1

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ปักธงผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า เผยโฉมเครื่องปรับอากาศใหม่พร้อมเทคโนโลยี “Dual Barrier Coating” นวัตกรรมใหม่ล่าสุด

IMG_70601

ข่าวประชาสัมพันธ์

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ปักธงผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า เผยโฉมเครื่องปรับอากาศใหม่พร้อมเทคโนโลยี “Dual Barrier Coating” นวัตกรรมใหม่ล่าสุด พร้อมตอกย้ำผู้นำเทคโนโลยีความเย็น “The Cooling Master” ดึง โป๊ป – ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ พรีเซ็นเตอร์แคมเปญโฆษณาชุดใหม่เป็นปีที่ 2

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา ประกาศแผนธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ด้วยเครื่องปรับอากาศที่มาพร้อมเทคโนโลยี “Dual Barrier Coating” ชูนวัตกรรมล้ำสมัย ดึงโป๊ป – ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ พรีเซ็นเตอร์โฆษณาปี 2 สร้างการรับรู้แบรนด์ต่อเนื่อง พร้อมเสริมแกร่งธุรกิจ ครบวงจร และด้านบริการคุณภาพ เต็มรูปแบบด้วย “Mitsubishi Electric City Multi Customer Support office” เร่งเดินหน้าขยายศูนย์บริการแต่งตั้งและศูนย์บริการเครือข่ายรวม 143 แห่ง ภายในปี 2559 ตั้งเป้ายอดขาย 15,500 ล้านบาท

นายยาซุชิ โมริยามะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า “ในช่วง ที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณการปรับตัวที่ดีขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และความชัดเจนในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ จึงคาดหวังได้ว่าในปี 2559 เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้จากมาตรการดังกล่าว ในด้านธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เครื่องปรับอากาศ พบว่าอัตราการถือครองภายในประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้นบริษัทฯ จึงยังมองเห็นโอกาสในการสร้างยอดขายอีกมาก โดยมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าคุณภาพสู่ผู้บริโภค เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น พัดลม ปั๊มน้ำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสินค้าระบบปรับอากาศในเชิงพาณิชย์ ระบบแสงสว่าง ระบบระบายอากาศ และพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะสามารถเปิดตลาดในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน รวมทั้งการเปิดศูนย์การศึกษาด้านเทคโนโลยีความเย็นและนวัตกรรมประหยัดพลังงานแบบครบวงจร หรือ AI Center เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และฝึกอบรม พัฒนาศักยภาพด้านงานบริการ พร้อมนำเสนอคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักและเข้าใจได้กว้างขวางมากขึ้น จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมั่นและสร้างความ พึงพอใจจากตลาดได้มากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ยังคงสานต่อยุทธศาสตร์การบริหารธุรกิจ สู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน โดยในปี 2559 นี้ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 45 และนับได้ว่าเป็นการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือ AEC อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกันนี้ในปี 2563 มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ครบรอบ 100 ปี ในการประกอบการ โดยตั้งเป้ารายได้รวมทั่วโลกไว้ที่ 5 ล้านล้านเยน และ

บรรลุผลกำไรจากการดำเนินงานไม่น้อยกว่า 8 % โดยวางกลยุทธ์เสริมความแข็งแกร่งในการประกอบการ มุ่งขยายธุรกิจไปสู่ตลาดโลกให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศอาเซียน เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC อย่างเต็มรูปแบบ อาทิ เน้นส่งเสริมการจัดจำหน่ายสินค้าและการบริการ ภายใต้นโยบาย “ความมั่นใจ ความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต” มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดการสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปลูกจิตสำนึกที่ดีให้พนักงานมีจิตสาธารณะและรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ต่างๆ ที่บริษัทจัดขึ้น เป็นต้น

นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า “ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากกระแสตอบรับอย่างล้นหลามในการเลือก คุณโป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธณภูติ เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อชูภาพลักษณ์ที่ทันสมัย สอดคล้องกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ และเข้าถึง กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ ในปีนี้จึงตัดสินใจเลือกคุณโป๊ป เป็นพรีเซ็นเตอร์ปีที่ 2 เพื่อสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีงบประมาณ 2558 (เม.ย.58-มี.ค.59) จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ 14,500 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน

ขณะเดียวกันได้เดินหน้าพัฒนาศักยภาพการบริการหลังการขาย โดยในปี 2559 ตั้งเป้าขยายศูนย์บริการแต่งตั้งและศูนย์บริการเครือข่ายเพิ่มขึ้นอีก 9 แห่ง รวมเป็น 143 แห่งทั่วประเทศ อีกทั้งยังตั้งเป้าเปิด “Mitsubishi Electric City Multi Customer Support Office” หรือสำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศ ซิตี้มัลติ เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเป็นแหล่งให้คำปรึกษาโดยทีมวิศวกรโครงการที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อการออกแบบระบบปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยเน้นให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายสำหรับกลุ่มลูกค้าโครงการ อาคารขนาดใหญ่ และร้านค้าตัวแทนจำหน่าย โดยในปีงบประมาณ 2558 ตั้งเป้าเปิดสาขารวม 2 สาขา ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ และมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมคือ ระยอง และอุดรธานี ภายในปีงบประมาณ 2559”

นายประพนธ์ กล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญด้านการพัฒนาบุคลากร โดยเข้ามามีบทบาทในการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ไปยังวิศวกร ช่างเทคนิค อาจารย์ และนักศึกษา เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ และเพื่อเป็นการตอบแทนพร้อมยกระดับสังคมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

ยิ่งขึ้น ผ่านหลักสูตรฝึกอบรมต่างๆ โดยเน้นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติผ่านพื้นที่ศูนย์การศึกษาด้านเทคโนโลยีความเย็นและนวัตกรรมประหยัดพลังงานแบบครบวงจร ภายในอาคาร AI Center อาทิ หลักสูตรการทวนสอบความรู้ ช่างฝึกหัด หรือ Technician Trainee และโครงการพัฒนาช่างเทคนิคด้วยแผนการจัดระดับความรู้ความสามารถเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพทางช่างเทคนิคอย่างต่อเนื่อง เป็นต้นครับ

และในโอกาสก้าวย่างสู่ปีที่ 45 ของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา บริษัทฯ จึงเตรียมปรับโฉมรถศูนย์บริการใหม่ ด้วยภาพลักษณ์ทันสมัย และสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านรถศูนย์บริการเคลื่อนที่ของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค เพื่อตอกย้ำและสร้างความมั่นใจในคุณภาพการบริการที่ได้มาตรฐาน ภายใต้สโลแกน “Speedy & Efficiency Service” คือ การให้บริการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แสดงถึงจุดแข็งในความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการ จากทีมงานมืออาชีพ”

นายอนันต์ บรรเจิดธรรม กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า “ในปีนี้ บริษัทฯ เน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และต่อยอดขยายฐานผู้บริโภคให้เป็นไปอย่างกว้างขวาง จากประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แนวคิด “เราคิด…จากชีวิตคุณ” โดยยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพออกสู่ตลาด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างครบครัน ภายใต้จุดแข็งของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ในด้านการเป็นผู้นำเทคโนโลยีความเย็น “The Cooling Master” โดยตั้งเป้ายอดขายรวมกว่า 15,500 ล้านบาท สำหรับปีงบประมาณ 2559 และล่าสุดได้ส่ง 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผสานเทคโนโลยีและความล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน โดย เครื่องปรับอากาศ มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด “Dual Barrier Coating” ลดการเกาะติดของฝุ่น ละอองน้ำมัน และกลิ่นอับชื้น ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ช่วยยืดระยะเวลาการล้างเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ยังได้ขยายไลน์อัพในกลุ่ม Inverter มากรุ่นขึ้น สำหรับสินค้าประเภท ตู้เย็น เน้นประหยัดไฟด้วยระบบ Neuro Inverter และขยายพื้นที่ความจุของช่องแช่ผักเพิ่มมากขึ้น พร้อมเทคโนโลยีคงความสด Vitamin Factory เพื่อรักษาคุณค่าวิตามินในผักใบเขียว ส่วน พัดลม ของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มีจุดเด่นที่เหนือกว่าและแตกต่าง คือ มอเตอร์แบบปิด ซึ่งเป็นหัวใจหลักของพัดลมที่มอบทั้งความทนทาน ประหยัดพลังงาน และปลอดภัยสูงสุด ด้าน ปั๊มน้ำ ได้พัฒนาในรุ่น Q5 Series ด้วยชุดใบพัดที่ออกแบบใหม่ เพิ่มปริมาณน้ำแรงเต็มประสิทธิภาพ ปลอดภัยด้วยกล่องนิรภัยทุกรุ่น ทนทาน รับประกันมอเตอร์นาน 5 ปี พร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5”

“สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนสื่อสารการตลาดครบวงจร ทั้งการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ การสร้างการรับรู้แบรนด์อย่างต่อเนื่องผ่านพรีเซ็นเตอร์ปีที่ 2 โป๊ป – ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ

เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นที่สุดแห่งเทคโนโลยีความเย็น “The Cooling Master” “เราคิด…จากชีวิตคุณ” รวมทั้งได้เตรียมแผนสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาดหลายรูปแบบ โดยเฉพาะดิจิตอลแพลทฟอร์มที่สามารถ Touch Points เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายช่องทางด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โซเชียลเน็ตเวิร์ค สมาร์ทโฟน และธุรกิจเข้าด้วยกันอย่างลงตัวผ่านช่องทาง Facebook, Google เป็นต้น พร้อมเตรียมกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิ โปรแกรมผ่อน 0% และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอื่นๆ ซึ่งเชื่อมั่นว่า จะช่วยสานต่อความสำเร็จในการทำตลาดของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา และผลักดันยอดขายโดยรวม ให้เติบโตมากกว่า 7%”

“และในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 45 บริษัทฯ ได้เตรียมกิจกรรมพิเศษไว้มากมาย อาทิ แคมเปญสำหรับผู้บริโภค กิจกรรมส่งเสริมการขายพิเศษสำหรับร้านค้าตัวแทนจำหน่าย พร้อมเตรียมปรับโฉมโลโก้หน้าร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ทั่วประเทศใหม่ให้ทันสมัย ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 3 ปี ตลอดจนปรับโฉมรถศูนย์บริการใหม่ รวมถึงการ จัดกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมไทยของเราอีกด้วยครับ” นายอนันต์ กล่าวทิ้งท้าย