รมว.แรงงานปลื้ม หลังปรับกฎหมายลดภาระนายจ้างไม่ต้องส่งสำเนาข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ ช่วยลดขั้นตอนการเริ่มธุรกิจลง 21 วัน ส่งผลให้อันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจของไทยหรือ Doing Business 2018 สูงขึ้น 20 อันดับ
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบนโยบายให้หน่วยในสังกัดกระทรวงแรงงานพิจารณาปรับปรุงการทำงานหรือแก้ไขกฎหมายหรือระเบียบที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจเพื่อยกระดับของประเทศไทยในรายงานความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก ทั้งนี้กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้แก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 โดยยกเลิกข้อกำหนดที่ให้สถานประกอบกิจการส่งสำเนาข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานให้กับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ส่งผลให้ระยะเวลาในการเริ่มต้นธุรกิจของผู้ประกอบการลดลง 21 วัน จากเดิมที่ต้องใช้เวลาในการพิจารณา 22 วัน และผลจากการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ หรือ Doing Business ของธนาคารโลก ประจำปี 2018 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับอยู่ที่อันดับ 26 จากทั้งหมด 190 ประเทศ ดีกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่อันดับที่ 46 และหากพิจารณาเฉพาะด้านการเริ่มต้นธุรกิจ ได้เลื่อนจากอันดับที่ 78 จากปีที่แล้วขึ้นมาอยู่อันดับที่ 36 ซึ่งดีกว่าเดิมถึง 42 อันดับ
นายอนันต์ชัย กล่าวต่อไปว่า การแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ให้นายจ้างไม่ต้องส่งสำเนาข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานให้กับกสร. เป็นการลดภาระของนายจ้าง ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศในการลดขั้นตอนการประกอบธุรกิจ อย่างไรก็ตามสิทธิของลูกจ้างจะยังคงได้ตามกฎหมาย เพราะข้อบังคับฯที่ขัดกับพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ไม่สามารถใช้บังคับได้ ขณะเดียวกันการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของนายจ้างก็เป็นความผิดทางอาญา หากนายจ้าง ลูกจ้างมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือที่โทรศัพท์สายด่วน 1546