“ถิรไทย” เปิดรับศักราช รับโปรเจคยักษ์จาก “ไทยออยล์” มูลค่ารวมกว่า 725 ล้านบาท

0
466
image_pdfimage_printPrint

“ถิรไทย” เปิดรับศักราช รับโปรเจคยักษ์จาก “ไทยออยล์” มูลค่ารวมกว่า 725 ล้านบาท

            บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมด้านเกี่ยวกับพลังงานรายใหญ่ของประเทศ ประเดิมงานเปิดรับศักราชโปรเจคยักษ์จาก บมจ. ไทยออยล์ เซ็นรับออเดอร์ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่ และขนาดกลาง มูลค่ารวมกว่า 725 ล้านบาท เพื่อติดตั้งในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project at Sriracha Refinery จากบริษัทร่วมค้า ปิโตรแฟค เซาท์อีสท์เอเชีย, ไซเฟม สิงคโปร์ และซัมซุง เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) กำหนดส่งมอบงานภายใน Q3 และ QC 4 ปี 2563 ผู้บริหารเผย Q1/63 ตุน Backlog แล้วกว่า 2,461 ล้านบาท พร้อมเร่งดำเนินในกลุ่มธุรกิจใหม่เต็มสูบ

            นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่าย และซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาดของคนไทยเพียงแห่งเดียว เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปี 2563 ถือว่าเป็นปีทองของบริษัทฯ ที่ประเดิมรับงานใหญ่ ในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่ และขนาดกลาง โดยได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ในการสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้า สืบเนื่องจาก ไทยออยล์ มีมติอนุมัติการลงทุนโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CFP) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของโรงกลั่นไทยออยล์ ให้คงอยู่ในกลุ่มผู้นำของอุตสาหกรรม ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันดิบจากเดิมที่ 275,000 บาร์เรล ต่อวัน เป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน โดยโครงการใช้ระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี และมีวงเงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 4,825 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

            โดยคำสั่งซื้อจาก ไทยออยล์ ดังกล่าวที่ให้ทาง ถิรไทย ผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดกำลังขนาดใหญ่ และขนาดกลาง มีมูลค่ารวมกว่า 725 ล้านบาท เพื่อติดตั้งในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project at Sriracha Refinery ของ ไทยออยล์ จากบริษัทร่วมค้า ปิโตรแฟค เซาท์อีสท์เอเชีย, ไซเฟม สิงคโปร์ และซัมซุง เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) โดยมีกำหนดส่งมอบงานภายใน Q3 และ Q4 ในปี 2563 นี้

            “ภาพรวมบริษัทในขณะนี้ มี Backlog แล้วกว่า 2,461 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นในกลุ่มหม้อแปลงไฟฟ้า กว่า 2,026 ล้านบาท โดยแบ่งกลุ่มภาครัฐบาล และในประเทศ 1,644 ล้านบาท ส่งออก 382 ล้านบาท นอกจากนี้ ในกลุ่ม Non Transformers จากกลุ่ม Steel Structure & Fabricate 72 ล้านบาท กลุ่ม Distributing Digger / Arial อีกว่า 353 ล้านบาท กลุ่มงาน Operation and Maintenance อีกกว่า 10 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 20-25%” นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กล่าวปิดท้าย