ภาคเอกชนเมืองตงกวนผนึกกำลังเปิดตัวกองทุนรวมหน่วยลงทุนมูลค่า 1.5 พันล้านหยวน มุ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมเกิดใหม่ในเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า

0
509
image_pdfimage_printPrint

การประชุม World Dongguan Entrepreneurs Capital Summit ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา นอกรอบการประชุม World Dongguan Entrepreneurs Convention 2018 สามารถดึงดูดบรรดาผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ นักลงทุนสถาบัน และนักธุรกิจจากทั่วโลกมารวมตัวกัน เพื่ออภิปรายเกี่ยวกับการลงทุนและการจัดหาเงินทุนสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์ภายใต้ความร่วมมือกันผ่านทางโครงการก่อสร้างเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Guangdong-Hong Kong-Macao Greater Bay Area) นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุมสุดยอดดังกล่าว ยังได้มีการเปิดตัวกองทุนรวมหน่วยลงทุน (fund of funds) มูลค่า 1.5 พันล้านหยวน เพื่อสนับสนุนการควบรวมและการเข้าซื้อธุรกิจอุตสาหกรรม โดยมีภาคเอกชนของเมืองตงกวนเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่ภาคการอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ ฟินเทค และการผลิตเทคโนโลยีอัจฉริยะ

การก่อสร้างโครงการ Greater Bay Area กำลังดำเนินการไปอย่างรุดหน้า เช่นเดียวกับโครงการระเบียงนวัตกรรมเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์กว่างโจว-เซินเจิ้น (Guangzhou-Shenzhen Science and Technology Innovation Corridor) ทำให้ตงกวนมีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้นในฐานะเมืองศูนย์กลางที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเพิร์ลด้วยระยะเวลาการเดินทางเพียงครึ่งชั่วโมง บรรดานักลงทุนทั่วโลกต่างมองเห็นศักยภาพที่ดีในการพัฒนาเมืองตงกวน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อันยอดเยี่ยม และฐานอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง

นายหยิน หงเหว่ย ประธานบริษัทตงกวน อินเวสเมนต์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตงกวนเคยเป็นหนึ่งในเส้นทางการพัฒนาที่มุ่งเน้นปริมาณ เนื่องจากครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีค่าแรงราคาถูกจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม วันนี้ ตงกวนกำลังยกระดับและส่งเสริมการพัฒนาตามแนวทางมุ่งเน้นคุณภาพ ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างต่อเนื่อง

บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างตระหนักว่า การที่บริษัทต่างๆ จะยกระดับขึ้นมาได้นั้น สภาวะด้านการเงินที่ผ่อนคลาย อุตสาหกรรมต่างๆ ที่คอยสนับสนุน และกลไกขับเคลื่อนจากภายนอก ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังเห็นได้จากการที่บริษัทมากกว่า 150 แห่งในตงกวน ได้ผนึกกำลังกันจัดตั้งบริษัท ตงกวน อินเวสเมนต์ กรุ๊ป ขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว ด้วยทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 1 หมื่นล้านหยวน (1.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) การดำเนินการดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ภาคเอกชนที่มั่งคั่งกำลังตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ต่อไป

ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อ นายเซียว หย่าเฟย นายกเทศมนตรีเมืองตงกวน สนับสนุนให้ตงกวน อินเวสเมนต์ กรุ๊ป ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มของภาคเอกชน สำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ของเมือง และดึงดูดเงินทุนจากผู้ประกอบการในตงกวน

ขณะเดียวกัน ธุรกิจต่างๆ ในตงกวนเล็งเห็นถึงโอกาสมากมายจากโครงการ Greater Bay Area ซึ่งหลักฐานหนึ่งคือ กองทุนที่เปิดตัวในปี 2016 โดยรัฐบาลตงกวน ร่วมกับสหพันธ์ผู้ประกอบการตงกวน และศูนย์นวัตกรรมตงกวนแห่งมหาวิทยาลัยชิงหวา เพื่ออัดฉีดเงินทุนเข้าสู่อุตสาหกรรมเกิดใหม่ต่างๆ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การปกป้องสิ่งแวดล้อม ตลอดจนพลังงานใหม่และวัสดุใหม่

ในพิธีลงนามสัญญาโครงการต่างๆ ที่งาน World Dongguan Entrepreneurs Convention ปรากฏว่า Changping Guanrui United Network Smart Valley ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) เทคโนโลยีการสื่อสารล้ำยุค เทอร์มินัลอัจฉริยะ พลังงานใหม่ อุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ และอุตสาหกรรมเกิดใหม่อื่นๆ ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์นั้น ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยโครงการ Smart Valley มีความพร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นเครือข่ายที่มีการบูรณาการเข้ากับศูนย์บริการครบวงจร และนวัตกรรมเทคโนโลยีแนวใหม่ ไม่ว่าจะเป็น IoT, Internet of Intelligences และ Car Networking ของเมืองตงกวน ตลอดจนเขตอ่าว Greater Bay Area

“เราควรบ่มเพาะอุตสาหกรรมของเราจากสถานะการเงินที่เข้มแข็ง พร้อมทั้งส่งมอบบริการทางการเงินให้สอดคล้องกับรูปแบบอุตสาหกรรมโดยรวม” นายหยิน กล่าว ทั้งนี้ ตงกวน อินเวสเมนต์ กรุ๊ป ได้พยายามรักษาสมดุลระหว่างอุตสาหกรรมและการเงิน ด้วยการให้ความสำคัญกับการเพิ่มธุรกิจในภาคบริการการเงิน และเพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรมและโครงการที่มีความสำคัญ นอกเหนือจากการสนับสนุนการทางการเงินแล้ว ทางกลุ่มจะช่วยกระตุ้นให้บริษัทต่างๆ เร่งดำเนินการยกระดับธุรกิจของตนเอง ด้วยการนำการบริหารจัดการ การขยายช่องทางขาย และการสนับสนุนห่วงโซ่อุตสาหกรรมไปสู่ระดับใหม่ เพื่อสร้างสรรค์ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย

ที่มา: The World Dongguan Entrepreneurs Federation