กรุงเทพฯ – 6 พฤศจิกายน 2561 – นูทานิคซ์ NASDAQ: NTNX) ผู้นำโซลูชั่นคลาวด์สำหรับองค์กร ได้อัพเกรด และเพิ่มความสามารถบน Nutanix Beam ซึ่งได้เปิดตัวเวอร์ชั่นแรกไปเมื่อกลางปีนี้ การอัพเกรดครั้งนี้จะช่วยให้ลูกค้าที่ใช้ระบบต่างๆ ที่อยู่บน on-prem สามารถรับรู้ และมองเห็นต้นทุนค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยลูกค้าของนูทานิคซ์จะสามารถรับรู้และเข้าใจสภาพแวดล้อมโครงสร้างพื้นฐานของตนที่มีอยู่ในระบบ on-prem รวมถึงบนพับลิคคลาวด์และไพรเวทคลาวด์ เพื่อที่จะสามารถเลือกใช้ประเภทคลาวด์ให้เหมาะสมกับแอปพลิเคชั่นแต่ละแอปพลิเคชั่น เช่น แอปพลิเคชั่นที่สามารถคาดการณ์ได้สูง เช่น การสำรองข้อมูล ดาต้าเบสและเอ็นเตอร์ไพรส์แอปพลิเคชั่นต่างๆ จะทำงานบนไพรเวทคลาวด์ได้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่เวิร์กโหลดที่คาดการณ์ได้ต่ำ เช่น ดิจิทัล/โมบายเวิร์กโหลด หรือบริการด้าน IoT ต่างๆ จะเหมาะกับพับลิคคลาวด์มากกว่า ปัจจุบัน Beam ยังมีมุมมองแบบมัลติ-คลาวด์ที่ครอบคลุมเป็นภาพรวม เพื่อให้ลูกค้าสามารถเห็นรูปแบบการใช้งานคลาวด์ต่างๆ ได้จากแดชบอร์ดเดียว ซึ่งช่วยให้ตัดสินใจได้ง่าย เป็นการช่วยประหยัดงบประมาณและควบคุมให้อยู่ในกฎระเบียบทางธุรกิจได้
ผลสำรวจล่าสุดของ IDC[1] ระบุว่า ลูกค้าจำนวน 80% ให้ข้อมูลว่ามีการย้ายงานของตนเองกลับจาก
พับลิคคลาวด์ และการมองเห็นต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นจากความยุ่งยากซับซ้อนในการบริหารจัดการแอปพลิเคชั่นที่ไม่เหมือนกัน และมีการทำงานของแอปพลิเคชั่นในที่ต่างๆ ที่อยู่กันคนละโซน กำลังมีผลต่อ TCO และประสิทธิภาพของส่วนประกอบต่างๆ ที่ไม่ต่อเนื่องกันอย่างเด่นชัดขึ้น
ในขณะที่การถกเถียงกันในประเด็นว่าควรจะใช้งานพับลิคคลาวด์ หรือควรลงทุนบนศูนย์คอมพิวเตอร์ของตนเองดีกว่า รวมถึงประเด็นการเข้าถึง และมองเห็นการใช้งานบนพับลิคคลาวด์และไพรเวทคลาวด์ของตนเองอย่างชัดเจน รวมถึงแนวทางที่จะลดต้นทุนของไอทีเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในองค์กร นูทานิคซ์ จึงพัฒนาให้ Beam เวอร์ชั่นล่าสุด ช่วยให้ลูกค้ามองเห็นต้นทุน และค่าใช้จ่ายในการใช้งานนูทานิคซ์เช่นเดียวกัน ทำให้องค์กรเข้าใจต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมไพรเวทคลาวด์ของนูทานิคซ์ที่ใช้งานอยู่ รวมถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายการใช้งานพับลิคคลาวด์บนแพลตฟอร์มคลาวด์ที่เป็นที่นิยมอื่นๆ นอกจากความสามารถในการมองเห็นและรับรู้ความเป็นไปในการใช้งานพับลิคคลาวด์ที่มีอยู่ขององค์กรแล้ว ลูกค้าของนูทานิคซ์จะสามารถรับรู้ว่าได้ใช้จ่ายงบประมาณไปกับแต่ละคลัสเตอร์ของนูทานิคซ์ไปเท่าไรแล้วจากที่ได้ตั้งงบประมาณไว้ และลูกค้าจะได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อพวกเขาจำเป็นต้องเพิ่มซอฟต์แวร์ โดยดูจากแนวโน้มการใช้งานในปัจจุบัน ทั้งนี้ความสามารถที่กล่าวมาทั้งหมดนี้สามารถบริหารจัดการได้บนแดชบอร์ดเดียว ซึ่งในที่สุดแล้ว ความสามารถเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าบริหารจัดการสภาพแวดล้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายอนุช คุปตะ ซีอีโอของ Hitachi Systems Micro Clinic กล่าวว่า “เรากำลังเติบโตอย่างรวดเร็วโดยการใช้ระบบคลาวด์ขนาดใหญ่ ดังนั้นสิ่งสำคัญมากคือ เราจะต้องมั่นใจได้ว่าสามารถมองเห็นและรับรู้ทุกรายละเอียด และควบคุมได้ทุกจุดของการทำงานบนระบบคลาวด์ เพื่อจะได้ไม่ใช้จ่ายเกินงบประมาณที่กำหนดไว้ แม้เราใช้งานระบบคลาวด์เพิ่มเป็นสองเท่าแต่ Nutanix Beam ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เห็นได้จากที่ค่าใช้จ่ายโดยรวมของเราไม่เพิ่มขึ้นเลย เราตื่นเต้นที่สามารถมองเห็นและรับรู้การทำงานของการใช้งานแบบ on-prem ในอนาคต สิ่งนี้ทำให้เราแน่ใจได้ว่าต้นทุนที่ลงไปจะถูกนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงบนโครงสร้างพื้นฐานแบบมัลติ-คลาวด์ของเรา”
ความสามารถใหม่ๆ ที่อัพเกรดไว้ใน Beam ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานได้กับแพลตฟอร์มพับลิคคลาวด์ที่เป็นที่นิยมได้ทุกแพลตฟอร์ม และการที่ลูกค้าสามารถมองเห็นและกำกับดูแลการใช้งานพับลิคคลาวด์ของตนได้ทั้งหมดนั้น เป็นการสนับสนุนด้านการกำกับดูแลต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้กับคลัสเตอร์ของนูทานิคซ์ด้วย โดย
· รวมการกำกับดูแลคลาวด์ทุกระบบไว้ด้วยกัน – CIOs และ ผู้นำด้าน I&O สามารถควบคุมการใช้งานคลาวด์ได้ทั้งระบบไพรเวทคลาวด์ พับลิคคลาวด์ และไฮบริดคลาวด์ และตัดสินใจเรื่องการใช้งานคลาวด์ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
· เพิ่มคุณค่าการลงทุนอย่างต่อเนื่อง – Beam นำเสนอการวิเคราะห์ข้อมูลด้านแนวโน้มการใช้งานคลาวด์ เพื่อนำเสนอรายการชนิดของผลิตภัณฑ์ และเงื่อนเวลาที่ต้องจัดซื้อในอนาคต ทำให้สามารถใช้เงินได้อย่างคุ้มค่าทั้งระบบไพรเวทและพลับลิคคลาวด์
· การวิเคราะห์การลงทุนในระดับคลัสเตอร์ – ลูกค้าจะเห็นภาพการลงทุนในแต่ละคลัสเตอร์ของ
นูทานิคซ์ ที่มีการใช้งานและการลงทุนด้านซอฟต์แวร์ไลเซนส์ที่จัดสรรให้กับแต่ละคลัสเตอร์
นายซูนิล พอตติ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาของนูทานิคซ์ กล่าวว่า “ไฮบริดคลาวด์ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของอนาคตการใช้งานระบบพับลิคคลาวด์อีกต่อไป แต่เป็นจุดหมายปลายทางชั้นเลิศที่ลูกค้าตระหนักว่าเขาต้องการประโยชน์ที่มากขึ้นในการใช้ทั้งพับลิคคลาวด์และไพรเวทคลาวด์ การจะประสบความสำเร็จได้นั้น องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องเข้าใจว่ากำลังใช้งานโครงสร้างพื้นฐานอะไรอยู่และใช้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มใดก็ตาม และต้องมองเห็นทุกอย่างได้จากที่เดียว ซึ่งเป็นคุณสมบัติของ Nutanix Beam ที่ช่วยให้ลูกค้ามีข้อมูลเพื่อตัดสินใจด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่มีอยู่ของตนได้อย่างถูกต้อง”
การวางจำหน่าย
Beam สำหรับการใช้งานนูทานิคซ์แบบ o-prem มีแผนจะวางจำหน่ายภายในปี 2561
ทดลองใช้งาน Nutanix Beam ฟรีได้ที่ https://www.nutanix.com/products/beam/signup/
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nutanix Beam และวิธีการที่ Nutanix Beam ช่วยให้ลูกค้าควบคุมสภาพแวดล้อม
ไอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น กรุณาเยี่ยมชม blog หรือ website ของเรา
เกี่ยวกับนูทานิคซ์
นูทานิคซ์เป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์และโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ ช่วยให้ฝ่ายไอทีไม่ต้องกังวลเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และสามารถมุ่งเน้นกับความสำคัญบนแอปพลิเคชั่นและบริการที่เป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ บริษัททั่วโลกใช้ซอฟต์แวร์ Enterprise Cloud OS ของนูทานิคซ์ เพื่อให้บริหารจัดการแอปพลิเคชั่นได้ในคลิกเดียวและสามารถโยกย้ายไปมาได้ทั้งพับลิคคลาวด์ ไพรเวทคลาวด์ และดิสทริบิวเต็ดเอจด์คลาวด์ ดังนั้นจึงสามารถใช้แอปพลิเคชั่นได้ทุกขนาดและทุกรูปแบบด้วยต้นทุนรวมที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลให้องค์กรสามารถให้บริการสภาพแวดล้อมไอทีประสิทธิภาพสูงตามความต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ดูแลการทำงานของแอปพลิเชั่นต่างๆ สัมผัสประสบการณ์เสมือนคลาวด์อย่างแท้จริง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nutanix.com หรือติดตามเราได้ที่ทวิตเตอร์@nutanix
© 2018 Nutanix, Inc. All rights reserved. Nutanix, the Nutanix logo, Frame, and all product and service names mentioned herein are registered trademarks or trademarks of Nutanix, Inc. in the United States and other countries. All other brand names mentioned herein are for identification purposes only and may be the trademarks of their respective holder(s).
Forward Looking Statements
This press release contains express and implied forward-looking statements, including but not limited to statements relating new products and product features that are under development, and the capabilities of such products and product features. These forward-looking statements are not historical facts, and instead are based on our current expectations, estimates, opinions and beliefs. Consequently, you should not rely on these forward-looking statements. The accuracy of such forward-looking statements depends upon future events, and involves risks, uncertainties and other factors beyond our control that may cause these statements to be inaccurate and cause our actual results, performance or achievements to differ materially and adversely from those anticipated or implied by such statements, including, among others: the rapid evolution of the markets in which we compete; failure to develop, or unexpected difficulties or delays in developing, new products, product features or technology in a timely or cost-effective basis; delays in or lack of customer or market acceptance of our new products, product features, or technology; the introduction, or acceleration of adoption of, competing solutions, including public cloud infrastructure; and other risks detailed in our Annual Report on Form 10-K for the fiscal year ended July 31, 2018, filed with the SEC on September 24, 2018, which should be read in conjunction with the information in this press release. Our SEC filings are available on the Investor Relations section of the company’s website at ir.nutanix.com and on the SEC’s website at www.sec.gov. These forward-looking statements speak only as of the date of this press release and, except as required by law, we assume no obligation to update forward-looking statements to reflect actual results or subsequent events or circumstances.
© 2018 Nutanix, Inc. All rights reserved. Nutanix, the Nutanix logo, Beam, and all product and service names mentioned herein are registered trademarks or trademarks of Nutanix, Inc. in the United States and other countries. All other brand names mentioned herein are for identification purposes only and may be the trademarks of their respective holder(s).
________________________________________
[1] IDC, “Cloud Repatriation Accelerates in a Multi-Cloud World,” Michelle Bailey and Matthew Eastwood, July 2018 US44185818