ฮ่องกง–18 พ.ย.–พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
-ปิแอร์ จวง ซีอีโอของ Bo Le นำทีมเปิดการอภิปรายเกี่ยวกับพลวัตการเปลี่ยนแปลงของตลาดจ้างงานเอเชียในปัจจุบัน ภายใต้หัวข้อ “War for Talent”
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2559 ที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับอาวุโสกว่า 150 ราย จากหลากหลายอุตสาหกรรมได้มารวมตัวกัน ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนทอล ฮ่องกง ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี ของ Bo Le Associates (Bo Le) บริษัทสรรหาผู้บริหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดย Bo Le ได้ขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาค จากแรกเริ่มที่มีสำนักงานเพียง 3 แห่ง สู่สำนักงาน 13 แห่งในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วยทีมที่ปรึกษามากประสบการณ์และผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีกว่า 330 ราย
รูปภาพ – http://photos.prnasia.com/prnh/20161118/0861612224
คำบรรยายภาพ: ปิแอร์ จวง ซีอีโอของ Bo Le นำทีมเปิดการอภิปรายเกี่ยวกับพลวัตการเปลี่ยนแปลงของตลาดจ้างงานเอเชียในปัจจุบัน ภายใต้หัวข้อ “War for Talent”
ภายในงาน คุณปิแอร์ จวง ซีอีโอของ Bo Le Associates ได้นำทีมเปิดอภิปรายแบบคณะ ในหัวข้อ “War for Talent — Shifting Dynamics” หรือ “สงครามล่าคนเก่ง — การเปลี่ยนแปลงพลวัต” ร่วมกับวิทยากรที่มีชื่อเสียง 6 ท่าน ได้แก่ อาโนด์ เวนทูรา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Microcred, เจมส์ ซาเวจ ประธานคณะกรรมการการลงทุนของ HKVCA, จอห์น เลียน ซีอีโอ DLJ Capital Partners ประจำเกรทเทอร์ไชน่า, แม็กกี้ ชาน รองประธานฝ่ายกลยุทธ์การพัฒนาลูกค้าของ Unilever China, ทิม หวัง กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายอสังหาริมทรัพย์จีนของ The Blackstone Group และ โทนี่ โลว์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของ Lifestyle Benefits, Collison Group ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน คุณปิแอร์ได้แสดงความขอบคุณสำหรับแรงสนับสนุนที่บริษัทได้รับจากลูกค้ามาตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยระบุว่า “เราได้ใช้ทักษะความรู้ที่ครอบคลุม ความเข้าใจตลาดท้องถิ่น และความสัมพันธ์กับลูกค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลก”
ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ในธุรกิจการสรรหาบุคลากรระดับผู้บริหาร คุณปิแอร์ได้เล็งเห็นถึงพลวัตการเปลี่ยนแปลงของ “สงครามล่าคนเก่ง” จากตลาดนายจ้างไปสู่ตลาดผู้สมัครงาน เนื่องด้วยความเฟื่องฟูของตลาดจีนและตลาดอื่นๆในเอเชียที่ต้องการผู้นำที่มีคุณภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ เขายังได้เห็นถึงพลวัตการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้สมัครงาน จากเดิมที่นิยมทำงานกับบริษัทข้ามชาติมาเป็นบริษัทท้องถิ่น อันเนื่องมาจากบรรดาผู้ประกอบการจีนดำเนินธุรกิจเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งมิใช่ในแง่ของผลิตภัณฑ์และบริการเท่านั้น แต่รวมถึงการสรรหาผู้มีความสามารถภายในท้องถิ่น โดยคุณปิแอร์ย้ำว่า “ปัจจุบัน บริษัทท้องถิ่นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะบริษัทนวัตกรรมอินเทอร์เน็ต ได้รับการจัดอันดับให้เป็นองค์กรที่น่าทำงานด้วยมากที่สุด ซึ่งผลักดันให้บรรดาผู้บริหารระดับอาวุโสย้ายออกจากบริษัทข้ามชาติมาทำงานกับบริษัทเหล่านี้”
อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ เทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือที่รู้จักกันว่า “Disruptors” เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมหลายแห่ง
“การปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบดั้งเดิมด้วยการใช้เทคโนโลยี นำมาสู่การยุติบทบาทของตำแหน่งงานดั้งเดิมจำนวนมาก” คุณปิแอร์เน้นย้ำให้เห็นถึงข้อได้เปรียบของผู้สมัครงานในยุคปัจจุบันที่มีทักษะด้านดิจิทัล
“Bo Le มุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดค่านิยมหลัก ความรู้ และความเชี่ยวชาญของเราไปสู่คนรุ่นใหม่ เทคโนโลยีเกิดใหม่และแพลตฟอร์มดิจิทัลช่วยให้เราสามารถพัฒนาฐานข้อมูลเปี่ยมประสิทธิภาพ เพียบพร้อมด้วยขีดความสามารถในการเฟ้นหาและจับคู่ผู้สมัคร เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า” คุณปิแอร์กล่าวปิดท้าย
รูปภาพ – http://photos.prnasia.com/prnh/20161118/0861612224