ผาน กัง ประธานบริษัท Yili นำเสนอแนวคิด “เศรษฐกิจนิเวศมณฑล” บนเวที Davos 2020

0
296
image_pdfimage_printPrint

การประชุมประจำปี World Economic Forum ครั้งที่ 50 ในหัวข้อ “ผู้มีส่วนร่วมเพื่อโลกที่เหนียวแน่นและยั่งยืน” ได้มีขึ้นที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 21-24 มกราคม โดยคุณผาน กัง ประธานกรรมการและประธานบริหารบริษัท Inner Mongolia Yili Industrial Group ในฐานะตัวแทนรายหนึ่งในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพของโลก ได้เข้าร่วมการเสวนาหัวข้อ China Economic Outlook Session ในการประชุม World Economic Forum ที่ว่านี้ โดยระหว่างการเสวนา คุณผาน กัง ได้ยกให้ “Ecosphere Economy” หรือ “เศรษฐกิจนิเวศมณฑล” เป็นสิ่งที่จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ให้กับโลกาภิวัตน์ในทศวรรษหน้า

ระหว่างการเสวนา China Economic Outlook Session คุณผาน กัง กล่าวว่า “ปัจจุบัน เศรษฐกิจนิเวศมณฑล ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ความเปิดกว้าง ทั่วถึง ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และความร่วมมือที่ให้ผลประโยชน์ต่อทุกฝ่ายนั้น กำลังกลายเป็นแนวทางสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจโลกในวันข้างหน้า โดย Yili จะคว้าโอกาสนี้ในการสร้างสิ่งที่เรียกว่านิเวศมณฑลสุขภาพระดับโลก ส่งเสริมความร่วมมือที่ให้ผลประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมสุขภาพระดับสากล และร่วมงานกับทุกฝ่ายเพื่อหารือประเด็นต่าง ๆ ในเรื่องสุขภาพ พร้อมแบ่งปันผลประโยชน์และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนกว่าไปด้วยกัน”

คุณผาน กัง เป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารคนแรกของจีน ที่ได้ปรากฏตัวในการประชุมดังกล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อเขาได้ร่วมการประชุมเมื่อปี 2549 และได้รับรางวัล Davos Young Global Leaders ในปีนั้น คุณผาน กัง ได้แสดงฝีมือในการเป็นผู้นำ จนทำให้ Yili ประสบความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ โดยได้ก้าวจากการเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์นมอันดับ 1 ของจีน ไปเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย และทุกวันนี้ก็อยู่อันดับต้น ๆ ของโลก

คุณผาน กัง ได้แนวคิด “เศรษฐกิจนิเวศมณฑล” มาจากข้อมูลเชิงลึกที่เขาได้สั่งสมมาในแวดวงเศรษฐกิจโลก เขาเชื่อว่าโอกาสและการแข่งขันเป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ร่วมกันในความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมระดับโลก ในการก่อให้เกิด “นิเวศมณฑล” ที่ให้ผลประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เพื่อให้ห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั้งหมดก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

แนวคิด “เศรษฐกิจนิเวศมณฑล” เริ่มปรากฏให้เห็นความสำเร็จบ้างแล้วใน Yili บริษัทได้ดำเนินการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งศูนย์ European Innovation Center บุกเบิกการจัดตั้ง “SINO-U.S. Food Wisdom Valley” สร้างฐานการผลิตผลิตภัณฑ์นมในโอเชียเนีย ซื้อกิจการ Westland Milk Products ของนิวซีแลนด์ พัฒนาตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซื้อกิจการบริษัทไอศกรีมที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของไทยอย่างบริษัท จอมธนา จำกัด ไปจนถึงการลงทุนก่อตั้ง “Yili Future Intelligence and Health Valley” โดย Yili ได้ส่งเสริมความร่วมมือที่ครอบคลุมและลงลึกอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมสุขภาพระดับโลก เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า “นิเวศมณฑลสุขภาพระดับโลก”

นอกจากนี้ Yili ยังได้จัดตั้งกลุ่มพันธมิตร “Global Health Partner Development Alliance” ร่วมกับบริษัทอีกกว่า 20 แห่งทั่วโลก และได้ร่วมงานกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระดับโลก 13 ราย ไม่ว่าจะเป็น Tetra Pak และ Firmenich เพื่อก่อให้เกิด “ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมระหว่างประเทศที่มีความยั่งยืน” เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม

นอกเหนือจากห่วงโซ่อุตสาหกรรมแล้ว พันธมิตรจากหลากหลายอุตสาหกรรมอีกหลายรายใน “นิเวศมณฑลสุขภาพระดับโลก” ยังทำงานร่วมกันกับ Yili เพื่อสนับสนุนแนวคิดและวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ ยกตัวอย่างเช่น Yili และ World Wide Fund for Nature (WWF) ได้ร่วมงานกันเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ ทั้งยังได้ประสานงานในการสร้างทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์แบบออร์แกนิกด้วย

“เศรษฐกิจนิเวศมณฑล” จะเริ่มปรากฏให้เห็นข้อได้เปรียบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องในแง่ของโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ โดยโลกาภิวัตน์ในอนาคตนั้นไม่ได้เป็นเรื่องของบุคคล องค์กร หรือประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป แต่จะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือและผลประโยชน์ร่วมกัน และด้วยเหตุนี้ ความฝันในการสร้างสิ่งที่เรียกว่า “World Integrally Sharing Health” หรือ “สุขภาพที่แบ่งสรรอย่างสมบูรณ์ทั่วโลก” นั้นจะยกระดับไปอีกขั้นด้วยการพัฒนา “เศรษฐกิจนิเวศมณฑล”