การรักษาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับตำแหน่งสาเหตุการนอนกรน เช่น การลดขนาดเยื่อบุด้านข้างช่องจมูก ( Inferior Turbinate ) โดยการจี้ด้วยคลื่นวิทยุ หรือเลเซอร์ การผ่าตัดต่อมทอนซิลในผู้ป่วยที่มีทอนซิลโตมากๆจนอุดกั้นทางเดินหายใจ การผ่าตัดตกแต่งเพดานอ่อน เช่น UPPP , LAUP เพื่อแก้ไขนอนกรนจากสาเหตุที่เพดานอ่อนหย่อนคล้อย หรือ การทำ Palatal Stiffening Operation วิธีอื่นๆ เช่น Modified CAPSO , Injection Snoreplasty , Sling Snoreplasty Pillar Procedure เป็นต้น
ดังที่ทราบกัน ปัจจุบันการรักษาอาการนอนกรนที่เกิดจากการหย่อนคล้อยของเพดานอ่อนเปลี่ยนไปจากอดีตที่ใช้วิธีตัดแต่งเพดานอ่อนที่หย่อนคล้อยให้สั้นลงที่เรียกว่า UPPP มาเป็นการผ่าตัดโดยใช้หลักการที่ทำให้เพดานอ่อนตึงตัวขึ้น ที่เรียกว่า Palatal Stiffening Operation ซึ่งมีอยู่หลายวิธีดังได้กล่าวไว้ข้างต้น
ในช่วงเวลากว่า 10 ปีมานี้ มีเทคนิคการรักษาอาการนอนกรนแบบหนึ่ง ที่เรียกว่า Pillar Procedure เป็นการรักษาโดยใช้หลักการของ Palatal Stiffening Operation ด้วยการใช้แท่ง (Rod) Polyester ขนาดเล็กๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 mm. และยาว 1.8 mm. 3-5 เส้น สอดไว้ในเพดานอ่อน ดังรูป 1.) การรักษานี้จัดเป็นการผ่าตัดเล็กสามารถทำได้โดยใช้ยาชาเฉพาะที่ ทำได้ในห้องตรวจของคลินิก (office setting) จัดเป็น Minimally invasive surgery ใช้เวลาในการทำประมาณ 30 นาที ซึ่งจะช่วยรักษาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ ชนิดอ่อนๆ ถึงชนิดปานกลาง (Mild to moderate OSA) แต่ Pillar Procedure ก็มีข้อจำกัดหลายประการ คือ
1. เวลาจะทำต้องใช้ ชุดเครื่องมือ disposable (ใช้ครั้งเดียวทิ้ง)
2. ตัว Pillar Rod (แท่ง Polyester) อาจหลุดออกมาได้ทางช่องที่ใส่ ที่เรียกว่า Extrusion ทำให้ต้องถอดทิ้ง และต้องใส่ใหม่ ซึ่งจะสิ้นเปลืองไปอีก
ทั้งนี้ได้มีการพัฒนาเทคนิค Pillar Procedure โดยใช้ไหมสปริงที่มีความจำ (Spring Thread with memory) 3-5 เส้น สอดไว้ในเพดานอ่อน แทนการใช้ Pillar Rod (แท่ง Polyester) เทคนิคการสอดไหมสปริง สามารถใช้เครื่องมือแพทย์ธรรมดา คือ เข็มเบอร์ 18 แทงนำเข้าไปในเพดานอ่อน แล้วสอดไหมสปริงตามลงไป ดังรูป 2) ไหมสปริงจะคงอยู่ในเพดานอ่อนได้อย่างดี ไม่มีการหลุดออก (Extrusion) เพดานอ่อนจะกระชับขึ้น ตึงตัวขึ้น และจะตึงตัวขึ้นอีกมากหลังการรักษา 6 สัปดาห์ เมื่อคอลลาเจน (collagen) มาหุ้มรอบๆไหม อาการกรนจะลดลงเห็นผลชัดเจนหลังการรักษา 6-8 สัปดาห์
ข้อดีของเทคนิคการร้อยไหมแกนสปริง (Spring Pillar ® Procedure) นี้ คือ สามารถรักษาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ ชนิดอ่อนๆ ถึงชนิดปานกลาง ได้อย่างง่ายๆ ปลอดภัย ได้ผลดี ราคาประหยัด และสามารถทำได้ในห้องตรวจ โดยใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่เจ็บมาก ผู้ป่วยสามารถเริ่มทานอาหารอ่อนๆได้ทันที ฟื้นตัวเร็ว
บทความโดย : นพ.สรัลชัย เกียรติสุระยานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : ศูนย์โสต ศอ นาสิก โทร. 02-836-9999 ต่อ 3921