บทเรียนชีวิตใครๆ ก็ย่อมมี แต่หากบทเรียนชีวิตนั้นเป็นเหมือน ‘จุดดำ’ ของชีวิต เราจะปล่อยให้มันกลายเป็น ‘จุดดำ’ ที่ฝังอยู่ในใจอย่างนั้นตลอดไป หรือพยายามมองหา ‘จุดขาว’ เพื่อขยายวงกว้างให้มันใหญ่จนกลบความเป็นสีดำให้หมด นี่คือผลงานของกลุ่มเยาวชนอดีตเด็กแก๊งของเชียงใหม่ กลุ่ม ‘พลังเหนือ’ ที่วันนี้พวกเขาได้นำเรื่องราวด้านมืดที่เคยผ่านมา มาสร้างเป็นหนังสั้นเรื่อง ‘จุดดำ’ หวังเตือนสติเยาวชนรุ่นหลังไม่ให้เดินทางผิด และสื่อสารไปถึงผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงลูกหลานและคนรุ่นใหม่ให้ทำความดีต่อสังคมต่อไป
ซึ่ง ‘เป้ย-ฤทธิพันธ์ วิจิตรพร’ ตัวแทนของทีมพลังเหนือ อดีตหัวหน้าแก๊งเอราวัณ ซึ่งร่วมเขียนบทและกำกับ ร่วมด้วย ‘บุคส์-ภูวนัย โนจิตร’ ช่างภาพหน้าใหม่แต่หัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์สังคม ที่หวังให้คนที่ดูหนังเรื่องนี้สื่อสารและจุดประกายความคิดที่จะนำไปต่อยอดให้เกิดพลังในการเปลี่ยนแปลงสังคมได้
“หนังเรื่องนี้เล่าเกี่ยวกับชีวิตของเด็กสองคน คนหนึ่งชื่อเอกเป็นเด็กยากจน ครอบครัวไม่พร้อม อยู่กับยาย พ่อแม่เป็นใครไม่รู้ เรียนไม่เก่ง เรียนโรงเรียนธรรมดาๆ ชอบเรื่องการขับรถ อีกคนชื่อต้าร์เป็นเด็กพ่อแม่มีฐานะดี อยุ่โรงเรียนดี ผลการเรียนดี โดยที่ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน หนังก็จะแสดงถึงความแตกต่างระหว่างเด็กสองคน ลูกคนรวยพ่อแม่จะไม่ได้อยู่ด้วย ทำงานไกล เลี้ยงลูกด้วยเงิน คนจะมองว่า เอกเป็นคนไม่ดีเพราะว่าบ้านฐานะไม่ดี มีรอยสัก แต่จะมองต้าร์ว่าเป็นคนดี เป็นคุณหนู ทั้งๆ ที่ต้าร์ก็เกเรเหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วหนังก็จะสะท้อนว่า แม้เราจะเกิดมาแบบไหน เป็นคนจนคนรวย ถ้าเราตั้งใจทำความดี เป็นคนดี ก็ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ แม้ว่าเราจะเคยก้าวพลาดมาก่อนก็ตาม”
“ฉากที่ยากที่สุดและประทับใจที่สุด ก็คือฉากในตำนาน เพราะเป็นการรวมหัวหน้าแก๊งระดับบิ๊กๆ ในตำนานของเชียงใหม่ครับ ซึ่งเมื่อก่อนพี่ๆ บางคนก็ไม่ลงรอยกัน แต่หนังเรื่องนี้ก็ทำให้พี่ๆ ได้มารวมตัวกันได้ เพราะด้วยความที่อยากจะทำอะไรดีๆ เพื่อสังคมร่วมกัน อยากให้บทเรียนในชีวิตของตัวเอง สามารถส่งสารไปถึงรุ่นน้องที่ยังหลงทางผิดร่วมกัน เราก็ได้เห็นการรวมตัวของหัวหน้าแก๊งที่เยอะที่สุดที่เคยมีมา ส่วนบุคส์ (ช่างภาพ) ประทับใจเป็นฉากที่เอกตัดสินใจทำไม่ดีเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะประโยคในฉากนี้ที่เอกพูดว่า “เวลาเราไม่มีเงินน่ะ ใครๆ เขาก็ไม่มองเราหรอก แต่ถ้าเรามีเงิน ใครๆ เขาก็สนใจเราทั้งนั้น ในโลกนี้ไม่มีใครมองหรอกว่าเงินน่ะหามาจากไหน เขาจะมองแค่ว่ามึงมีเงินหรือเปล่าแค่นั้น”
“หนังเรื่องนี้ก็คาดหวังว่าถ้าคนดูเป็นเด็กเยาวชน ดูแล้วก็จะตรงกับสิ่งที่พวกเขากำลังเจออยู่ ก็อยากให้พวกเขาพลิกชีวิตของตัวเองให้ได้ แม้ว่าอาจจะเคยทำผิดพลาดมาก่อน ถ้าเรามองว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีอยู่อย่างนั้น ชีวิตมันก็ไม่ดีขึ้นาหรอก แต่ถ้าเราพิสูจน์ตัวเองได้ เราก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นกัน และถ้าเป็นผู้ใหญ่ดู ที่เคยตีตราเด็กบางคนว่าเป็นคนไม่ดี ทั้งๆ ที่เขาสามารถเป็นคนดีในสังคมได้ เขาก็อาจจะเปลี่ยนมุมมองในการที่จะมองเด็กคนหนึ่ง คนจะดีจะเลวอยู่ที่ตัวเองก็จริง เป็นเพราะสภาพแวดล้อมก็ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าสองส่วนนี้มาช่วยกัน ผมว่ามันก็จะทำให้คนดีขึ้นได้ สังคมดีขึ้นได้ มันก็เหมือนกับเราเลือกที่จะมองจุดสีดำของเขาเพียงอย่างเดียวหรือไม่ ทั้งๆ ที่จุดสีขาวเขาก็มี แล้วถ้าเราช่วยกันขยายจุดสีขาวของเขา มันก็จะค่อยๆ กว้างออกจนกลบจุดสีดำไปหมดก็ได้ แต่ถ้าขยายจุดด้อย เขาก็จะยิ่งด้อยไปเรื่อยๆ ก็อยากฝากหนังเรื่องจุดดำเอาไว้ด้วยนะครับ มีนา 61 นี้ เสิร์ชยูทูบคำว่า จุดดำ และอย่าลืมเป็นกำลังใจให้พวกเรากลุ่มพลังเหนือ ได้สร้างสรรค์งานดีๆ ออกมาสู่สังคมอีกนะครับ”
และความพิเศษอีกอย่างของหนังสั้น ‘จุดดำ’ ได้ ‘FATMONKEY M.O.E’ ศิลปินแรปเปอร์อินดี้สุดเก๋ามาแต่งเพลงและร้องประกอบเอ็มวีของหนังจุดดำให้ด้วย เรียกว่าโดนใจวัยรุ่นสุดๆ ชมเอ็มวีคลิกลิงก์ https://www.youtube.com/watch?v=ANxBrq2gQy8