บทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปของ “ซีเอฟโอ” ในยุคเศรษฐกิจดิจิตอล
บทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปของ “ซีเอฟโอ” ในยุคเศรษฐกิจดิจิตอล
โดย นายลีเฮอร์ ออบิซูร์ กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี ประจำภูมิภาคอินโดจีน
โลกของเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัวแล้ว ทุกวันนี้ เราฟังเพลงในรูปแบบไฟล์ดิจิตอล ขณะที่หนังสือก็เริ่มหันมาตีพิมพ์และจำหน่ายเป็นอีบุ๊คแทน อุปกรณ์จีพีเอสเริ่มหายไปจากตลาด เนื่องจากถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟน หนังสือพิมพ์กลายเป็นของตกยุค และสมาร์ทโฟนก็เข้ามาทำหน้าที่แทนกล้องถ่ายรูป ในภาพรวมแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างภาคธุรกิจกับสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางและรูปแบบใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อมให้ทุกคนเข้าถึงกันได้ และพลิกโฉมแล้วระบบเศรษฐกิจโลกก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งมุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างกัน เปี่ยมด้วยข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และพร้อมมอบผลประโยชน์เชิงผลิตผลและคุณค่าให้กับทุกคนที่พร้อมรับมือกับยุคใหม่นี้
แน่นอนว่าความเปลี่ยนแปลงที่กว้างขวางเหล่านี้ทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องปรับตัวอย่างคล่องแคล่ว และสรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ขึ้นมารับมือและแข่งขันในตลาด แต่สิ่งหนึ่งที่อาจยังไม่ชัดเจนนักก็คือผลของความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ที่จะมีต่อบทบาทของซีเอฟโอ หรือผู้บริหารสูงสุดด้านการเงินขององค์กรนั่นเอง
ในโอกาสนี้ ซีเอฟโอ รีเสิร์ช ได้จับมือกับเอสเอพีเพื่อทำการสำรวจผู้บริหารอาวุโสสายการเงินรวม 331 ท่าน จากธุรกิจทั่วโลกที่มีรายได้สูงกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2556 เพื่อให้ทราบถึงวิธีการที่ซีเอฟโอแต่ละท่านรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในการทำงาน และความท้าทายที่พวกเขาจะต้องเผชิญในอนาคต การสำรวจครั้งนี้ครอบคลุมผู้บริหารจากหลากหลายภาคอุตสาหกรรม ทั้งในเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ และมีเนื้อหาที่เผยถึงสถานการณ์ใหม่ ๆ ที่ซีเอฟโอสามารถนำมาปรับเปลี่ยนเป็นปัจจัยขับเคลื่อนศักยภาพในการทำกำไรขององค์กร ผ่านทางการวางแผนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคาดคะเนด้วยเทคโนโลยีบิ๊ก ดาต้า ซึ่งล้วนส่งผลให้แผนกการเงินของแต่ละองค์กรมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการเติบโตของบริษัทและตัดสินทิศทางการดำเนินธุรกิจได้มากขึ้น
งานวิจัยชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารระดับซีอีโอของแต่ละองค์กรต่างพากันหันไปพึ่งพาซีเอฟโอกันมากขึ้น เพื่อร่วมกันก้าวข้ามอุปสรรคที่ทุกองค์กรต้องเผชิญ โดยที่ซีเอฟโอจะได้รับบทบาทเป็นผู้กระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนภายในองค์กร ซึ่งถือเป็นบทบาทใหม่ของผู้บริหารในตำแหน่งนี้
นิตยสาร The Corporate Treasurer ได้จัดงานสัมมนาขึ้นที่กรุงจาการ์ต้าในปีที่ผ่านมา โดยผู้บริหารระดับซีเอฟโอที่เข้าร่วมงานทุกท่านต่างเห็นพ้องกันว่าซีเอฟโอควรมีความสามารถที่จะสื่อสาร ประสานงาน และโน้มน้าวผู้มีอำนาจตัดสินใจทางการเมืองและนโยบาย เนื่องจากการปฏิบัติงานในภาคเอกชน โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรม ยังคงอยู่ภายใต้ความดูแลของหน่วยงานภาครัฐอยู่มาก
ดังนั้น ผู้บริหารที่มีความสามารถในตำแหน่งซีเอฟโอจึงเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จขององค์กร คนที่จะก้าวเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้ ต้องเป็นเสมือนแหล่งข้อมูลหลักขององค์กร พร้อมวางระบบการเงินแบบเรียลไทม์ที่ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎข้อบังคับในตลาด และมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจมากกว่าใคร ๆ
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์และผู้บริหารระดับสูงหลายท่านได้ครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาทของซีเอฟโอ เพิ่มเติมจากความเป็น “ผู้ดูแล” ให้กลายเป็น “ผู้วางกลยุทธ์” ในระยะหลัง แนวคิดนี้เริ่มมีการพัฒนาต่อยอดกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น จนขยายคำจำกัดความของตำแหน่งซีเอฟโอให้ครอบคลุมถึงการเป็น “หุ้นส่วน” ผู้บริหารธุรกิจอีกด้วย
คำถามต่อไปก็คือว่า ในโลกยุคดิจิตอลที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมคลื่นลูกใหม่และความเปลี่ยนแปลงอันไม่สิ้นสุดนี้ ซีเอฟโอจะปฏิบัติงานในทั้งสามบทบาทนี้ได้อย่างไรบ้าง?
ซีเอฟโอในฐานะผู้ดูแลกิจการ
ในบทบาทนี้ ซีเอฟโอจะต้องดูแลงานด้านการบัญชี การคลัง การเงิน การบริหารความเสี่ยง และการควบคุมระบบงานภายใน เพื่อรักษาสินทรัพย์ขององค์กรให้เผชิญกับความเสี่ยงน้อยที่สุด และใช้เงินทุนอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิผลที่สุด
เนื่องจากทั้งซีเอฟโอและองค์กรต่างก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละสถานการณ์ เอสเอพีจึงได้เดินหน้าปรับเปลี่ยนระบบงานด้านการเงินของบริษัทให้ย้ายมาใช้ระบบ HANA ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มฐานข้อมูลในหน่วยความจำของเอสเอพีเอง โดยหลังจากที่วางระบบเสร็จสิ้นลงแล้ว แผนกการเงินของเอสเอพีสามารถลดเวลาการปิดการทำธุรกรรมลงได้ถึงห้าวันทำงานเต็ม ๆ ส่วนการยืนยันการชำระเงินต่าง ๆ ก็ใช้เวลาน้อยลงมาก จาก 26 ชั่วโมงเหลือเพียงสี่ชั่วโมงเท่านั้น จึงทำให้องค์กรเลือกนำเวลาไปทุ่มเทกับการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่ออนุมัติการทำธุรกรรมได้นานขึ้น
ซีเอฟโอในฐานะผู้วางกลยุทธ์
การเป็นผู้วางกลยุทธ์จะทำให้ซีเอฟโอมีส่วนร่วมในการตัดสินทิศทางของธุรกิจ ซึ่งหมายความว่าผู้บริหารในตำแหน่งนี้จะมีความรับผิดชอบมากกว่าเพียงแค่การเตรียมข้อมูลประเภทตัวเลขทางการเงิน แต่ยังต้องสามารถคิดหามุมมองใหม่ ๆ เชิง
กลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนให้องค์กรทำผลงานได้ดีขึ้นในทุกด้าน นอกจากนี้ ซีเอฟโอยังต้องทำหน้าที่จัดหาข้อมูลที่องค์กรควรรู้ไว้ให้พร้อม และผลักดันให้องค์กรทำงานได้ตามเป้าหมายในระยะยาว
ความรับผิดชอบในด้านนี้ สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในการปรับเปลี่ยนระบบการเงินของเอสเอพีเอง เทคโนโลยีการประมวลผลในหน่วยความจำสามารถทำให้ระบบทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้ทันทีในแบบเรียลไทม์ จึงถือเป็นรากฐานสำคัญในการประสานงานกันระหว่างแผนกการเงินและแผนกปฏิบัติการ เช่นในกรณีของการจัดการเงินทุนหมุนเวียนภายใต้ระบบใหม่ โดยเอสเอพีสามารถวิเคราะห์รูปแบบและแนวโน้มการเก็บเงินจากลูกค้าเพื่อค้นหาความเสี่ยง โดยพนักงานฝ่ายบริการลูกค้าจะสามารถนำข้อมูลการวิเคราะห์นี้ไปช่วยกำหนดรูปแบบการชำระเงินกับลูกค้าได้ต่อไป ขณะที่บริษัทเองก็สามารถติดตามประสิทธิภาพการเก็บรายได้และคาดการณ์ความเสี่ยงได้ล่วงหน้า เพื่อปรับเงื่อนไขการชำระเงิน แก้ไขรอบบัญชี หรือแม้แต่ยุติการส่งมอบงานให้กับลูกค้าบางรายที่ชำระเงินช้าเกินกำหนดไปมาก ซึ่งแนวทางการทำงานทั้งหมดนี้จะไม่มีทางเป็นไปได้เลยภายใต้ระบบเก่า ซึ่งแยกการทำงานแต่ละส่วนออกจากกันจนไม่สามารถมองเห็นภาพรวมได้
นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนระบบงานของเอสเอพีทำให้การวางแผนและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินสามารถเป็นไปในเชิงรุกมากขึ้น และคาดการณ์อนาคตได้ดียิ่งขึ้น แทนที่จะเป็นเพียงการตอบสนองต่อสถานการณ์ด้วยการเก็บบันทึกข้อมูลเช่นในอดีต ด้วยศักยภาพในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ บริษัทจึงสามารถใช้ระบบต่าง ๆ ทำการจำลองสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และคาดการณ์ล่วงหน้าถึงปัญหาที่อาจต้องเผชิญ และนำไปเป็นข้อแนะนำในการตัดสินใจทำธุรกิจต่อไป ทั้งหมดนี้ช่วยให้แผนกการเงินมีบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่เป็นเพียงผู้ดูแลบัญชีของบริษัท กลายเป็นคู่คิดและผู้ร่วมนำทางของทั้งองค์กรให้ก้าวหน้าต่อไป
ซีเอฟโอในฐานะหุ้นส่วนของธุรกิจ
ในบทบาทนี้ ซีเอฟโอจะเป็นเสมือนผู้กระตุ้นและสนับสนุนให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไป สามารถสร้างคุณค่าให้กับองค์กรได้มากขึ้นกว่าที่เคย บริษัทตรวจสอบบัญชีชั้นนำ เอินส์ท แอนด์ ยัง มองว่าการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจนั้น จะต้องผสมผสานความรู้ความเข้าใจเชิงเศรษฐกิจเข้ากับการจัดสรรทรัพยากรที่มีจำนวนจำกัดให้นำไปใช้งานได้คุ้มค่าที่สุด เพื่อให้องค์กรสามารถทำผลงานได้ตรงตามเป้าหมายทางการเงิน
นอกจากนี้ เอินส์ท แอนด์ ยัง ยังเน้นย้ำถึงปัจจัยสำคัญบางประการที่จะทำให้ซีเอฟโอทำหน้าที่ในบทบาทนี้ได้ดี ซึ่งในความเห็นของผมแล้ว หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือการบริหารงานในแผนกการเงินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดสรรทรัพยากรมารองรับงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูลให้เต็มที่ เพื่อสนับสนุนการวางกลยุทธ์และการปฏิบัติงานในรูปแบบที่สร้างคุณค่าให้กับองค์กรได้
หากจะสรุปสั้น ๆ แล้ว ก็อาจกล่าวได้ว่าบทบาทนี้จะเน้นไปที่การมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ เพื่อผลักดันให้องค์กรสามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจได้อย่างเหมาะสมที่สุด
การถ่ายโอนระบบไปสู่แพลตฟอร์ม HANA ของเอสเอพีทำให้บริษัทสามารถวิเคราะห์ข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้รวดเร็วและแม่นยำกว่าที่เคย ซึ่งเป็นผลโดยตรงมาจากการปิดธุรกรรมแต่ละรายการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และเวลาที่เพิ่มมากขึ้นในการวิเคราะห์และคาดการณ์อนาคต ดังนั้น ฝ่ายการเงินของบริษัทจึงยกระดับบทบาทขึ้นมาเป็นหุ้นส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางธุรกิจ นอกจากนี้ ระบบยังช่วยลดภาระด้านการจัดทำรายงาน โดยแบ่งเบาและกระจายความรับผิดชอบไปยังสายงานต่าง ๆ จึงทำให้ฝ่ายการเงินไม่ต้องเสียเวลารวบรวมข้อมูลมาทำเป็นรายงานฉบับออฟไลน์ ทั้งหมดนี้ทำให้พนักงานที่มีส่วนร่วมในการวางแผนและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินทำหน้าที่ของตัวเองได้เต็มที่ พร้อมให้คำแนะนำกับองค์กรเพื่อยกระดับผลงานต่อไป หรือเท่ากับทำให้พวกเขากลายเป็นหุ้นส่วนผู้ช่วยกำหนดทิศทางของบริษัทด้วยนั่นเอง
สร้างสมดุลให้ซีเอฟโอ
สุดท้ายแล้ว ผู้ที่รับตำแหน่งซีเอฟโอจะต้องค้นหาจุดสมดุลระหว่างทั้งสามบทบาทนี้ เพื่อให้สามารถสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจได้เต็มเปี่ยม และพัฒนาศักยภาพของตนเองให้ก้าวไกลไปอีกด้วย โดยซีเอฟโอแต่ละท่านจะต้องพิจารณาว่าตนเองจะลงมือทำงานในบทบาทใดมากเพียงไหน เนื่องจากการรับผิดชอบทั้งสามบทบาทอย่างเท่าเทียมกันอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องที่สุดสำหรับทุกองค์กร
หากซีเอฟโอท่านหนึ่งเลือกที่จะมุ่งเน้นทำงานในฐานะหุ้นส่วนทางธุรกิจของบริษัท ก็เท่ากับว่าเขาจะต้องใช้เวลาไปพบปะกับผู้บริหารอยู่ไม่น้อย และมีเวลาเหลือสำหรับงานด้านการเงินและปฏิบัติการทั่วไปน้อยลง
การสร้างสมดุลนี้ต้องอาศัยความพยายามและทุ่มเทอยู่พอสมควร โดยซีเอฟโอบางท่านอาจเลือกสร้างเกณฑ์เพื่อวัดประสิทธิภาพของตนเองในแต่ละบทบาท เพื่อให้ทำงานได้ตามเป้าหมายในทุกด้านอย่างสมบูรณ์
เมื่อซีเอฟโอแต่ละท่านหันมาจับงานด้านทิศทางธุรกิจมากขึ้น พวกเขาก็จะมีบทบาทในการผลักดันความเปลี่ยนแปลงในองค์กรมากขึ้นเช่นกัน โดยอาจรวมถึงความเปลี่ยนแปลงในแง่เทคโนโลยี หรือการอัพเกรดระบบ ERP ขององค์กรมาสู่โซลูชั่นที่ทันสมัยกว่า ซึ่งจะช่วยลดความซับซ้อนของระบบงาน เสริมประสิทธิภาพการประสานงาน และสร้างคุณค่าให้กับองค์กรได้มากกว่าเดิม
การรักษาสมดุลระหว่างความรับผิดชอบแต่ละด้านนี้ เป็นโจทย์สำคัญที่ซีเอฟโอทุกท่านจะต้องขบคิด เพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จต่อไป
ใช้นวัตกรรมให้เป็นประโยชน์
ผมได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า ในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไม่สิ้นสุดนี้ ทุกองค์กรต่างต้องการซีเอฟโอผู้มีความสามารถ เพื่อเป็นทั้งแหล่งข้อมูลหลักขององค์กร ผู้วางระบบการเงินแบบเรียลไทม์ที่ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎข้อบังคับในตลาด และผู้มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจอย่างถ่องแท้
ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นระบบคลาวด์ โมบาย โซเชียลมีเดีย หรือบิ๊ก ดาต้า ซีเอฟโอจึงสามารถเติมเต็มความต้องการทั้งสามด้านนี้ได้อย่างครบถ้วน ท่ามกลางการพลิกโฉมของโลกธุรกิจแห่งอนาคต โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้ซีเอฟโอผู้มีวิสัยทัศน์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบรอบด้าน
หลังจากที่ได้ใช้เวลานานหลายทศวรรษไปกับการวางมาตรฐานด้านระบบงานและประสิทธิภาพการทำงาน องค์กรต่าง ๆ ในภาคธุรกิจต่างก็พร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการนำเทคโนโลยีมายกระดับทุกขั้นตอนของการทำงานให้ชาญฉลาด รวดเร็ว และเรียบง่ายกว่าในอดีต ทั้งในระดับภาพรวมไปจนถึงพนักงานแต่ละคน และนำไปสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ในเชิงธุรกิจต่อไป
________________________________________