มิตซูบิชิ ปลื้ม ลูกค้ามั่นใจ ปาเจโร สปอร์ต และไทรทัน -ยอดจองรถงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปทะลุ 3,200 คัน
14 ธันวาคม 2554, มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เผยหลังน้ำลดผลตอบรับดีเกินคาด ส่งผลยอดจองรถในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ทะลุ 3,246 คัน เป็นยอดปาเจโร สปอร์ต ถึง 1,445 คัน ตามมาด้วยไทรทัน 1,405 คัน ในขณะที่ยอดจองรถสะสมทั่วประเทศในขณะนี้พุ่งสูงถึง 15,000 คัน เร่งการผลิตตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น คาดส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ภายใน 1-2 เดือน พร้อมเดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายรับศักราชใหม่
มร.อะสึชิ เซะอิโนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงกระแสตอบรับรถยนต์มิตซูบิชิในงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป” ครั้งที่ 28 ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1 ถึง 12 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมาว่า มิตซูบิชิมียอดจองรถภายในงานรวมทั้งสิ้น 3,246 คัน โดยรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นรถปาเจโร สปอร์ต ซึ่งมียอดจองกว่า 1,445 คัน ในขณะที่รถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน มียอดจองอยู่ที่ 1,405 คัน ตามมาด้วย แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 317 คัน และแลนเซอร์ 1.6 ลิตร 79 คัน
ยอดจองรถยนต์มิตซูบิชิ ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป
|
รุ่นรถ |
จำนวน (คัน) |
| ปาเจโร สปอร์ต |
1,445 |
| ไทรทัน |
1,405 |
| แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ |
317 |
| แลนเซอร์ 1.6 L |
79 |
| รวม |
3,246 |
“สำหรับยอดจองรถในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปปีนี้ถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยเติบโตขึ้นกว่า 68.2% เมื่อเทียบกับตัวเลขในงานมอเตอร์เอ็กโปปีที่ผ่านมาที่มียอดจองอยู่ที่ 1,930 คัน โดย“ปาเจโร สปอร์ต และไทรทัน” รุ่นปี 2012 ซึ่งบริษัทฯ เพิ่งแนะนำสู่ตลาดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมายังคงเป็น 2 รุ่นหลักที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปาเจโร สปอร์ต ที่มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินและได้รับการยอมรับจากลูกค้าในเรื่องประโยชน์ใช้สอยและสมรรถนะที่รองรับทุกรูปแบบการใช้ชีวิต ซึ่งภายหลังจากเกิดวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ปรากฏว่าความต้องการจากตลาดได้เพิ่มสูงขึ้นมากเกินความคาดหมายของบริษัทฯ ในขณะที่รถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน เองก็เป็นอีกรุ่นที่ยังคงได้รับความนิยมจากความลงตัวทั้งในด้านรูปลักษณ์ สมรรถนะ ประโยชน์ใช้สอย รวมไปถึงความหลากหลายของเครื่องยนต์ที่มีทั้งเครื่องยนต์ ดีเซล เบนซิน และ ซีเอ็นจี ซึ่งจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากทั่วประเทศดังกล่าวทำให้ในขณะนี้บริษัทได้พยายามเร่งการผลิตรถรุ่นดังกล่าวเพื่อให้สามารถส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าให้ได้เร็วที่สุด”
ทั้งนี้ มร. เซะอิโนะ กล่าวเสริมถึงยอดขายรถยนต์รวมของบริษัทฯ ว่า ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามียอดขายอยู่ที่ 3,557 คัน ลดลง 12.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมาแต่เมื่อพิจารณายอดขายรถยนต์รวมนับตั้งแต่มกราคม-พฤศจิกายนของปีนี้อยู่ที่ 59,966 คัน เติบโตขึ้นกว่า 75.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ในส่วนของกิจกรรมทางการตลาดในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนั้น มร.เซะอิโนะกล่าวยืนยันว่าบริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งในรูปแบบโรดโชว์ในห้างสรรพสินค้าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมทั้งร่วมกับผู้จำหน่ายจัดกิจกรรมคาราวานในพื้นที่ต่างๆ พร้อมๆ ไปกับการมอบข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์มิตซูบิชิ ในส่วนของแผนงานของปีหน้านั้น บริษัทฯ จะยังคงมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดแบบเข้าถึงตัวลูกค้าในพื้นที่ พร้อมการจัดแคมเปญพิเศษต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการแข่งขันที่คาดว่าจะรุนแรงขึ้น
