ตลาดนัมเบอร์วัน ราม 2 ยกระดับตลาดสด 4.0 รองรับพร้อมเพย์ – บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เอื้อประโยชน์ผู้บริโภค – ร้านค้า
ตลาดนัมเบอร์วัน ราม 2 เตรียมเข้าสู่ตลาดสด 4.0 สนับสนุนร้านค้าภายในโครงการเพิ่มช่องทางการใช้จ่ายผ่านพร้อมเพย์และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หวังเพิ่มรายได้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดให้มากขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายสำหรับผู้บริโภค
คุณสุกัญญา สุวรรณนภาศรี กรรมการผู้จัดการบริษัท นัมเบอร์วันแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปีของรัฐบาลที่เข้าช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นจากเดิมเดือนละ 200 – 300 บาท เป็น 500 บาทต่อเดือนต่อคน ระยะเวลา 2 เดือน คือช่วงพฤษภาคมและมิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่รัฐบาลอยู่ระหว่างรณรงค์เพิ่มช่องทางการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากเดิมผู้บริโภคสามารถใช้บัตรที่ร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีเครื่องรูดบัตร EDC เท่านั้นและตัวเครื่องเองมีต้นทุนสูงถึง 18,000 บาท ทำให้ช่องทางการใช้บัตรไม่ถูกกระจายเป็นวงกว้างไปยังร้านค้าขนาดเล็ก ส่งผลให้รัฐบาลจัดทำแอพพลิเคชั่น “ถุงเงินประชารัฐ” เพื่อรองรับผู้บริโภคที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้ามาเสริม
คุณสุกัญญา กล่าวต่อว่า เราในฐานะผู้พัฒนาตลาดนัมเบอร์วัน ราม 2 มองว่าจะทำอย่างไรถึงสามารถช่วยเหลือผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาด จากเดิมที่สนับสนุนการชำระค่าสินค้าผ่านบริการพร้อมเพย์ ซึ่งหลายร้านมีผลตอบรับค่อนข้างดี จึงตัดสินใจเปิดพื้นที่ให้หน่วยงานที่ดูแลด้านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งประกอบด้วยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และทีโอที ลงพื้นที่ตลาดนัมเบอร์วันราม 2 เพื่อประชาสัมพันธ์แอพพลิเคชั่น “ถุงเงินประชารัฐ” หวังกระจายช่องทางให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการจับจ่ายมากขึ้น จากเดิมที่นำไปใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ได้นานหลายเดือน แต่นับจากนี้บัตรประชารัฐจะสามารถนำมาชำระค่าอาหารจากร้านค้าขนาดเล็กที่จำหน่ายอาหารสด อาหารสำเร็จรูป และอาหารตามสั่งได้ ซึ่งเหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยเป็นอย่างมาก
ด้านนางธัญพร หอมบุญมา เจ้าของร้านเจ๊หน่อยของชำ ตลาดนัมเบอร์วันราม 2 เปิดเผยว่า ครอบครัวของตนขายของชำในตลาดนัมเบอร์วันราม 2 มากว่า 20 ปี ที่ผ่านมาก็รับเงินสดจากลูกค้าตามปกติชนิดซื้อมาขายไป แต่ในช่วงหลังที่ออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้นทั้งบริการพร้อมเพย์ และแอพพลิเคชั่น ถุงเงินประชารัฐ ที่รัฐบาลจัดทำสำหรับร้านค้าเพื่อรองรับผู้บริโภคที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้เจ๊หน่อยมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่ไม่เคยมีมาก่อน จึงตัดสินใจเข้าสมัครเป็นร้านค้าที่รับบัตรประชารัฐ ซึ่งถือว่าผลตอบรับค่อนข้างดีเนื่องจากมีรายได้เพิ่มจากช่องทางนี้ เฉลี่ยวันละ 2,000 – 4,000 บาท แม้จะไม่ได้รับเงินสดทันที แต่จะได้เงินในวันถัดไปตามวันเวลาราชการทางร้านก็ยินดีเพราะมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง
สำหรับจำนวนผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั่วประเทศ มีทั้งสิ้น 14.5 ล้านคน เป็นผู้อยู่อาศัยในเขตประเวศราว 1.6 หมื่นคน ซึ่งถือเป็นเขตที่มีผู้ลงทะเบียนเป็นลำดับต้นๆของกรุงเทพฯ ทั้งนี้ การเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ในปี 2562 จะเปิดรับช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยแก้ไขให้ลงทะเบียนทั้งรายบุคคลและรายครอบครัว เพราะผู้สูงอายุบางคนไม่มีอาชีพแต่มีทรัพย์สิน นอกจากนี้ยังมีแนวคิดเปิดให้ลงทะเบียนซ้ำทุกปีเพื่อคัดกรองผู้มีสิทธิ์อย่างแท้จริง