นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา (คนที่สามจากซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ นำคณะผู้แทนเอกชนเดินทางเยี่ยมชมศักยภาพของ “สหกรณ์นิคมวังไทร จังหวัดระยอง” ซึ่งเป็นหนึ่งในสหกรณ์ที่ได้รับการคัดเลือกร่วมกิจกรรมไมซ์เพื่อชุมชนปี 2 โดยเป็นความร่วมมือในการจัดทำโครงการระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นที่มีความพร้อมได้พัฒนาสู่การรองรับธุรกิจการจัดงานไมซ์ โดยเฉพาะในเรื่องของการเป็นสถานที่ศึกษาดูงาน กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับชุมชนหรือจัดกิจกรรมพิเศษตามวาระโอกาสขององค์กรธุรกิจต่างๆ ด้วยจุดแข็งด้านความคิดสร้างสรรค์บนพื้นฐานทรัพยากรและอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชน ซึ่งจะสามารถเป็นช่องทางใหม่ด้านรายได้แก่สหกรณ์
สำหรับ “สหกรณ์นิคมวังไทร จังหวัดระยอง” นับเป็นอีกหนึ่งสหกรณ์ ที่มีความโดดเด่นทางด้านนวัตกรรมการเกษตรของทุเรียน อาทิ การทำ QR Code เพื่อให้ข้อมูลทุเรียน หรือโครงการจองทุเรียนล่วงหน้านี้นับว่าเป็นโครงการใหม่ ที่ยังไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งเดิมชาวสวนทุเรียนนิยมนำทุเรียนไปขายให้กับล้งเพื่อส่งออกตลาดต่างประเทศหรือที่เรียกว่าลงกล่อง แต่ในปีนี้สหกรณ์จะเน้นให้สมาชิกคัดทุเรียนคุณภาพเพื่อขายตลาดในประเทศมากขึ้น โดยเริ่มจากกลุ่มผู้บริโภคในขบวนการสหกรณ์ด้วยกันก่อน ส่วนหนึ่งคือมุ่งหวังให้คนในประเทศได้รับประทานทุเรียนเกรดพรีเมียม
“ในวันนี้ ภาคเอกชนที่เดินทางร่วมคณะจะได้สัมผัสกับกิจกรรมที่หลากหลาย เรื่องราวของการทำธุรกิจทุเรียน และผลไม้อื่นๆในพื้นที่สหกรณ์ และที่เป็นไฮไลท์สำคัญ ได้ชิมผลไม้สด ชิมทุเรียนสดจากต้น และเยี่ยมชมการดูแลสวน ปลูกทุเรียน ของกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ จะได้รับฟังประวัติความเป็นมา ความสำเร็จการบริหารจัดการ และยังได้ร่วมประมูลส่งออกพิเศษล็อตสุดท้าย งานนี้สร้างความประทับใจให้กับคณะเป็นอย่างมาก”
นอกจากนี้ คณะได้เดินทางเยี่ยมชม กิจกรรมที่ “สหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จังหวัดระยอง” ชมอ่างเก็บน้ำประแสร์ พร้อมรับฟังคำแนะนำกิจการภาพรวมของสหกรณ์ และชมพื้นที่ห้องและอาคารสำหรับรองรับการจัดประชุมสัมมนา ได้ร่วมกิจกรรมการทำเวิรค์ช็อป เมล่อนช๊อต ซึ่งทำจากเมล่อนที่ปลูกในพื้นที่ที่มีความหวานเป็นพิเศษกว่าที่อื่น จากนั้นเลือกซื้อผลิตผลและของฝาก จากสมาชิกสหกรณ์และชุมชนใกล้เคียง ซึ่งเป็นตลาดที่ชาวบ้านชาวสวนมาขายด้วยตัวเอง นับเป็นการสร้างรายได้โดยตรงให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดี
สำหรับเป้าหมายในการผลักดันให้สหกรณ์ที่มีความพร้อม เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นอีก 50 แห่งทั่วประเทศ ตัวอย่างสหกรณ์ที่เข้าร่วมในปีนี้ที่กระจายไปทั้งเทืองหลักและเมืองรอง ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรเมืองเชียงราย จำกัด สหกรณ์นิคมอ่าวลึก จังหวัดกระบี่ สหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อจำกัด จังหวัดนครปฐม สหกรณ์การเกษตรสีคิ้ว จำกัด จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น และที่ผ่านมาหลายสหกรณ์ที่เข้าร่วมแล้วมีผลดีเกิดขึ้น มีบริษัทเอกชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานภาครัฐ ต่างให้ความสนใจเดินทางร่วมจัดกิจกรรมในพื่นที่สหกรณ์มากขึ้น