ตามไปดูน้องๆ นักเรียนอาชีวะฝีมือชน เตรียมความพร้อมสู่โลกการทำงาน กับกิจกรรม “อาชีวะฝีมือชน ค้นหาอาชีพที่ใช่”
เพราะเล็งเห็นถึงความสำคัญในการเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดี ให้กับน้อง ๆ นักเรียนอาชีวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้ศึกษาดูงานในสถานประกอบการจริง เพื่อเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างแรงบันดาลใจก่อนที่จะก้าวเข้าสู่โลกการทำงานในอนาคต
กิจกรรม “อาชีวะฝีมือชน ค้นหาอาชีพที่ใช่” ภายใต้โครงการ “อาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ” โดยมูลนิธิ เอสซีจีจึงเกิดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้กับนักเรียนทุน
“อาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ” โดยมูลนิธิเอสซีจี ที่กำลังขึ้นชั้น ปวช.3 กว่า 140 ชีวิตจากทั่วประเทศ ได้สัมผัสประสบการณ์จากการเยี่ยมชมและดูงานในสถานประกอบการจริง พร้อมทั้งพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดกับอาชีวะฝีมือชน คนต้นแบบ เพื่อให้น้อง ๆ ได้ซักถามพี่ ๆ ผู้ประสบความสำเร็จในสายอาชีพแบบใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมก่อนฝึกงานจริงในระดับชั้น ปวส.
แม่งานอย่าง สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า “กิจกรรม “อาชีวะฝีมือชน ค้นหาอาชีพที่ใช่” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมภายใต้ โครงการอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ ของมูลนิธิฯ ที่ต้องการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของนักเรียนทุนฯ ให้ได้มีโอกาสเตรียมความพร้อมก่อนฝึกงานจริง ให้พวกเขาได้มาเรียนรู้ ได้เห็นของจริงในสถานประกอบการของบริษัทชั้นนำ โดยได้รับความร่วมมือจากกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ของเอสซีจีและบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมโครงการประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ซัมมิท โอโต บอดี้ อินดัสตรี จำกัด และ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด โดยร่วมกันเปิดสถานประกอบการให้น้อง ๆ ในสายอุตสาหกรรมและสายบริการได้เข้าไปเห็นการทำงานของเหล่ามืออาชีพอย่างใกล้ชิด ทั้งยังมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับรุ่นพี่อาชีวะฝีมือชน คนต้นแบบ ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานจากการเลือกเรียนสายอาชีวะ ซึ่งจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและตอกย้ำความมั่นใจให้พวกเขา ทั้งในเรื่องการเรียนและการประกอบอาชีพในอนาคต” สุวิมล กล่าว
ด้านฝีมือชน คนต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในอาชีพจากการเลือกเรียนอาชีวะ อย่าง ชลิต แววสว่าง ผู้จัดการผลิต ดูแลงานผลิตปูนเม็ด KK4 บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำกัด รับอาสาเป็นคนนำน้อง ๆ นักเรียนทุนฯ เยี่ยมชมโรงงาน ดูกระบวนการทำงานและการควบคุมเครื่องจักร กระบวนการทำงานของเตาเผาตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนสำเร็จออกมาเป็นปูนซิเมนต์ พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานที่เป็นประโยชน์แก่น้อง ๆ โดยเล่าว่าตนนั้นเริ่มต้นจากการเรียนจบสาขาช่างอิเล็คทรอนิกส์ และมาเป็นพนักงานปฏิบัติการทั่วไป ดูแลตั้งแต่เรื่องระบบหินจนไปถึงปูนซีเมนต์ที่ส่งออกไปให้ลูกค้า เรียนรู้และพัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการส่วนผลิตและยังเป็นวิทยากรฝึกอบรมการใช้เครนไฟฟ้า ที่ช่างกลโรงงานใช้กัน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ต้องมีการอบรมทางกฎหมายถึงจะสามารถใช้ได้
“การเรียนอาชีวะเป็นสายการเรียนที่ผมพบว่า มีช่องทางในการประกอบอาชีพให้เลือกมากมาย เพราะได้เน้นการลงมือทำจริง ได้ฝึกฝนทักษะฝีมือจนเกิดความชำนาญ ในระหว่างเรียนก็สามารถทำงานหารายได้เสริมได้อีกทางหนึ่ง เช่น รับจ้างเดินสายไฟ ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำเครื่องเสียงรถยนต์ เป็นต้น พอจบมาก็หางานทำได้ไม่ยาก และมีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน แต่ไม่ว่าจะทำงานอะไร พี่ก็ขอให้น้องขยัน ตั้งใจ ไม่ย่อท้อ และลงมือทำด้วยตัวเอง ก่อนจะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เมื่อเกิดปัญหาต้องรีบแก้ไขและติดตามผล รวมไปถึงพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ ไม่หยุดนิ่ง กล้าคิดกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายในการทำงานให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าทำได้แค่ไหนแค่นั้น ควรตั้งเป้าหมายให้ท้าทายตัวเอง ให้โอกาสตัวเองได้ลองผิดลองถูก จะทำให้เราสนุกกับการทำงานมากยิ่งขึ้น” ชลิต กล่าว
ด้านนักเรียนทุนฯ สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี จังหวัดปัตตานี หน่านี้ – นูรไอนี กำลังเที่ยง บอกเล่าถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมกิจกรรมว่า ระยะทางไม่เป็นอุปสรรคในการมาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ของเธอเลย นับเป็นกิจกรรมที่คุ้มค่าและช่วยจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนของเธอได้เป็นอย่างมาก
“ถือเป็นกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่พวกเรา ที่กำลังจะเรียนต่อในระดับชั้น ปวช.3 ซึ่งเป็นระดับชั้นที่จะต้องเตรียมตัวฝึกงาน เตรียมตัวหาที่เรียนต่อ หรือบางคนก็อาจจะเตรียมตัวเข้าสู่โลกการทำงาน กิจกรรมนี้ทำให้พวกเราได้มีเวลาคิด เตรียมตัว ได้ค้นหาความชอบว่าชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เดิมทีหนูตั้งใจว่าเมื่อจบ ปวช.3 แล้วจะศึกษาต่อในสายอื่น ไม่ต่อ ปวส. แต่พอได้มาร่วมกิจกรรม ได้ไปดูการทำงานจริงในสถานประกอบการ ได้เห็นโลกของการทำงานสายบริการ หนูเห็นว่ามันเป็นมากกว่าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย สิ่งสำคัญคือต้องมีใจบริการ มีทัศนคติที่ดี ทำด้วยความจริงใจ รู้สึกว่ามีอะไรอีกมากมายที่หนูต้องเรียนรู้ นอกจากนี้ยังได้ฟังประสบการณ์จากพี่ ๆ ที่ประสบความสำเร็จจากการเรียนอาชีวะ มีธุรกิจของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย สิ่งเหล่านี้มันทำให้หนูตกผลึกทางความคิด เกิดแรงบันดาลใจ และเลือกที่จะเรียนต่อ ปวส. และตั้งใจจะนำทักษะวิชาชีพจากสาขาที่เรียนไปต่อยอดสร้างธุรกิจเล็ก ๆ ระหว่างที่กำลังเรียนอยู่นี้ อาจจะเป็นการนำเอาวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ๆ เผื่อว่าจะได้มีกิจการเป็นของตัวเองบ้างค่ะ” หน่านี้ กล่าวถึงความตั้งใจของตนเอง
ซึ่งไม่ต่างจาก แม็ค – อนันต์ กรมวงศ์ นักเรียนทุนฯ สาขาวิชาอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยสารพัดช่างกาญจนบุรี ที่เล่าว่าได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ สามารถนำไปปรับใช้กับการเรียนและการเตรียมตัวฝึกงานในเทอมต่อไปได้เป็นอย่างดี
“ผมได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานของจริง ได้เห็นระบบควบคุมอัตโนมัติแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่นำไปใช้ควบคุมกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ ช่วยให้เข้าใจบทบาทความสำคัญของอิเล็กทรอนิกส์ในทางอุตสาหกรรมที่ช่วยลดขั้นตอน เพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้จากการที่ได้มาเห็นพี่ ๆ เขาปฏิบัติงานกันจริง ๆ ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็แล้วแต่ต่างก็ต้องใช้ความรู้ ความสามารถด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นเราต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง ประสบการณ์ที่ได้ในครั้งนี้จะเป็นแนวทางให้ผมได้เตรียมตัวนำไปใช้ตอนฝึกงานรวมถึงตอนทำงานได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการมาเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ได้ประโยชน์มาก ๆ ครับ” แม็ค กล่าวทิ้งท้าย
เปิดเทอมในปีการศึกษาใหม่นี้ เชื่อว่าเหล่าอาชีวะฝีมือชนจะได้แรงบันดาลใจเต็มเปี่ยมและมีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้นในการทำความฝันของตนเองให้สำเร็จ พร้อมที่จะก้าวไปสู่การเป็นอาชีวะฝีมือชนที่มีคุณภาพต่อไป
สำหรับน้องๆ ที่สนใจสมัครขอรับทุน ‘อาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ’ โดยมูลนิธิเอสซีจี สามารถเข้าไปดูกติกาเงื่อนไขการสมัครพร้อมดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.scgfoundation.org/อาชีวะฝีมือชนคนสร้างชาติ สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 15 มิถุนายน 2560 หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร 02 586 1475, 02 586 5506