โครงการ “อาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ” โดย มูลนิธิเอสซีจี เห็นความสำคัญของการเตรียมความพร้อมของน้องนักเรียนทุนอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ รุ่นที่ 1 ที่กำลังจะก้าวสู่โลกการทำงานจริง จึงได้จัดกิจกรรม“อาชีวะฝีมือชน สู่โลกการทำงาน” เพื่อเปิดโอกาสให้กับนักเรียนทุนฯ ที่กำลังจะจบการศึกษาชั้น ปวส. 2 ซึ่งเป็นระดับชั้นสุดท้ายของการเรียนอาชีวะ ได้เตรียมความพร้อมสู่โลกการทำงาน เรียนรู้ทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตอันใกล้นี้ เช่น การเขียน Resume การพัฒนาบุคลิกภาพ การฝึกฝนเพื่อเรียนรู้ให้ทันโลกแห่งภาษาอังกฤษและเทคโนโลยี รวมถึงเรียนรู้การบริหารจัดการเรื่องจิตใจ เช่น การบาลานซ์ชีวิตการทำงานกับครอบครัว และการแสดงความกตัญญูต่อบุพการี เป็นต้น
ขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า “กิจกรรมอาชีวะฝีมือชน สู่โลกการทำงาน” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมภายใต้ โครงการอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ ของมูลนิธิฯ ที่ต้องการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของนักเรียนทุนฯ ให้ได้มีโอกาสเตรียมความพร้อม เรียนรู้ทักษะที่เป็นประโยชน์เพื่อนำไปต่อยอดพร้อมที่จะก้าวสู่โลกของการทำงาน
“ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่น้องๆ เป็นนักเรียนทุนฯ มูลนิธิฯ ได้จัดกิจกรรมต่างๆ มากมายเพื่อพัฒนาศักยภาพของทุกคนให้เป็นทั้งคน ‘เก่งและดี’ เริ่มตั้งแต่ กิจกรรมปฐมนิเทศ เพื่อต้อนรับน้องๆ สู่ครอบครัวมูลนิธิเอสซีจีอย่างใกล้ชิด และพอเรียนไปได้ในระดับหนึ่งก็ได้ จัดค่ายการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ตามทฤษฎีการสร้างสรรค์ด้วยปัญญา (Constructionism) ทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆ ด้วยการพาไปชม การแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ที่ประเทศเวียดนาม พอเข้าสู่การเรียนในระดับ ปวช.3 ก็ได้จัดกิจกรรมให้ได้เข้ารับ การฝึกงานในบริษัทในเครือของเอสซีจี เพื่อให้น้องๆ ได้เรียนรู้โลกของการทำงานจริง นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้นักเรียนทุนฯ ทุกคนได้นำความรู้ความชำนาญจากการเรียนมาทำประโยชน์ให้คนรอบข้าง ชุมชน สังคม ผ่าน กิจกรรมอาชีวะฝีมือชน คนทำดี ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมจิตอาสา หรือการประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และเมื่อน้องๆ เรียนระดับชั้น ปวส. ก็ได้สนับสนุนน้องๆ ที่มีความพร้อมทางทักษะฝีมือเข้าร่วม ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ เพื่อให้เป็นใบเบิกทางในการก้าวสู่โลกการทำงาน รวมถึงครั้งนี้ก็เป็นกิจกรรมที่จะเป็นการ เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่การทำงานจริง เพื่อให้ได้รับความรู้และมีความมั่นใจ พร้อมเข้าสู่สนามการทำงานจริงต่อไป ด้วยทักษะที่ได้เรียนรู้จากวิทยาลัยอาชีวะและการฝึกฝนปฏิบัติสั่งสมประสบการณ์จนมีความเชี่ยวชาญ ประกอบกับกิจกรรมพัฒนาศักยภาพที่มูลนิธิฯ ได้เสริมให้กับน้องๆ ก็เชื่อว่าจะทำให้นักเรียนทุนฯ ของมูลนิธิฯ เป็นบุคลากรที่เก่งและดีมีคุณภาพ เป็นฟันเฟืองที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศได้ในอนาคต” ขจรเดช กล่าว
น้องนิล – นิลธิรา ชัยเจริญอุดมรุ่ง นักศึกษาระดับชั้น ปวส.2 สาขาอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยการอาชีพเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ได้บอกเล่าถึงความรู้สึกของการเป็นนักเรียนทุนฯ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาว่า ช่วงที่ใกล้จะจบ ม.3 เป็นช่วงที่ได้สูญเสียทั้งพ่อและแม่ ทำให้สับสน ไม่รู้จะเรียนอะไร และจะเอาเงินที่ไหนเรียนต่อ จนกระทั่งครูได้นำประกาศรับสมัครทุนอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ ของมูลนิธิเอสซีจีมาให้ดู จึงไปสมัครเรียนต่อในสายอาชีพ และยื่นขอรับทุน
“หนูเลือกเรียนในสาขาอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสาขาที่ตัวเองชอบ พอได้มาศึกษาเรียนรู้อย่างจริงจัง ยิ่งทำให้มีความสุขกับการเรียน ได้ลงมือปฏิบัติ ทำให้เข้าใจหลักการทำงานของชิ้นงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ได้ฝึกงานในสถานประกอบการจริง ประกอบกับได้ร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพที่มูลนิธิฯ จัดให้ ทำให้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายทำให้หนูมีความพร้อม มีความมั่นใจในการทำงานเพิ่มมากยิ่งขึ้น สิ่งหนึ่งที่ภาคภูมิใจตลอด 5 ปีที่ผ่านมา คือ หนูได้รับทุนของมูลนิธิฯ ทำให้มีโอกาสเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นจนจบ ปวส.ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของที่บ้านเกี่ยวกับการเรียน สำหรับอนาคตหนูอยากนำความรู้ที่ได้จากการเรียนทั้งหมด ไปแก้ปัญหา คิดค้น และลงมือทำ เพื่อสังคมและคนในท้องถิ่นให้มากที่สุดค่ะ” น้องนิล กล่าว
อีกหนึ่งนักเรียนทุนฯ ที่มีความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยมในการที่จะออกไปทำงานอย่าง น้องเหมี่ยว – สามารถ รุ่งเรือง นักศึกษาระดับชั้น ปวส. 2 สาขางานไฟฟ้าควบคุม วิทยาลัยเทคนิคสระบุรี ก็ได้แชร์ประสบการณ์การเป็นนักเรียนทุนว่า เลือกเรียนสายอาชีพเพราะรู้ว่าตนเองเป็นคนที่ชอบลงมือปฏิบัติ พอสอบติดสาขาช่างไฟฟ้า ก็ได้ทราบข่าวสารจากวิทยาลัยว่ามูลนิธิเอสซีจีให้ทุนการศึกษาสนับสนุนผู้เรียนสายอาชีพ จึงสมัครและก็ได้รับการคัดเลือกเป็นนักเรียนทุนมาตลอด 5 ปี
“ผมดีใจมากที่ได้ทุนนี้ ทำให้ผมได้เรียนในสิ่งที่ผมรัก ช่วงขึ้น ปวช.2 แม่ผมป่วยทำงานไม่ได้ และเพราะผมเลือกเรียนอาชีวะนี้เองจึงทำให้ผมสามารถใช้ความรู้และฝีมือเชิงช่างไปทำงานหารายได้เสริมหลังเลิกเรียน ด้วยการรับงานติดตั้งระบบไฟฟ้าในบ้าน ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านของญาติที่ช่วยดูแลแม่ ซึ่งเงินทุนที่ได้รับจากมูลนิธิฯ นอกจากจะเป็นค่าอุปกรณ์การเรียนต่างๆ เป็นค่าอาหารกลางวันแล้ว อีกส่วนหนึ่งก็ยังเป็นค่ารักษาพยาบาลของแม่ผมอีกด้วย
ต้องขอขอบคุณมูลนิธิเอสซีจีที่ช่วยเหลือมอบทุนการศึกษามาตลอด 5 ปี และยังมอบโอกาสดีๆ อีกมากในเรื่องของกิจกรรมต่างๆ ทั้งความรู้ที่นอกเหนือจากในห้องเรียน การฝึกฝีมือ และการมอบประสบการณ์การเรียนรู้ในการทำงาน ผมภูมิใจที่ได้เป็นอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ หลังจากจบ ปวส.ผมก็มีสถานประกอบการที่พร้อมรับผมเข้าทำงานแล้ว ผมวางแผนว่าจะทำงานเก็บประสบการณ์ไปก่อน แล้วจะหาโอกาสเรียนต่อในช่วงเสาร์- อาทิตย์ อีกทีครับ” น้องเหมี่ยว กล่าว
ในเส้นทางสายอาชีพที่น้องอาชีวะฝีมือชนทุกคนได้เลือกเดินมานั้น น้องๆ ล้วนได้ผ่านของจริงและประสบการณ์ตรงที่ได้ฝึกปฏิบัติมาตั้งแต่ในห้องเรียน อันมีส่วนเติมเต็มความสามารถ และฝึกปรือทักษะฝีมือ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนที่พร้อมจะเป็นพลังผลักดันให้น้องๆ อาชีวะฝีมือชนทุกคนประสบความสำเร็จในโลกของการทำงาน และเป็น “อาชีวะฝีมือชน” ที่ประสบความสำเร็จ เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศได้อย่างเต็มภาคภูมิ
