มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วางใจใช้ “ซิสโก้” เป็นเครือข่ายหลัก (Core Network)

0
593
image_pdfimage_printPrint

.__004

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วางใจใช้ “ซิสโก้” เป็นเครือข่ายหลัก (Core Network) และโซลูชั่นไวร์เลสของซิสโก้ รองรับการเรียนการสอนแบบโมบิลิตี้ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยเต็มสูบ.. เปลี่ยนผ่านรูปแบบการเรียนการสอน เป็น “Digital University” เตรียมพร้อมสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
ประเทศไทย – เชียงใหม่, 29 กันยายน, 2558 – มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ – มหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ทางราชการจัดตั้งขึ้นในส่วนภูมิภาคของประเทศไทย ติดตั้ง เครือข่ายหลัก (core network), โซลูชั่นไวร์เลสและ โซลูชั่นรักษาความปลอดภัยของซิสโก้ ครอบคลุมทั้งมหาวิทยาลัย เพื่อรองรับการเชื่อมต่อทุกที่ ทุกเวลา รองรับการนำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ในมหาวิทยาลัย บรรลุเป้าหมายในการเป็น ‘Digital University’ ตอบรับการการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่การเรียนรู้ และติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆจะผ่านสมาร์ทดีไวซ์ มากกว่าการอ่านในรูปแบบเดิม
เนื่องด้วยความต้องการการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้นของนักศึกษา และบุคลากร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จึงมองหาเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตรูปแบบใหม่ที่พร้อมรองรับการทำงานในอนาคตแทนระบบ ATM (หรือ Asynchronous Transfer Mode ) รูปแบบเดิม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตัดสินใจปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานไอที เลือกใช้เทคโนโลยี กิกะบิต อีเธอร์เน็ต (Gigabit Ethernet) ของซิสโก้มาเป็นระบบเครือข่ายหลักของทางมหาวิทยาลัย เพื่อรองรับการติดตั้งโครงข่ายอีเทอร์เน็ต 10 กิกะบิต และโซลูชั่นไวร์เลส เพื่อให้นักศึกษา และบุคลากร สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ทุกที่ ทุกเวลา บนทุกอุปกรณ์ โดยปัจจุบันเครือข่ายไวร์เลสของมหาวิทยาลัยสามารถรองรับการทำงานของดีไวซ์ไม่ต่ำกว่า 100,000 เครื่อง และแต่ละแอคเค้าท์สามารถรองรับการใช้งานดีไวซ์ได้ถึง 5 เครื่อง โดยที่สามารถใช้งานได้พร้อมๆกัน

สำหรับระบบการรักษาความปลอดภัย ทางมหาวิทยาลัยเลือกโซลูชั่นรักษาความปลอดภัย Cisco Email Security โดยทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการจัดการทุกปัญหาของอีเมล ไม่ว่าจะเป็นการลดข้อความสแปมที่ไม่ต้องการ การตรวจสอบแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังมีระบบอัพเดตข้อมูลสแปมและไวรัสอัตโนมัติ รวมถึงความสามารถในการป้องกันปัญหาการโจมตีในรูปแบบต่างๆ และระบบจัดการอีเมลที่ช่วยให้การใช้งานอีเมลเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดคิวการรับส่งอีเมล การรับมือกับเมลที่ถูกตีกลับ และการบริหารการเชื่อมต่อในระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบพื้นฐานของอีเมล ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในช่วงที่มีการแพร่กระจายของไวรัสหรือการโจมตีของสแปม จึงช่วยให้มหาวิทยาลัยประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ พลังงานที่ใช้ แบนด์วิดธ์ของระบบ รวมถึงประหยัดเวลาของผู้ดูแลระบบไอทีอีกด้วย

อีกทั้งมหาวิทยาลัยได้นำ Cisco Intrusion Prevention System (Cisco IPS) มาใช้ตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งเป็นระบบการป้องกันการบุกรุกระบบเครือข่าย มอนิเตอร์ภัยคุกคามต่างๆที่เกิดขึ้นในระบบ และพฤติกรรมของผู้ใช้งาน สามารถรู้ลำดับของเหตุการณ์ของระบบที่เกิดจากการโจมตีได้ล่วงหน้า ระบุแนวโน้มของภัยคุกคามและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว โดย Cisco IPS ทำหน้าที่มอนิเตอร์ทราฟฟิกเครือข่าย ซึ่งการเจาะระบบอาจจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้แล้ว Cisco IPS จะทำการตอบโต้ได้ทันที โดยจะช่วยป้องกันการโจมตีที่เกิดขึ้นจากช่องโหว่ในระบบเครือข่ายและระบบปฏิบัติการ และป้องกันการโจมตีจาก Virus หรือ Worm ได้แบบอัตโนมัติ ทำให้กระบวนการเรียนการสอนเป็นไปอย่างราบรื่น มหาวิทยาลัยยังสามารถเพิ่มแบนด์วิธในการรองรับแอพพลิเคชั่นการเรียนการสอน จัดการเวิร์กโหลดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีปัญหา เนื่องจากระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ ช่วยในการป้องกันปัญหาการโจมตี ทั้งภายใน และภายนอกอย่างเต็มรูปแบบ

การอัพเกรดเทคโนโลยีครั้งนี้ช่วยให้ผู้ใช้กว่า 50,000 คน ประกอบด้วย นักศึกษากว่า 37,000 คน บุคลากรกว่า 11,300 คน ใน 22 คณะของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายไร้สายที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น ผ่านแอ็คเซสพอยต์ประมาณ 2,700 จุด บนความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตขนาด 5 Gbps ครอบคลุมทุกหน่วยงานทั้งในส่วนวิชาการ และส่วนสนับสนุน ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นมหาวิทยาลัยที่มีไวร์เลส แอ็คเซส มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของภาคเหนือ และอันดับสองของประเทศ นักศึกษา และบุคลากรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ทุกที่ ทุกเวลา ทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น พีซี โน๊ตบุ๊ค ไอ-แพด หรือ สมาร์ทโฟน

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เริ่มพัฒนาการเป็น Digital University โดยเฟสแรกเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ซึ่งเฟสแรกนี้รวมถึง การพัฒนาระบบเครือข่ายไร้สาย, โมบายล์เซอร์วิส, พัฒนาการระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารด้วย Business Intelligence เพื่อให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยสามารถใช้เพื่อการวางแผน การตัดสินใจจากข้อมูล คาดการณ์แนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง และแม่นยำ, Smart Learning & Smart Classroom, Digital Literacy โดยเป็นไปอย่างราบรื่น และคาดว่าจะเริ่มเฟสสอง ภายในปี 2559 เพื่อให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กลายเป็นต้นแบบแห่งการใช้ชีวิตแบบดิจิตอลที่สมบูรณ์แบบ

ด้วยโซลูชั่นของซิสโก้ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายหลัก (core network) โซลูชั่นไวร์เลส และระบบรักษาความปลอดภัยที่ทำงานร่วมกัน เป็นรากฐานของมหาวิทยาลัยในการรองรับ “Internet of Everything” ที่เชื่อมโยงผู้คน ข้อมูล กระบวนการ และสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน ด้วยความสะดวกง่ายดาย ความชาญฉลาด ความยืดหยุ่นในการปรับขนาด และประสิทธิภาพ ช่วยให้มหาวิทยาลัยปรับเปลี่ยนสู่ยุค Internet of Everything ได้อย่างราบรื่น

คำกล่าวสนับสนุน:

• รศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง ผู้อำนวยการสำนักบริการเทคโนโลยสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

“เรารู้สึกพอใจกับความเป็นมืออาชีพ และความเชี่ยวชาญของซิสโก้ รวมถึงการบริการที่ฉับไวให้กับบุคลากรของเรา โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่มีประสิทธิภาพ เครือข่ายไร้สายสมรรถนะสูง และระบบการรักษาความปลอดภัยเต็มรูปแบบ ช่วยให้เราสามารถดำเนินงานโครงการด้านไอทีที่เพิ่มขึ้น ได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นด้าน Digital Infrastructure, Digital Learning, Digital Administration, Digital Students and Staffs และ Digital Security เพื่อสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยบรรลุเป้าหมายในการเป็น ‘Digital University’ อย่างสมบูรณ์แบบต่อไป

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เชื่อว่าโซลูชั่นที่ทำงานร่วมกันจากซิสโก้ จะช่วยสนับสนุนให้เราเป็นต้นแบบในการเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนโดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากที่สุด พร้อมสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่การเรียนรู้นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่มีขีดจำกัด เราหวังว่าการลงทุนด้านไอที และการเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนให้เข้ากับยุค Internet of Everything จะทำให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สามารถติด 50 อันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ภายใน 5-10 ปีข้างหน้า”

• นาย วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีนของซิสโก้

“โลกการศึกษากำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของอุปกรณ์โมบายล์ และความพร้อมของเครือข่ายไวร์เลสที่แพร่หลาย ทำให้ปัจจุบันมีความจำเป็นเร่งด่วนด้านการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อม และความรู้ให้กับนักเรียนเพื่อได้งานที่ดี เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ และสามารถแข่งขันในเศรษฐกิจโลกปัจจุบันได้

พฤติกรรมการเรียนรู้ที่เปลี่ยนไปที่ทำให้เปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเปลี่ยนไปด้วย ซิสโก้มีความยินดีที่เทคโนโลยีของเราช่วยสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งเป็นผู้นำสถาบันการศึกษารูปแบบ Digital และส่งเสริมการให้นักศึกษามีประสบการณ์ Digital Life พัฒนาด้านไอทีได้อย่างราบรื่น และทำให้มหาวิทยาลัยเป็นต้นแบบในการเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนที่ทันสมัย โดยให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมมากที่สุด ขณะที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่แผนแม่บทเศรษฐกิจดิจิตอล ผมตื่นเต้นที่จะเห็นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นผู้นำในการพัฒนาการศึกษาดิจิตอล และสอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่กำลังจะมาถึง”

เกี่ยวกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ทางราชการจัดตั้งขึ้นในส่วนภูมิภาคของประเทศไทย ตามโครงการพัฒนาการศึกษาในส่วนภูมิภาค พ.ศ.2501 โดยมีเจตนารมณ์ให้เป็นศูนย์กลางทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง เพื่ออำนวยประโยชน์แก่ท้องถิ่นและประเทศชาติโดยส่วนรวมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีความเป็นเลิศทางวิชาการในระดับสากล ในคุณภาพบัณฑิตที่เป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถ เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ และมีการบริหารจัดการที่ดี มีธรรมาภิบาลตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืน

เกี่ยวกับ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ จำกัด
ซิสโก้ (NASDAQ: CSCO) เป็นผู้นำระดับโลกด้านไอทีที่ช่วยให้ธุรกิจและบริษัทต่างๆสร้างสรรค์สิ่ง มหัศจรรย์และปรากฏการณ์ใหม่ๆที่เกิดจากการเชื่อมต่อ (connect) ดูข่าวและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซิสโก้ได้ที่ http://thenetwork.cisco.com ผลิตภัณฑ์ซิสโก้ในประเทศไทยจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายโดยพาร์ทเนอร์ของ Cisco Systems International B.V ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทในเครือซิสโก้ ซีสเต็มส์ ทั้งหมด

###