จากอดีตจวบจนปัจจุบันเทคโลยีและนวัตรกรรมต่างๆ มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนอกจากการพัฒนาของเทคโนโลยีต่างๆแล้ว การดำเนินงานให้อยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด นับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้ปฎิบัติงานต้องคำนึงถึงสำหรับภาคส่วนอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยในการปฎิบัติงานต่างๆ ให้เป็นไปตามแผน การหาทางเลือกที่เหมาะสมด้านความปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ดาคอน อินสเป็คชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด ได้นำทีม Rope Access เข้าไปดำเนินการเชื่อม pipe support ตรวจสอบ และติดตั้งระบบดับเพลิงให้กับถังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 98 เมตร สูง 15 เมตร ณ โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งในอดีตการปฏิบัติงานดังกล่าวจะต้องใช้อุปกรณ์และพนักงานจำนวนมากในการปฏิบัติงาน อาทิเช่น รถเครนเคลื่อนที่ การจัดตั้งนั่งร้าน รวมถึงจำนวนของผู้ปฏิบัติงานอีกจำนวนมากซึ่งต้องใช้เวลาในการปฏิบัติงานทั้งสิ้นกว่า 90 วัน โดยการดำเนินงานในครั้งนี้บริษัท ดาคอนได้หาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดให้แก่ลูกค้าเพื่อที่จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ อีกทั้งยังปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัย และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ดาคอน ได้นำผู้เชี่ยวชาญด้าน Rope access เข้าไปสำรวจและวางแผนการทำงานก่อนเริ่มปฏิบัติงาน หลังจากที่ได้แผนดังกล่าวมาแล้ว ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน Rope Access ได้ทำการศึกษาและทดลองเทคนิคดังกล่าวเพิ่มเติมที่ศูนย์ฝึกอบรม Rope Access ของบริษัท ดาคอนฯ พร้อมกับทีมงาน Rope Access ที่ผ่านการรับรองด้านงานเชื่อมจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานในการเชื่อมแผ่นต่อชนท่า 3G และ ทีมงาน Rope Access ที่ผ่านการรับรองด้านการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย (NDT) ซึ่งดาคอนได้หาทางเลือกและหาแนวทางในการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิผลเพื่อช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย ปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากเดิมในการยก pipe support หรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อขึ้นไปทำการเชื่อมกับถังเก็บนั้นจะต้องใช้รถเครนในการยกอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งอาจทำให้มีไอเสียของเครื่องยนต์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ อีกทั้งการเข้าไปปฏิบัติงานของรถเครนในแต่ละพื้นที่ก็ค่อนข้างมีความยากลำบาก แต่เราได้นำ Rope Access ตามมารตฐานของ IRATA มาประยุกต์ใช้ในการทำงานดังกล่าวทำให้เราสามารถที่จะทำงานได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สำหรับการปฏิบัติงานจริงบริษัท ดาคอนฯ ใช้เวลาทั้งสิ้น 20 วัน โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญด้าน Rope Access ที่เข้าไปปฏิบัติงานทั้งสิ้น 14 คน ซึ่งดาคอนถือว่าเป็นบริษัทไทยรายแรกในการปฏิบัติงานดังกล่าวและได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากดาคอนได้ช่วยให้ลูกค้าประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่าโครงการอื่นๆที่ผ่านมา เชื่อมั่นว่า การนำ Rope Access เข้ามาบุกตลาดในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าช จะเป็นเทรนด์ใหม่ที่เข้ามาแทนที่ตลาดเครนและนั่งร้านในอนาคตอย่างแน่นอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการตรวจสอบทางวิศวกรรมได้ที่ http://www.dacon-inspection.com
