บลจ.ธนชาต มั่นใจกระแสเงินลงทุนทั่วโลกจะส่งผลบวกต่อทั้งตลาดหุ้นไทยและญี่ปุ่น สบโอกาสส่งกองทุนทริกเกอร์หุ้นไทย T-Challenge22 เป้าหมายเลิกโครงการที่ 6%* ใน 1 ปี และกองทริกเกอร์หุ้นญี่ปุ่น T-JPChallenge#1 เป้าหมายเลิกโครงการที่ 7%* ใน 1 ปีเช่นกัน เสนอขายระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม นี้
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า เทรนด์การลงทุนในปีนี้จะรับกระแสเงินลงทุนจากมาตรการ QE ของญี่ปุ่นและยุโรป เพราะถือเป็นเม็ดเงินลงทุนที่ใหญ่มากใกล้เคียงกับการทำ QE ที่ผ่านมาของสหรัฐ โดยในปีนี้ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแผนเข้าซื้อ ETF เพิ่มขึ้นอีก 79% อีกทั้งค่าเงินเยนมีโอกาสอ่อนค่าลงจากแนวโน้มส่วนต่างดอกเบี้ยกับสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียน ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า Nikkei 225 สิ้นปีนี้น่าจะสามารถแตะระดับ 20,000 ได้ ประกอบกับเงินลงทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีแผนปรับสัดส่วนกองทุนบำเหน็จบำนาญให้ลงทุนในหุ้นมากขึ้นจากระดับ 17% เป็น 25% ในเดือนเมษายนนี้ ก็ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับผลเชิงบวกมากขึ้น และเม็ดเงินยังกระจายไปยังตลาดหุ้นทั่วโลก
บลจ. ธนชาต จึงเชื่อว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีโอกาสอยู่มาก พร้อมเสนอขาย กองทุน T-JPChallenge#1 ระหว่างวันที่ 24 ก.พ. – 3 มี.ค 2558 ซึ่งเป็นกอง Trigger Fund เน้นลงทุนผ่านกองทุน Nikkei 225 Exchange Traded Fund มีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 7%* ภายใน 1 ปี แต่จะทยอย Auto Redeem เมื่อถึง 3.5%
ขณะที่อานิสงส์ของการขยายการลงทุนของญี่ปุ่นทำให้เม็ดเงินดังกล่าวไหลเข้าสู่ประเทศที่มีการเติบโตสูง ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังไม่มีปัจจัยขับเคลื่อนที่เด่นชัดนัก แต่แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังสดใส โดยคาดว่าภายในปีนี้จะเป็นปีแห่งการของลงทุนของรัฐบาลไทยจากการพัฒนาระบบคมนาคม และสาธารณูปโภคต่างๆ รวมไปถึงการกระตุ้นการบริโภคเพื่อให้เศรษฐกิจขยายได้ตามที่คาด โดยมั่นใจยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้น เทรนด์การลงทุนที่เหมาะสมคือเน้นการเลือกหุ้นเป็นรายตัว โดยพิจารณาปัจจัยที่สนับสนุนหุ้นแต่ละตัวเป็นหลัก
จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ขึ้นไปกว่า 7% แล้ว ประกอบกับภาวะปัจจุบันสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำและน้ำมันอยู่ในภาวะที่ไม่น่าลงทุนนัก ทำให้เราเชื่อว่าหุ้นยังมีอัพไซต์ที่สามารถทำกำไรได้ บลจ.ธนชาต จึงมองว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยกองทุน T-Challenge22 เสนอขายระหว่างวันที่ 24 ก.พ. – 3 มี.ค 2558 ซึ่งเป็นกอง Trigger Fund ลงทุนในหุ้นไทย มีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 6%* ภายใน 1 ปี แต่จะ Auto Redeem เมื่อถึง 3% โดยจะเป็นกองทุนที่มีนโยบายเอื้อให้ผู้จัดการกองทุนสามารถหาจังหวะในการลงทุนได้อย่างคล่องตัว (*ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการกำหนดเป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการเท่านั้น ไม่ใช่การประมาณการหรือการรับประกันว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในอัตราตามตัวเลขที่ระบุไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ หากภาวะตลาดปรับภาวการณ์ลงทุนเปลี่ยนแปลงไป ทำให้กองทุนรวมไม่ถึงตัวเลขเป้าหมายกองทุนจะเปลี่ยนเป็นกองทุนเปิดแบบไม่กำหนดอายุกองทุน)
กองทุนเปิดธนชาต ในซีรี่ย์ทริกเกอร์หุ้นไทย ปัจจุบันมีทั้งหมด 24 กอง ทริกไปแล้ว 12 กอง
กองทุนเปิดธนชาต ในซีรี่ย์ทริกเกอร์หุ้นต่างประเทศ ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 กอง ทริกไปแล้ว 2 กอง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมขอรับหนังสือชี้ชวนได้ในวันและเวลาทำการเสนอขายที่ บลจ.ธนชาต โทรศัพท์ 0-2126-8399 กด 0 หรือธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. 1770 หรือผู้สนับสนุนการขาย หรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ บลจ.ธนชาต แต่งตั้ง www.thanachartfund.com
คำเตือน
- การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการกำหนดเป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการเท่านั้น ไม่ใช่การประมาณการหรือการรับประกันว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในอัตราตามตัวเลขที่ระบุไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด
- หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้
- การลงทุนที่แท้จริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากนี้เพื่อความเหมาะสมกับสภาพตลาดตราสารหนี้ และอัตราดอกเบี้ยของตราสารต่างๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายของกองทุน
- กองทุนอาจป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
