรหาได้ดำเนินการสรรหาต่อไปโดยเพิกเฉยต่อข้อแนะนำในการสรรหาอธิการบดี

อย่างไรก็ตามการสรรหาอธิการบดีคนใหม่ ทางสภามหาวิทยาลัยได้เริ่มกระบวนการพิจารณาเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาใหม่ตั้งแต่รอบการประชุมเดือนกรกฎาคม 2557 เรื่อยมารวม 4 ครั้ง แต่มีอุปสรรค คือ ขาดองค์ประกอบคณะกรรมการสรรหาอีก 1 คนที่ต้องเลือกจาก 3 คน  เพราะมี 2 ใน 3 คนปฏิเสธที่จะเลือก จนถึงการประชุมรอบเดือนกันยายน 2557  ประธานกรรมการสรรหาชุดเดิม  ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุญยโสภณ สภามหาวิทยาลัย  ระบุถึง 2 ครั้งในการประชุมว่า  ผู้รักษาการแทนอธิการบดีที่สภามหาวิทยาลัยมีมติแต่งตั้งแล้วนั้นถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีโดยมีอำนาจเทียบเท่ากับอธิการบดีตามกฎหมาย  ภารกิจของมหาวิทยาลัยยังคงดำเนินการไปได้ตามปกติ  และเห็นสมควรให้ชะลดการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯชุดใหม่  จนกว่าศาลปกครองระยองจะมีคำพิพากษาในคดีปกครองก่อน  คดีดังกล่าวเป็นคดีที่บุคคล 3 คนข้างต้นฟ้องขอเพิกถอนมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยและมิให้สภาดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการสรรหาอธิการบดีคนใหม่  ซึ่งนายกสมาคมศิษย์เก่า  ดร.สาธิต  ปิติวรา ซึ่งเป็นกรรมการสรรหาชุดเดิมด้วยนั้นก็ให้การสนับสนุนความเห็นของ ศ.ดร.ธีรวุฒิ  จึงมีมติให้ชะลอการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯชุดใหม่ไว้ก่อน

จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นว่าการสรรหาอธิการบดีเป็นเรื่องของสภามหาวิทยาลัย  ที่อยู่เหนือและแยกต่างหากจากมหาวิทยาลัย  การที่มีกลุ่มบุคคลออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องการสรรหาอธิการบดีตามข่าวนั้น  ท่านเหล่านั้นกำลังกดดันและสร้างความไม่สบายใจให้แก่กรรมการสภา ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและผู้อาวุโสในบ้านเมืองทั้งสิ้น  อีกทั้งยังมีท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือที่เป็นผู้บริหารสูงสุดของสถาบันอุดมศึกษาอีกแห่งหนึ่ง

 

 

การเคลื่อนไหวเช่นนี้ถือว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง  เพราะอาจสร้างความเข้าใจผิดระหว่างมหาวิทยาลัยได้  และผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านล้วนอุทิศตนมาเพื่อมหาวิทยาลัย  เพื่อนิสิต  เพื่อสังคม  มุ่งหวังในการช่วยพัฒนาประเทศชาติ  และเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดิน  ท่านเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ได้รับเงินเดือน  และไม่มีผลประโยชน์พิเศษใดๆ กรรมการทุกท่านมุ่งมั่นทำงานหนักเพื่อนิสิต  บุคลากร และสังคมอย่างแท้จริง  กลุ่มบุคคลที่ออกมาเคลื่อนไหวนี้ก็น่าจะทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นอย่างดีแล้ว  ไม่แน่ใจว่ามีวัตถุประสงค์ที่แท้จริงอย่างไร  จึงออกมาเคลื่อนไหวและทำตัวเองให้เป็นข่าวเช่นนี้

ตลอดระยะเวลาทั้งก่อนและหลังการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา  มหาวิทยาลัยไม่มีความเสียหาย  ความแตกแยกหรือแตกความสามัคคีใดๆ  ผู้บริหารและบุคลากรปฏิบัติหน้าที่กันตามปกติ  ทุกคนร่วมกันดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย  และคณบดีต่างร่วมมือกันบริหารงานของแต่ละคณะวิชาอย่างต่อเนื่องและมีผลงานการบริหารเป็นที่ประจักษ์นำพาให้มหาวิทยาลัยบูรพามีพัฒนาการตามเป้าหมาย มีแผนที่ชัดเจน ท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถ มีวิสัยทัศน์ และยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแห่งตนเป็นที่ตั้ง  จากผู้ปฏิบัติงานทั้งสิ้นประมาณ 3,400 คน  และนิสิตรวมทั้งสิ้นประมาณ  48,000 คน  รวมประชาคมกว่า  50,000 คน  และจากการสำรวจผลงานของทุกส่วนงานรวมกันครั้งล่าสุดพบว่า ดัชนีความสุขนิสิต 3.95 จาก 4 และดัชนีความสุขของผู้ปฏิบัติงานอยู่ที่ 3.44 จาก 4 นอกจากนี้ ระหว่างการบริหารงานของ ศ. นพ.สมพล พงศ์ไทย มหาวิทยาลัยบูรพามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเปรียบเทียบตั้งแต่ปีงบประมาณ 2553 ถึงปี 2557 คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 2,600 ล้านบาท และปีงบประมาณล่าสุด มหาวิทยาลัยมีผลงานจากการจดสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรหรืองานสร้างสรรค์รวม 6 ชิ้น ซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมาย (3 ชิ้น) 200% สามารถบรรลุเป้าหมายความพึงพอใจของนายจ้างที่มีต่อผู้สำเร็จการศึกษาสูงถึงร้อยละ 92.08  และบรรลุเป้าหมายดัชนีคุณภาพบทความวิจัย 510%                  จากข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นสิ่งยืนยันถึงความชัดเจนของความสำเร็จของมหาวิทยาลัยบูรพาจากการบริหารงานของ                           ศ.นพ. สมพล  พงศ์ไทย