จากโปรดิวเซอร์ชื่อดัง สู่การขายเสื้อผ้าออนไลน์!!
‘ปอร์ กสิ’ โปรดิวเซอร์ศิลปินดัง ทั้งอ่วม ทั้งงง
โดนเพจขายเสื้อผ้า สวมรอย แฮกเฟสบุ๊ค
สูญเงินเกือบครึ่งแสน!!
นายกสิ นิพัฒน์ศิริผล หรือ ‘ปอร์ Kasi’ ศิลปิน-โปรดิวเซอร์-นักแต่งเพลงชื่อดัง ที่แต่งเพลงและโปรดิวซ์ให้ศิลปินชื่อดังที่ทุกคนรู้จักมาแล้วนับไม่ถ้วน เช่น เบิร์ด ธงไชย, บี้ สุกฤษฎิ์, หนูนา หนึ่งธิดา, กัน นภัทร, นิวจิ๋ว ฯ และวิทยากร-นักสร้างแรงบันดาลใจ สุดอ่วม! ถูกแก๊งมิจฉาชีพอินเตอร์ ซึ่งคาดว่าอาจมีคนไทยรวมอยู่ด้วย ทำการแฮกเฟสบุ๊ค แล้วรุกเข้าไปยึดเพจ ลบคอนเทนต์ในเพจหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวกับบทเพลงถวายในหลวง ร.9 ที่รวมศิลปินดังหลายสิบชีวิต จนหมดเกลี้ยง โดยทำการเปลี่ยนเป็นเพจขายเสิ้อผ้า สูญเงินยิงแอดโฆษณาหลายหมื่นบาท คาดว่าคนร้ายหลอกโอนเงินชาวเวียดนามที่สนใจ นับร้อยคอมเมนต์ หลังแจ้งความตำรวจท้องที่ และปอท. ยังไม่มีความคืบหน้า กว่า 2 เดือนแล้ว ถึงตอนนี้ กลางเดือนตุลาคม คนร้ายได้ใจแอบอ้างเรี่ยไรเงิน ได้อีกกว่า 10 ราย เป็นเงินหลักหมื่นบาท และนำบัญชีเฟสบุ๊คของตนที่แฮกได้ ไปแฮกเพจอื่นต่อ อีกอย่างน้อย 1 ราย แล้วเปลี่ยนเป็นเพจขายเสิ้อผ้า พร้อมนำไปยิงแอดโฆษณา ในรูปแบบเดียวกัน
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม เวลา 23.00 น. ขณะที่ ‘ปอร์ Kasi’ ผู้เสียหาย กำลังใช้งานเฟสบุ๊คส่วนตัว ชื่อ ‘Kasi Nipatsiripol’ ได้มีคำแจ้งเตือนให้เปลี่ยนรหัสใหม่ เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งแท้จริงแล้ว เป็นการ phishing หลอกลวง ที่คนร้ายทำเว็บปลอมหน้าตาหมือนเฟสบุ๊คจริง จึงหลงเชื่อ กรอกรหัสไป แล้ว log out ออกจากระบบ ตามคำแนะนำ โดยไม่เฉลียวใจ เนื่องจากในช่วง 3-4 วัน ก่อนหน้า มีการแจ้งเตือนให้เปลี่ยนรหัสใหม่ เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น จากเฟสบุ๊คจริง โดยมีอีเมล์ยืนยันส่งมาที่อีเมล์สำรอง ที่ตน ใช้เช็คประจำ หลายครั้ง คาดว่าคนร้ายน่าจะหาทางหลอก เอารูปแบบ การตั้ง password ของตน และสร้างความเคยชิน ให้กรอกข้อมูล ที่ดูปลอดภัย ก่อนทำการเผด็จศึก ผ่านการปะปนหน้าเว็บปลอม มากับหน้าเว็บจริง ทำให้ทันทีที่ตนพยายาม log in กลับเข้าไปอีกครั้ง ในไม่ถึง 5นาที ก็เข้าไม่ได้ เพราะคนร้ายได้ตัดหน้าเข้าไป ทำการเปลี่ยนแปลงรหัสใหม่ก่อนตนแล้ว
จากนั้น ตนได้แจ้ง ระบบเฟสบุ๊ค ว่าบัญชีถูกแฮก ทำเรื่องขอกู้บัญชี และยืนยันตัวตน ซึ่งเวลาประมาณบ่ายโมง วันที่ 5 สิงหาคม เฟสบุ๊คก็ตอบกลับมา ว่า ยอมรับการยืนยันตัวตนแล้ว ให้รีเซ็ทรหัสผ่าน และเข้าระบบได้ แต่ตนก็ยัง log in กลับเข้าไปไม่ได้ เนื่องจากติดล็อค การยืนยัน แบบ 2 ขั้นตอน (2step verication) ที่เชื่อว่าคนร้าย เปลี่ยนให้ส่งรหัสชั้นที่ 2 ไปยังอุปกรณ์ของคนร้าย แทน ในวันเดียวกันนั้น จึงได้พบว่า เพจ ‘PorKasi Songwriter&Producer’ ของตน ที่ใช้ติดต่อกับลูกค้างานเพลง และโพสต์กิจกรรม เกี่ยวกับเพลง ‘เสียงจากลูกของพ่อ’ ที่ตนได้จัดทำขึ้น ร้องโดยศิลปินดังหลายสิบชีวิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พ่อหลวง ร.9 ( บทเพลงตาม Link นี้ https://www.youtube.com/watch?v=rRIV8Yp6lpE ) ได้ถูกแฮก แล้วลบคอนเทนต์ไปเปลี่ยนเป็นเพจขายเสื้อผ้า โพสต์เป็นภาษาเวียดนาม มีคนคอมเมนต์ กว่า 200 คอมเมนต์ มีแอดมินเพจที่ไม่ใช่ตน ตอบคอมเมนต์รวดเร็ว คึกคักมาก ตนจึงตกใจ รีบโทรอายัดบัตรเครดิต แต่ก็ไม่ทัน เพราะมีการใช้ยิงแอดโฆษณาเฟสบุ๊ค ไป เกือบ 2 หมื่นบาท
ตนได้ติดต่อขอให้เพื่อนช่วยโพสต์เตือนภัย Tag ไปยังหน้าเฟสบุ๊คของตน เพราะเกรงคนร้ายจะไปหลอกลวง เพื่อนฝูง ผู้ติตตาม ให้เสียหาย จากนั้น คนร้ายก็ค่อยๆหยุดการเคลื่อนไหวที่หน้าบัญชีเฟสบุ๊ค และเพจหลักอีกเพจของตน ชื่อ ‘Post Kasi’s Thinking’ แต่ยังคงเคลื่อนไหวในเพจ “PorKasi Songwriter&Producer” ที่ได้ปล้นไปเปลี่ยนเป็นเพจขายเสื้อผ้า โดยสมบูรณ์ ตั้งแก๊งจับจองเป็นแอดมินเพจ เท่าที่เช็คได้ คือ เวียตนาม 17 บัญชี, ไต้หวัน 1 บัญชี และไทย 1บัญชี
‘ปอร์ Kasi’ ได้พยายามกู้เฟสบุ๊คคืน จากอีเมล์สำรอง ที่ยังได้รู้ความเคลื่อนไหว
ในการเข้าบัญชีเฟสบุ๊คของตน จากคนร้าย กระทั่งเวลาประมาณ 6โมงเช้า ของวันที่ 6 สิงหาคม คนร้าย ก็ได้ตัดขาดอีเมล์สำรองของตน ไปโดยสมบูรณ์ ตนจึงไล่เรียงเหตุการณ์ และรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ไปแจ้งความ กับ สน. ลำผักชี ตามท้องที่เกิดเหตุ และ ไปร้องทุกข์ – ให้เบาะแส กับ ทางบก.ปอท. (กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) หวังว่าจะทำหน้าที่พลเมืองดี ช่วยตำรวจติดตามแก๊งคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะได้ IP Address ที่คาดว่าอาจเป็นของคนร้าย มาด้วย
หลังจากตนได้เล่าเหตุการณ์ และให้ข้อมูล โดยแสดงเจตนาว่าต้องการติดตามผล ให้เจ้าหน้าที่สืบหาคนร้ายให้ได้ เจ้าหน้าที่ 2-3 คน ที่ดูเหมือนใส่ใจ ตอนรับเรื่อง ก็แสดงท่าที บ่ายเบี่ยง ไม่อยากให้ติดตาม แต่ก็ยอมให้ตนนำเอกสารบางส่วน วิ่งไปให้ สน.ลำผักชี เพื่อช่วยให้การทำงาน เร็วขึ้น และตนก็ได้แจ้งไว้แล้วว่า จะส่งเอกสาร และหลักฐานเพิ่มเติม ไปให้ทางไลน์ที่แลกไว้กับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง แต่เมื่อส่งไปให้ กลับไม่มีการอ่านไลน์ ไม่รับหลักฐานนั้นไป กว่า 2 เดือน โทรติดต่อไปที่ ปอท. กว่า 50 สาย ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ ส่วนร้อยเวร ที่สน.ลำผักชี ก็มีท่าทีบ่ายเบี่ยง ที่จะติดตามตัวคนร้าย เช่นกัน
ระหว่างนั้น ก็มีความเสียหายที่ยังคงเกิดขึ้น ช่วงเดือน สิงหาคม – ตุลาคม โดยเพื่อนผู้ติดตาม เฟสบุ๊ค ของตน ได้ทยอย แจ้งมาว่า คนร้ายได้แอบอ้างเป็นตน เรี่ยไร ให้โอนเงินไปให้ เพราะตนเคยทำกิจกรรมการกุศล จนได้รับความเชื่อถือ จึงมีคนหลงเชื่อ โอนมาให้ รวมกว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งตนก็ช่วยรับผิดชอบไปบางส่วน ให้ผู้เสียหาย เพื่อแสดงความจริงใจ และขอให้เพื่อน ๆ ผู้ติดตาม หลายคน ช่วยกันโพสต์เตือนภัย ไปที่หน้าเพจทั้งหมด เพื่อไม่ให้ใครหลงเป็นเหยื่อมิจฉาชีพอีก และจากที่เพื่อนๆ ช่วยแชร์เรื่องราวเตือนภัยนี้ ต่อๆกันไป ก็ได้มีผู้ติดต่อเข้ามาว่า เฟสบุ๊คที่ถูกแฮกของ ‘ปอร์ Kasi’ ได้ไปขอแอดเพื่อนเขา แล้วไปแฮกเพจของเขาต่ออีกที ในเวลาต่างกันแค่วันเดียว คือ 5 ทุ่ม ของวันที่ 5 สิงหาคม ผู้เสียหายรายนั้นคาดว่า คนร้าย อาจนำเฟสบุ๊คของ ‘ปอร์ Kasi’ ที่แฮกมาได้ มาตั้งเป็นแอดมินเพจของเขา เพื่อให้สาวถึงตัวคนร้ายได้ยากขึ้น ซึ่งเมื่อเช็คดูเพจนั้น ที่เป็นเพจขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง มาก่อน ปรากฎว่า คนร้ายได้นำมาแปลงโฉม เป็นเพจขายเสื้อผ้า หน้าตาเหมือนกัน และนำมายิงแอดโฆษณา แบบเดียวกัน ประกอบกับ ‘ปอร์ Kasi’ได้สืบค้นย้อนหลังกลับไป พบหลักฐานเพิ่มเติม ว่า คนร้ายอาจแฮกมาจากอีเมล์หลัก ที่ตนใช้เปิดบัญชีเฟสบุ๊ค ตัั้งแต่ 2เดือนก่อนหน้านี้ จึงเป็นไปได้สูงว่า คนร้ายแก๊งนี้ เลือกเหยื่อไว้ก่อน โดยเล็งมาจากเพจ และวางแผน เป็นเวลาหลายเดือน เมื่อเผด็จศึก จึงสามารถแฮกต่อกันไปได้ในเวลารวดเร็ว แค่ข้ามคืน ซึ่งคนที่ถูกแฮกต่อ ๆไป จากตน ที่ไม่ได้แสดงตัว ไม่รู้มีอีกเท่าไหร่ ถึงตอนนี้ 19 ตุลาคม 2562 ตนก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากเฟสบุ๊ค และยังกลับเข้าบัญชีเฟสบุ๊ค และเพจของตนไม่ได้
ตนจึงอยากเตือนภัย ให้ผู้ใช้เฟสบุ๊ค โดยเฉพาะคนที่ยิงแอดโฆษณาผ่านเพจ ระวัง – ป้องกันให้ดี อย่าคิดว่าคนถูกใจ – ติดตามเพจ ยังไม่ได้มาก แล้วจะปลอดภัย ข้อสังเกตคือคนร้ายแก๊งนี้ จะเลือกเพจที่คนติดตามน้อยที่สุด ที่เรามี ขอแค่ยิงแอดโฆษณาได้ เพื่อจะแฮกเพจเรา ให้ได้ก่อนที่เราจะทันรู้ตัว และโดยเจตนาหลัก คนร้ายแก๊งนี้ น่าจะไม่ได้ต้องการหลอกผู้ติดตามของเราโดยตรง แต่ต้องการแฮกเพจไปหลอกคนเวียดนาม ให้โอนเงินซื้อเสื้อผ้า แล้วทิ้งเพจไว้ มากกว่า
สุดท้าย ตนอยากวอนขอต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ท้องที่ ลำผักชี และ บก.ปอท. ให้ช่วยแสดงความ
กระตือรือร้น มากขึ้น ในการรับเบาะแส หลักฐาน และ พยายามตามจับคนร้าย เหมือนนโยบาย และวัตถุประสงค์ ของตำรวจที่ตั้งขึ้นมา อย่าเป็นเหมือนหุ่นไล่กา ที่ตั้งไว้ให้เปลืองพื้นที่ไร่นาเล่นๆ ขนาดนกกา บินมาเกาะหัว ก็ยังไม่ยอมขยับตัวไปจับเลย ตนเชื่อว่า สุนัขที่วิ่งไล่นก แม้ไม่เห็นมันจะจับนกได้ แต่อย่างน้อยมันก็ยังพยายาม และคงไม่มีใครไปว่าอะไร ซึ่งมันมีคุณค่ามากกว่าหุ่นไล่กาผุๆพังๆ เป็นไหนๆ ตนเชื่อในศักยภาพของตำรวจ และเชื่อว่าตำรวจที่ไม่ทำงานแบบแก้ตัวไปวันๆ ยังมีเยอะ โปรดอย่าทิ้งให้ประชาชนผู้เดือดร้อน เสียหาย ที่ยังหวังพึ่งพิงพลังของตำรวจ มากมาย ต้องรู้สึกผิดหวัง ตนเชื่อจริงๆ ว่า ตำรวจไทยเก่งได้มาก กว่าที่ตัวเองคิด และ น่าจะมีปัญญา ที่จะจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ถ้าตั้งใจที่จะทำจริง. ปอร์ กสิ กล่าว