1

‘มินิทเมด พัลพิ’ ตอกย้ำตำแหน่งน้ำผลไม้พร้อมดื่มที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย เดินหน้ากิจกรรมการตลาดมูลค่ากว่า 170 ล้านบาทต่อเนื่องตลอดปีนี้

  • ปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จยอดขายโตกว่าร้อยละ 72 หลังเปิดตัวสองรสใหม่
  • เดินหน้าจัดกิจกรรม แจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ส่ง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” แบรนด์แอมบาส-ซาเดอร์ ลุยตลาดทำเซอร์ไพรส์ในแคมเปญใหม่ “Surprisingly Pulpy” ตามคอนเซ็ปท์ “พัลพิ เปลี่ยนวันเดิมๆ ให้เป็นเวลาดีๆ ด้วยความสดชื่นจากเนื้อส้มแท้”
  • ร้อนนี้ พร้อมแนะนำขนาดใหม่ 800 มล. อร่อยสดชื่น จุใจกันทั้งครอบครัว

 

กรุงเทพฯ (19 เมษายน 2555) – กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ประกาศความสำเร็จของ “มินิทเมด พัลพิ” (Minute Maid Pulpy) ในฐานะเครื่องดื่มน้ำผลไม้พร้อมดื่มที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย หลังจากการเปิดตัว มินิทเมด พัลพิ 2 รสชาติใหม่ คือ รสมะม่วง-ส้ม และรสผลไม้รวม ที่ดันยอดขายรวมของมินิทเมด พัลพิให้เติบโตถึงร้อยละ 72 เมื่อปีที่ผ่านมา ในปีนี้ มินิทเมด พัลพิ ทุ่มงบการตลาด 170 ล้านบาท ต่อยอดความสำเร็จด้วยแคมเปญใหม่ “Surprisingly Pulpy” โดยมี ณเดชน์ คูกิมิยะ เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ พร้อมแนะนำขนาดใหม่ สุดคุ้มสำหรับครอบครัว ในขวดพีอีที ปริมาณ 800 มิลลิลิตร เพื่อแบ่งปันความอร่อยสดชื่นแบบเต็มน้ำเต็มเนื้อกับทุกคนในครอบครัว

 

นายเรฮาน คาน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจประจำประเทศไทย บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่มในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดรวมถึง 10,000 ล้านบาท นับเป็นตลาดที่มีโอกาสในการขยายตัวอีกมาก แม้ว่าในประเทศไทยมีแบรนด์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ วางจำหน่ายกว่า 300 แบรนด์ รวมสินค้ากว่า 2,800 รายการ แต่สินค้าแต่ละรายการยังมีความแตกต่างกันค่อนข้างน้อย ในวันนี้ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ มินิทเมด พัลพิ สามารถครองตำแหน่งน้ำผลไม้ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยได้ ด้วยการเป็นเครื่องดื่มน้ำผลไม้คุณภาพสูงที่ผสมเนื้อส้มแท้ รสชาติอร่อยมีเอกลักษณ์แบบเต็มน้ำเต็มเนื้อ ถูกปากและถูกใจผู้บริโภค และเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ รวมถึงทำตลาดอย่างสร้างสรรค์เพื่อรักษาความเป็นผู้นำไว้อย่างต่อเนื่อง”

 

นายเรฮานกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปีนี้ เราได้จัดสรรงบประมาณกว่า 170 ล้านบาท สำหรับจัดกิจกรรมสื่อสารการตลาดครบวงจรอย่างสร้างสรรค์ โดยยังเน้นการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ และการทดลองชิมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้จัดกิจกรรม ‘Pulp Me’ โดยมีแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ณเดชน์ คูกิมิยะ ทำเซอร์ไพรส์แจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์มินิทเมด พัลพิ ในย่านสยามแสควร์ ภายใต้แคมเปญใหม่ ‘Surprisingly Pulpy’ ตามสโลแกน “พัลพิ เปลี่ยนวันเดิมๆ ให้เป็นเวลาดีๆ ด้วยความสดชื่นจากเนื้อส้มแท้” นอกจากนี้ ยังจะมีสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ สื่อกลางแจ้ง และกิจกรรมบนสื่อออนไลน์ต่างๆ อีกมากมายตลอดปี เพื่อสานต่อความสัมพันธ์อันดีที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ต่อไป”

 

กิจกรรม ‘Pulp Me’ นำโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ พร้อมขบวนหนุ่มสาว มินิทเมด พัลพิ เดินสายออกไปมอบประสบการณ์เซอร์ไพรส์ ให้แก่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในย่านสยามแสควร์ เพื่อเปลี่ยนวันเดิมๆ ที่แสนจะน่าเบื่อ ให้เป็นวันดีๆ ด้วยมินิทเมด พัลพิ โดยกิจกรรม ‘Pulp Me’ ที่จะมาสร้างความเซอร์ไพรส์ครั้งต่อไปจะเป็นใครติดตามได้ที่ www.facebook.com/Minute.Maid.Pulpy.Thailand

 

นายชาญวิทย์ ชรินธร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มพัฒนากลุ่มสินค้าและธุรกิจใหม่ บริษัท     ไทยน้ำทิพย์ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน มินิทเมด พัลพิ ในประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างมากหลังจากเปิดตัว 2 รสชาติใหม่ คือ รสมะม่วง-ส้มผสมเนื้อส้มแท้ และรสผลไม้รวมผสมเนื้อส้มแท้ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ยอดขายรวมของมินิทเมด พัลพิ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 72 ในปีที่ผ่านมา”

 

“เรามั่นใจว่า ความอร่อยลงตัวแบบเต็มน้ำเต็มเนื้อในทุกรสชาติของมินิทเมด พัลพิ พร้อมกับการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง และการสร้างช่องทางการขายที่แข็งแกร่ง ผ่านร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์-เก็ต จะทำให้มินิดเมท พัลพิ เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเราวางเป้าหมายเพิ่มยอดขายในปีนี้ในอัตราใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา” นายชาญวิทย์ กล่าวเสริม

 

“และเพื่อต้อนรับฤดูร้อนในปีนี้ มินิทเมด พัลพิขอแนะนำมินิทเมด พัลพิ ขนาดครอบครัวสุดคุ้ม ใหม่ล่าสุดในขวดพีอีที ปริมาณ 800 มิลลิลิตร เพื่อแบ่งปันความอร่อยสดชื่นแบบเต็มน้ำเต็มเนื้อกับทุกคนในครอบครัว โดยวางจำหน่ายแล้ว ในรสส้มผสมเนื้อส้มแท้ ราคา 39 บาท ที่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ”

 

มินิทเมด (Minute Maid) คือ แบรนด์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ของเดอะ โคคา-โคลา คอมพะนี ที่ขายดีอันดับ 1 ของโลก เครื่องดื่มแบรนด์มินิทเมดมีหลากหลายกว่า 100 ชนิดและรสชาติ ทั่วโลก รวมถึงมินิทเมด พัลพิ ซึ่งล่าสุดเป็น  แบรนด์ที่มียอดขายทั่วโลกทะลุ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเรียบร้อยแล้ว