บลจ.ไทยพาณิชย์ เตรียมจ่ายปันผลกองอสังหาฯ – โครงสร้างพื้นฐาน Q2 ปี 2561 รวมกว่า 1,872 ล้านบาท

0
280
image_pdfimage_printPrint

โครงสร้างพื้นฐานภายใต้การบริหารของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2561ว่า ยังคงมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจและสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนรวมทั้งสิ้น 6 กองทุน รวมมูลค่ากว่า 1,872 ล้านบาท ในวันที่ 22 สิงหาคม 2561 นี้

สำหรับกองทุนรวมที่มีผลงานโดดเด่นในช่วงดังกล่าวมี 2 ประเภท คือ กลุ่มอสังหาฯประเภทอาคารสำนักงาน ซึ่งกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ (POPF) มีอัตราการจ่ายที่มากขึ้น เนื่องจากมีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากอัตราการเช่าพื้นที่ เมื่อเทียบเคียงกันกับไตรมาสเดียวกันในปี 2560 และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ซึ่งหลังจากการลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 3 เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้ประกาศจ่ายปันผลจากการดำเนินงาน 2 เดือน(พฤษภาคม – มิถุนายน 2561) ได้สูงกว่าประมาณการที่เสนอต่อผู้ถือหน่วย เนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่แท้จริงของกองทุนภายหลังเข้าลงทุนแล้วเสร็จต่ำกว่าที่ใช้ในประมาณการ

ทั้งนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จะจ่ายปันผล สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2561 ประกอบด้วย 5 กองทุน คือ กองทุนอสังหาฯ ประเภทอาคารสำนักงาน จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) ที่ลงทุนในอาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2440 บาทต่อหน่วย ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 23 รวมจ่ายเงินปันผลแล้ว 5.0458 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2556) กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ (POPF) ที่ลงทุนในอาคารสมัชชาวานิช 2 อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และอาคารบางนา ทาวเวอร์ จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2414 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 29 รวมจ่ายเงินปันผลแล้ว 7.3697 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ก.ย.2554) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ (SIRIP) ลงทุนกรรมสิทธิ์ในโครงการอาคารสิริภิญโญ จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1520 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 17 รวมจ่ายเงินปันผล 2.5327 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ส.ค.2557)

นอกจากนี้ ยังมีกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงงานและคลังสินค้า จำนวน 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1743 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 16 รวมจ่ายเงินปันผล 3.1434 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2557)

สำหรับกองทุนอสังหาฯ ประเภทคอมมิวนิตี้มอลล์ คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์คริสตัล รีเทล โกรท (CRYSTAL) ที่ลงทุนในโครงการเดอะ คริสตัล (The Crystal) และโครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1638 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 20 รวมจ่ายเงินปันผล 3.7920 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่15 พ.ย. 2556)

ส่วนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 1 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานระหว่าง วันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2561 คือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1580 บาทต่อหน่วย นับเป็นครั้งที่ 18 รวมจ่ายปันผล 4.3109 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557)