บลจ.ไทยพาณิชย์ ประกาศจ่ายปันผลกองสมาร์ทแพลน 2,3,4, และหุ้นอินเดีย

0
333
image_pdfimage_printPrint

นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลพร้อมกันจำนวน 4 กองทุน ในวันที่ 27 มีนาคม 2561 นี้ ประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ทแพลน 2,3 และ 4 (SCBSMART 2,3,4) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2560 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 โดยทั้ง 3 กองทุนเป็นกองทุนรวมผสม มีการจัดพอร์ตการลงทุนในรูปแบบ Risk Target Fund ตามระดับความเสี่ยง ส่วนอีก 1 กองทุนเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นอินเดีย (SCBINDIA) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2560 ถึงวันที่ 28  กุมภาพันธ์ 2561 โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ทแพลน 2 จ่ายปันผลในอัตรา 0.2100 บาทต่อหน่วย นับเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 6 (นับจากจัดตั้งเมื่อ 26 ก.ย.2555) รวมจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 1.4700 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์สมาร์ทแพลน 3 จ่ายปันผลในอัตรา 0.2500 บาทต่อหน่วย เป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 5 (นับจากจัดตั้งเมื่อ 26 ก.ย.2555) รวมจ่ายปันผลแล้ว 1.4103 บาทต่อหน่วย ส่วนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ทแพลน 4 จ่ายปันผลในอัตรา 0.3000 บาทต่อหน่วย เป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 5 (นับจากจัดตั้งเมื่อ 26 ก.ย.2555) รวมจ่ายปันผลแล้ว 1.5300 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมของทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวอยู่ในระดับน่าพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน โดยย้อนหลัง 1 ปี (ณ วันที่ 16 มี.ค. 2561) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ทแพลน 2 อยู่ที่ 4.84% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 4.12% กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ทแพลน 3 อยู่ที่ 6.98% โดยเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 6.50% และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ทแพลน 4 อยู่ที่ 8.13% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 8.08%

ทั้งนี้กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ทแพลน 2,3 และ 4 (SCBSMART 2,3,4) มีการบริหารความเสี่ยงโดยควบคุมมูลค่าความเสี่ยงให้อยู่ในกรอบที่กำหนด (VAR) ประมาณ -5%,-10% และ-15% ต่อปีตามลำดับ มีนโยบายลงทุนในตราสารที่หลากหลาย อาทิ ตราสารหนี้ หุ้น เงินฝาก กองทุนอสังหาริมทรัพย์หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ โดยกองทุนสมาร์ทแพลน 2 จะลงทุนในหุ้นไม่เกินร้อยละ 25 ไม่มีการลงทุนในต่างประเทศ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง กองทุนสมาร์ทแพลน 3 จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไม่เกินร้อยละ 34 รวมทั้งยังมีการลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 35 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง  ขณะที่กองทุนสมาร์ทแพลน 4  จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไม่เกินร้อยละ 43 รวมทั้งลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 36 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง ส่วนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นอินเดีย (SCBINDIA) จ่ายปันผลในอัตรา 0.2864 บาทต่อหน่วย ซึ่งมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2560 อัตรา 0.0974 บาทต่อหน่วย เหลือจ่ายงวดนี้ 0.1890 บาทต่อหน่วย เป็นการจ่ายปันผลครั้งที่  4  (นับจากจัดตั้งเมื่อ 24 มี.ค. 2558) รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้น 0.3884 บาทต่อหน่วย  โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี (ณ วันที่ 16 มี.ค. 2561) อยู่ที่ 6.36% เปรียบเทียบเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 4.78%

โดยกองทุน SCBINDIA มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ iShares India 50 ETF ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐฯ กองทุนหลักบริหารโดย BlackRock และมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อินเดีย (CNX NIFTY) เพื่อให้ผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี CNX NIFTY