บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่จะผสานชื่อเสียงระดับโลกและความเชี่ยวชาญด้านงานองค์กรในประเทศของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เข้ากับแพลตฟอร์มศูนย์ข้อมูลระดับโลกและประวัติการดำเนินงานแถวหน้าในอุตสาหกรรมของดิจิทัล เรียลตี้
ดิจิทัล เรียลตี้ ( Digital Realty ) (NYSE: DLR) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นศูนย์ข้อมูล การให้เช่าพื้นที่วางเซิร์ฟเวอร์ และการเชื่อมต่อโครงข่าย ประกาศว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (Mitsubishi Corporation) ในการตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่โดยแบ่งกรรมสิทธิ์เท่ากันบริษัทละ 50% สำหรับบริษัทร่วมทุนแห่งนี้จะให้บริการโซลูชั่นศูนย์ข้อมูลในญี่ปุ่น โดยจะอาศัยจุดแข็งของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ในด้านความเชี่ยวชาญด้านงานองค์กรและศูนย์ข้อมูลอันมั่นคงในญี่ปุ่น ที่ผสานเข้ากับฐานลูกค้าทั่วโลกและประวัติการดำเนินงานศูนย์ข้อมูลระดับแถวหน้าในอุตสาหกรรมของดิจิทัล เรียลตี้
บริษัทร่วมทุนแห่งนี้จะดำเนินงานภายใต้ชื่อ เอ็มซี ดิจิทัล เรียลตี้ (MC Digital Realty) โดยทางมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น จะสนับสนุนบริษัทแห่งใหม่ด้วยศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่เดิม 2 แห่งในเมืองมิตะกะ ซึ่งตั้งอยู่ชานกรุงโตเกียวฝั่งตะวันตก ส่วนทางดิจิทัล เรียลตี้ จะสนับสนุนด้วยศูนย์ข้อมูลในเมืองโอซาก้าที่เพิ่งเสร็จ ซึ่งสินทรัพย์ทั้ง 3 แห่งมีมูลค่ารวมกันราว 4 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 350 ล้านดอลลาร์) บริษัทร่วมทุนแห่งนี้มีเป้าหมายในการสร้างแพลตฟอร์มที่เป็นประโยชน์ต่อตลาดญี่ปุ่นในวงกว้าง และมาพร้อมศักยภาพในการขยายขอบเขตธุรกิจในช่วงหลายปีต่อจากนี้
เอ. วิลเลียม สไตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดิจิทัล เรียลตี้ กล่าวว่า “เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับองค์กรระดับสากลอันเปี่ยมความเชี่ยวชาญในประเทศอย่างมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น รวมถึงได้วางรากฐานทางธุรกิจในญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับแพลตฟอร์มศูนย์ข้อมูลระดับโลกของดิจิทัล เรียลตี้ และความร่วมมือกับมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจของเราในญี่ปุ่น”
เมื่อช่วงต้นปีนี้ ดิจิทัล เรียลตี้ ได้ประกาศเปิดศูนย์ข้อมูลแห่งแรกในญี่ปุ่นชื่อ Digital Osaka 1 โดยมีพื้นที่ใช้สอยราว 93,000 ตารางฟุต และมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารองรับงานไอที 7.6 เมกะวัตต์ ทั้งยังถูกเช่าเต็มพื้นที่ตั้งแต่ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ พร้อมกันนี้ ดิจิทัล เรียลตี้ ยังประกาศซื้อที่ดินแปลงที่อยู่ติดกันเพื่อรองรับการพัฒนาศูนย์ที่เชื่อมถึงกัน ซึ่งจะสนับสนุนกำลังไฟฟ้ารองรับงานไอทีเพิ่มอีก 27 เมกะวัตต์เมื่อก่อสร้างเสร็จ
คริส เคนนี รองประธานอาวุโสของดิจิทัล เรียลตี้ กล่าวว่า “ญี่ปุ่นคือตลาดที่เติบโตอย่างเต็มที่ ขณะที่ภาคเทคโนโลยีขั้นสูงก็มีแนวโน้มว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ตลาดศูนย์ข้อมูลในญี่ปุ่นยังค่อนข้างกระจัดกระจาย อีกทั้งยังขาดแคลนศูนย์ข้อมูลระดับสถาบันที่มีคุณภาพ เรามองเห็นโอกาสในการเติบโตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไปอีกหลายปี และเราหวังว่าบริษัทร่วมทุน เอ็มซี ดิจิทัล เรียลตี้ จะช่วยยกระดับขีดความสามารถของเราให้เพียงพอต่อความต้องการศูนย์ข้อมูลที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในตลาดญี่ปุ่น”
ดิจิทัล เรียลตี้ เป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูล การให้เช่าพื้นที่วางเซิร์ฟเวอร์ และการเชื่อมต่อโครงข่ายครบวงจรระดับโลก โดยปัจจุบันเป็นเจ้าของและผู้บริหารสินทรัพย์กว่า 157 แห่ง ใน 33 เมืองใหญ่ทั่วโลก ส่วนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น ดิจิทัล เรียลตี้ เป็นผู้บริหารเครือข่ายศูนย์ข้อมูลชั้นนำในอุตสาหกรรม ทั้งในสิงคโปร์ ฮ่องกง โอซาก้า เมลเบิร์น และซิดนีย์
เกี่ยวกับ ดิจิทัล เรียลตี้
ดิจิทัล เรียลตี้ ให้การสนับสนุนด้านศูนย์ข้อมูล การให้เช่าพื้นที่วางเซิร์ฟเวอร์ และการเชื่อมต่อโครงข่ายแก่องค์กรกว่า 2,300 แห่งทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย ผ่านเครือข่ายศูนย์ข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงของบริษัท ลูกค้าของดิจิทัล เรียลตี้ เป็นบริษัททุกขนาดจากทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่บริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน ผู้ให้บริการคลาวด์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ไปจนถึงบริษัทด้านการผลิต พลังงาน เกม ชีววิทยาศาสตร์ และสินค้าอุปโภคบริโภค สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถรับชมได้ที่ www.digitalrealty.asia หรือติดตามเราได้ทางทวิตเตอร์ @DigitalAPAC และบล็อก https://apac.digitalrealty.com
เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น
มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (เอ็มซี) เป็นองค์กรธุรกิจแบบบูรณาการระดับโลก โดยมีการพัฒนาและดำเนินธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม อาทิ การเงินอุตสาหกรรม พลังงาน โลหะ เครื่องจักร เคมีภัณฑ์ และปัจจัยพื้นฐานสำหรับการดำรงชีพ
เอ็มซีได้ขยายขอบเขตธุรกิจออกไปมากมายนอกเหนือจากธุรกิจดั้งเดิม โดยครอบคลุมไปถึงการลงทุนและการบริหารธุรกิจในหลากหลายภาคส่วน ตั้งแต่การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ การผลิตสินค้าอุตสาหกรรม การค้าปลีก พลังงานใหม่ โครงสร้างพื้นฐาน การเงิน ไปจนถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ๆ
เอ็มซีมีพนักงานหลากหลายเชื้อชาติมากกว่า 68,000 คน ซึ่งประจำอยู่ในสำนักงานกว่า 200 สาขา ใน 90 ประเทศทั่วโลก รวมถึงเครือข่ายกลุ่มบริษัทอีกกว่า 1,200 แห่ง
คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ (Safe Harbor Statement)
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยข้อความคาดการณ์อนาคต ที่อ้างอิงจากความคาดหวัง การคาดการณ์ และสมมติฐาน ณ ปัจจุบัน ซึ่งมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการที่อาจทำให้ผลลัพธ์แท้จริงออกมาแตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก โดยครอบคลุมถึงข้อความในประกาศจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างดิจิทัล เรียลตี้ และ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ตัวอย่างของความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่กล่าวถึงข้างต้นประกอบด้วย ผลกระทบจากสภาพตลาด สภาพเครดิต และสภาพเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน, สภาพเศรษฐกิจในเมืองใหญ่ที่เราทำธุรกิจอยู่, การใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ลดลง อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือถดถอย, ความเคลื่อนไหวเชิงลบด้านอสังหาริมทรัพย์หรือเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมของเราหรืออุตสาหกรรมที่เราทำธุรกิจด้วย (รวมถึงความเสี่ยงจากมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงและการด้อยค่าของสินทรัพย์), การที่เราต้องพึ่งพาผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์หลายราย, การล้มละลายของผู้เช่ารายใหญ่รายใดรายหนึ่ง หรือผู้เช่ารายเล็กหลายราย, การที่ผู้เช่าผิดสัญญาเช่าหรือไม่ต่อสัญญาเช่า, ความล้มเหลวของเราในการระดมทุนจากการออกหุ้นหรือการกู้ยืมเมื่อถึงเวลาจำเป็น, ความเสี่ยงจากการกู้ยืมเงินเพื่อมาดำเนินธุรกิจ รวมถึงความเสี่ยงจากการรีไฟแนนซ์และอัตราดอกเบี้ย ความล้มเหลวในการชำระหนี้เมื่อถึงกำหนด อันดับความน่าเชื่อถือของเราที่ลดลง การละเมิดข้อตกลงหรือเงื่อนไขอื่นๆที่ระบุในสัญญากู้ยืมของเรา, ความผันผวนของตลาดการเงิน, การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ, การที่เราไม่สามารถบริหารธุรกิจให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ, อุปสรรคในการเข้าซื้อหรือบริหารสินทรัพย์ในต่างประเทศ, ความล้มเหลวของเราในการควบรวมและบริหารสินทรัพย์หรือธุรกิจที่ได้มาหรือพัฒนาขึ้นมา, ความเหมาะสมของสินทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลของเรา ความล่าช้าหรืออุปสรรคในการเชื่อมต่อ ความล้มเหลวของบริการหรือโครงสร้างพื้นฐานความปลอดภัยข้อมูล หรือการจ่ายกระแสไฟฟ้า, ความเสี่ยงจากการลงทุนในบริษัทร่วมทุน อันเป็นผลมาจากการขาดการควบคุมการลงทุน, ความล่าช้าหรือต้นทุนที่ไม่คาดฝันในการพัฒนาสินทรัพย์, ค่าเช่าที่ลดลง ต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น หรืออัตราว่าง (vacancy rate) ที่เพิ่มขึ้น, การแข่งขันที่สูงขึ้นหรือพื้นที่ศูนย์ข้อมูลล้นตลาด, การที่เราไม่สามารถพัฒนาและปล่อยเช่าสินทรัพย์ใหม่ๆให้ประสบความสำเร็จ, อุปสรรคในการเสาะหาสินทรัพย์และการเข้าครอบครอง, การที่เราไม่สามารถเข้าครอบครองสินทรัพย์นอกตลาด, การที่สหราชอาณาจักรลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโลกและธุรกิจของเรา, การที่เราไม่สามารถปฏิบัติตามกฎและข้อกำหนดที่บังคับใช้กับบริษัท, ความล้มเหลวของเราในการรักษาสถานะ REIT, การเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษี, ข้อจำกัดของเราในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางธุรกิจ, ความไม่แน่นอนของสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ, การขาดทุนจากความคุ้มครองประกันภัยที่มากเกินไป, การเปลี่ยนแปลงกฎหมายและข้อบังคับในต่างประเทศ รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับภาษี การครอบครองและบริหารอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับระดับท้องถิ่น รัฐ และประเทศ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงกฎหมายอสังหาริมทรัพย์และการแบ่งเขต และการขึ้นภาษีอสังหาริมทรัพย์ สำหรับรายละเอียดของความเสี่ยงและความไม่แน่นอนทั้งหมดระบุอยู่ในรายงานและเอกสารต่างๆ ที่ดิจิทัล เรียลตี้ ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงรายงานประจำปี Form 10-K ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 และรายงานประจำไตรมาส Form 10-Q ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 และ 30 มิถุนายน 2560 ทั้งนี้ บริษัทไม่มีความประสงค์หรือภาระผูกพันใดๆ ในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความคาดการณ์อนาคต แม้ว่าจะมีข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่นใดเกิดขึ้นก็ตาม
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Omer M. Wilson
Senior Director of Marketing
Asia Pacific
Digital Realty
owilson@digitalrealty.com
+65 6505 3951