นิวซีแลนด์ย้ำภาพผู้นำนวัตกรรมการศึกษาโลก พัฒนาแอปพลิเคชั่นห้องเรียนออนไลน์ดิจิทัล
นิวซีแลนด์ได้ชื่อว่าเป็นประเทศต้นแบบด้านนวัตกรรมการศึกษาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากจะมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนแล้ว ยังเป็นแหล่งคิดค้นและพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ๆด้านการศึกษา จะเห็นได้จากวิกฤติการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 การศึกษานิวซีแลนด์ได้ปรับตัวและพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลเข้ามาช่วยรับมือกับวิกฤติการณ์ครั้งนี้
นายจอห์น แลกซัน (Mr.John Laxon) ผู้อำนวยการ ประจำภูมิภาคเอเชีย หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ กล่าวระว่างการเสวนา “The Ways New Zealand Sets Forward Its Educational Structure to Pass Through the Pandemic Crisis” ในงาน Startup Thailand and Innovation Expo 2020 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Innovation in Times of Crisis : นวัตกรรมรับมือภาวะวิกฤต เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของระบบการศึกษานิวซีแลนด์ เกิดจากวัคซีนการเรียนรู้ที่ประเทศได้ออกแบบ ผลิต และวางแผนอัดฉีดเข้าระบบตั้งแต่ยังไม่เกิดวิกฤติ (crisis) รุนแรง เมื่อเกิดการแพร่ระบาด(pandemic)ที่สร้างผลกระทบกับการศึกษาทั่วโลก ทำให้นิวซีแลนด์สามารถรับมือได้อย่างดี
โดยในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก ทันทีที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนได้หยุดชะงักลง โรงเรียนต่างๆในนิวซีแลนด์และทั่วโลกต่างเร่งปรับตัวสู่ระบบการเรียนทางออนไลน์ รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเร่งด่วน เพื่อให้นักเรียนทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนออนไลน์ รวมถึงนักเรียนชาติที่เรียนอยู่ในนิวซีแลนด์ ซึ่งมีอยู่มากกว่า 125,000 คน เป็นนักเรียนไทยกว่า 3,500 คน รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ให้การช่วยเหลือทั้งด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค อินเตอร์เน็ต เพื่อให้นักเรียนได้เข้าถึงการเรียนดิจิทัลอย่างทั่วถึง นอกจากนี้รัฐบาลนิวซีแลนด์ยังมีแพ็คเกจช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติในด้านอื่นๆ เช่นด้านการทำงานพาร์ทไทม์ ช่วยเหลือด้านเงินทุน ดูแลด้านสุขภาพ และชีวิตความเป็นอยู่
นายจอห์น แลกซัน กล่าวเสริมว่า สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ครั้งนี้เป็นหนึ่งในวิกฤตการณ์สำคัญที่ทำให้การปฏิรูปการศึกษาเกิดขึ้นทั่วโลก ความปกติใหม่ (New normal) ของการใช้เทคโนโลยีและการจัดการที่ดีเป็นตัวนำ เพื่อสร้างการเรียนรู้ที่กว้างขวางรวดเร็วและไม่มีขอบเขตจำกัด กลายเป็นโอกาสในการสร้างพันธมิตรทางการศึกษาของนิวซีแลนด์ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้แบ่งปันกันข้ามประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“จากวิกฤติการณ์ครั้งนี้เราได้เรียนรู้มากมายเพื่อรับมือ หลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจอาหาร ธนาคาร ต่างก็มีการปรับตัวจากเดิมที่มุ่งเน้นด้านซัพพลายหรือตัวองค์กร ก็หันมามุ่งเน้นที่คอนซูเมอร์และนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยมากขึ้น ในส่วนภาคการศึกษาก็เช่นกัน เราได้ปรับตัวโดยนำเอาองค์ความรู้จากห้องเรียนและครูผู้สอนซึ่งเป็นเหมือนซัพพลาย หันมามุ่งเน้นที่ตัวนักเรียนนักศึกษาเป็นหลัก ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยดึงเอาองค์ความรู้ต่างๆออกจากห้องเรียนมาสู่ห้องเรียนออนไลน์ดิจิทัล เพื่อช่วยให้นักเรียนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม” นายจอห์น แลกซัน กล่าวและเสริมว่า
ตัวอย่างเทคโนโลยีดิจิทัลที่นิวซีแลนด์ได้นำมาใช้พัฒนาระบบการศึกษาห้องเรียนออนไลน์ดิจิทัล อาทิ
การนำแอพลิเคชั่นห้องเรียนดิจิทัล (Kami Application) ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มอันหนึ่งทางด้านการศึกษาของนิวซีแลนด์ พัฒนาขึ้นโดยบริษัทซอฟแวร์ของนิวซีแลนด์ ช่วยให้นักเรียนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ ร่วมพูดคุยกับครูผู้สอน เขียนข้อความ หรือแก้ไขได้ ไม่ว่าจะจะอยู่ที่ไหนก็ตาม โดย Kami รวบรวมเอาตำราเรียนที่เป็นกระดาษจากกองหนังสือจำนวนมหึมามาเป็นข้อมูลและเครื่องมือการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิดัล ผ่านข้อความภาพวาด ภาพเสียง และวิดีโอ ประกอบการเรียนการสอนทางออนไลน์ ช่วยให้ห้องเรียนออนไลน์สามารถตอบโต้ระหว่างครูและนักเรียนได้มากขึ้น มีเครื่องมือและคุณสมบัติการทำงานร่วมกัน ช่วยให้ครูและนักเรียนสามารถสื่อสารแบ่งปัน และแก้ไขการอ่านร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ ครูสามารถแชร์ใบการบ้านกับนักเรียน และนักเรียนสามารถแก้ไขหรือไฮไลท์เพิ่มเติมในคลิปวิดีโอ หรือบันทึกเสียงได้ ครูสามารถพูดคุยตอบโต้กับนักเรียน และเห็นนักเรียนทำงานได้แบบเรียลไทม์ ทำให้แอปพลิเคชั่น Kami เข้ามามีบทบาทและสามารถตอบโจทย์การพัฒนาห้องเรียนออนไลน์ในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี ทำให้ Kami ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางใน 175 ประเทศทั่วโลก มีผู้ใช้งานแล้วกว่า 13 ล้านคนทั่วโลก
การนำเทคโนโลยีแบบอวาตาร virtual reality โปรแกรมที่ทันสมัยเสมือนจริง มาใช้เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ในห้องปฏิบัติการแบบลงมือจริง สำหรับการสอนทางออนไลน์หลักสูตรพยาบาล ของสถาบัน Whitireia New Zealand
การนำ Code Avengers ในรูปแบบเกมส์ที่น่าสนุกและติดตามเข้ามาช่วยวางรากฐานการศึกษาดิจิทัล สำหรับตั้งแต่เด็ก 5-10 ขวบ
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ ดูได้ที่ www.studyinnewzealand.govt.nz