1

ถิรไทย โชว์ผลประกอบการงวด 9 เดือน กวาด 1,364.95 ล้านบาท

TRT หรือ ถิรไทย กวาดยอดขายรายได้รวมงวด 9 เดือนในปี 55 โกย 1,364.95 ล้านบาท แม้รายได้จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้า คาดปิดยอดสิ้นปีทำรายได้โตกว่า 20% ทั้งยอดขายหม้อแปลง , รถกระเช้าไฟฟ้า , และ LDS ที่บริษัทเข้าไปซื้อกิจการ  พร้อมลุยหาตลาดที่มาร์จิ้นสูงขึ้นและบุกตลาดพม่า , มาเลเซีย , อินโดฯ อีกทั้งตลาดหม้อแปลงสำหรับโซล่าเซล คาดปี 56 มีโอกาสเห็นตัวเลขสดใสทะลุ 20%  ล่าสุดตุน Backlog แล้วกว่า 925 ล้านบาท

นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่ายและซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาดของคนไทยเพียงแห่งเดียว เปิดเผยถึงผลดำเนินการสำหรับงวด 9 เดือนว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนปี 2555 เท่ากับ 36.89 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 119.52 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 76.41 และมีผลกำไรสุทธิสำหรับงวดไตรมาส 3 เท่ากับ 20.25 ล้านบาท ลดลงจากผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกันของปีก่อน 61.92 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 75.36 โดยมีสาเหตุดังต่อไปนี้

 

รายได้รวมสำหรับงวด 9 เดือนเท่ากับ 1,364.95 ล้านบาท ลดลง 79.48 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.5 และรายได้รวมสำหรับงวดไตรมาส 3 เท่ากับ 633.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.42 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19.98 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นงวด 9 เดือน จากรายได้การขาย เท่ากับร้อยละ 17.20 และอัตรากำไรขั้นต้นจากรายได้การบริการเท่ากับร้อยละ 58.39 และค่าใช้จ่ายในการขายเท่ากับ 70.31 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 153.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.39 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.35 ตามยอดขายทีเพิ่มขึ้น

 

นายสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า การที่กำไรของบริษัทฯ ลดลงในครั้งนี้ เป็นไปตามธรรมชาติของอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าและสภาพตลาดของหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งจะมีบางช่วงที่ยอดขายทะลุเป้า  บางช่วง ก็มียอดขายที่ลดลงจากสภาพตลาดและการส่งมอบงาน อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมการลงทุนหม้อแปลงไฟฟ้าต้องมองในระยะยาว และขณะนี้ทางบริษัทฯ กำลังดำเนินการหาตลาดที่มี Margin สูงขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า , เวียดนาม , มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

 

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ผลิตหม้อแปลงให้กับโปรเจ็คโซลาฟาร์มอีกหลายโปรเจ็ค โดยบริษัทฯ ถือเป็นผู้ครองตลาดนี้กว่า 70-80 % และในกลุ่มของผู้ผลิตไฟฟ้า ด้วยเศษวัสดุอื่น ซึ่งบริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดนี้กว่า 40-50 % และถ้ารวม 2 กลุ่มนี้แล้ว บริษัทฯ มีแชร์กว่า 50-60 %

 

 

 

“ขณะเดียวกันในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ มีแผนในการเข้าไปประมูลภาครัฐ ด้วยวงเงินกว่า 3,600 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง 100 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1,500 บาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิต 200 ล้านบาท เอกชนภายในประเทศ 900 ล้านบาท ตลาดส่งออก 500 ล้านบาท และอื่น ๆ อีก 400 ล้านบาท โดยคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถชนะการประมูลได้มากว่า 20-25 % อีกทั้งในปีนี้ยังสามารถปิดยอดขายได้ตามเป้าหมายที่มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20 % อย่างไรก็ตามคาดว่าในปีหน้า ยังเป็นอีกปีของถิรไทยที่สามารถทำยอดขายได้ทะลุเป้าไม่ต่ำกว่า 20-25 % และขณะนี้บริษัทฯ มียอด Backlog แล้วกว่า 925 ล้านบาท”  นายสัมพันธ์ กล่าวสรุปในตอนท้าย