จัดการปัญหาผิวตามช่วงวัยให้อยู่หมัด
ปัญหาความหย่อนคล้อย ริ้วรอยบนใบหน้า เป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออายุเริ่มขยับตัวเลขเพิ่มมากขึ้น ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบนใบหน้าก็จะยิ่งแสดงให้เราเห็นชัดเจน ซึ่งผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ก็อาจจะไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านั้นได้ และทำให้ใครหลายๆ คนหมดความมั่นใจ
นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ได้แนะนำวิธีการจัดการกับปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยในแต่ละช่วงวัยให้เหมาะสมว่า
“โดยทั่วไปปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยมักจะปรากฏให้เห็นบริเวณ 4 ส่วนสำคัญบนใบหน้าได้แก่ บริเวณรอบดวงตา (ใบหน้าส่วนบน), หน้าผาก, ใบหน้าส่วนกลางและล่าง และส่วนลำคอ ซึ่งในแต่ละบุคคลก็จะมีปัญหาแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับช่วงอายุ, การเผชิญสภาพมลภาวะ, การใช้ชีวิตประจำวัน, การดูแลบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ ฯลฯ สำหรับการแก้ไขปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยในแต่ละช่วงวัย ก็จะมีความแตกต่างกัน โดยวิธีการดูแลและแก้ไขปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อยในแต่ละช่วงวัยนั้น จะเริ่มตั้งแต่การบำรุงผิวเบื้องต้นไปจนถึงการศัลยกรรมดึงหน้า ซึ่งในทางการแพทย์ การศัลยกรรมดึงหน้า ถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดและให้ผลลัพธ์ที่มีความคงทนยาวนานกว่าวิธีการอื่นๆ”
เช่น หากอยู่ในช่วงวัย 20 ปี โดยทั่วไปยังไม่มีปัญหาหนังตาตก, ไม่มีถุงใต้ตา, ไม่มีรอยย่นใต้ตา, ไม่มีรอยตีนกา แม้จะยิ้มอย่างเต็มที่ ไม่มีริ้วรอยของร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้มไม่หย่อนคล้อย ไม่มีเหนียง บริเวณคาง แม้ยิ้มเต็มที่ ไม่มีริ้วรอยที่คอ แนะนำให้บำรุงผิวที่มีความเหมาะสมกับสภาพผิว
แต่หากเข้าสู่ช่วงวัย 30 ปีขึ้นไป บริเวณด้านข้างมีหนังตาตกเล็กน้อย แต่หัวตายังปกติ เริ่มมีถุงใต้ตา รอยย่นใต้ตาและรอยตีนกาเมื่อยิ้มอย่างเต็มที่ เริ่มมีริ้วรอยบริเวณหน้าผาก เมื่อยักคิ้วหรือขมวดคิ้วอย่างเต็มที่ เริ่มมีร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้มมีความหย่อนคล้อย เมื่อยิ้มอย่างเต็มที่ คอเริ่มหย่อน แต่ไม่มีริ้วรอย ซึ่งการแก้ไขปัญหาสำหรับคนในช่วงวัยนี้ อาจจะต้องใช้วิธีอื่นช่วย เช่น โบท็อกซ์, ฟิลเลอร์, เลเซอร์ เป็นต้น
ส่วนผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป เริ่มหนังตาตกปานกลางทั้งด้านข้างและบริเวณหัวตา มีถุงใต้ตารอยย่นใต้ตาและรอยตีนกา ซึ่งมองเห็นชัดเมื่อยิ้มเพียงเล็กน้อย เริ่มมีริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หรือเมื่อยักคิ้ว ขมวดคิ้วเห็นริ้วรอยชัดเจนเพียงเล็กน้อย เริ่มมีร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้มมีความหย่อนคล้อยเมื่อยิ้มเพียงเล็กน้อย คอมีริ้วรอย แต่ยังไม่มีเหนียงบริเวณคอ ช่วงวัยนี้เริ่มสามารถทำศัลยกรรมดึงหน้าได้
ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปก็เช่นเดียวกัน คนในวัยนี้เป็นผู้ที่มีภาวะหนังตาตกมากทั้งด้านข้างและหัวตาจนปิดบังการมองเห็น มีถุงใต้ตา รอยย่นใต้ตา รอยตีนกาเห็นได้ชัดเจนในท่าปกติ แม้ไม่ได้ยิ้ม มีริ้วรอยบริเวณหน้าผากมาก สามารถเห็นได้ชัดในท่าปกติ แม้ไม่ยักคิ้ว หรือขมวดคิ้ว มีริ้วรอยของร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องลึก แก้มมีความหย่อนคล้อยมาก ริ้วรอยบริเวณคอเห็นชัด มีร่องและเหนียงบริเวณคอ การใช้ครีมบำรุง และการใช้วิธีอื่นๆ อาจไม่ได้ผล หรือไม่คงทนถาวร ดังนั้น การศัลยกรรมในช่วงวัยนี้มีความเหมาะสมมาก เพราะได้ผลลัพธ์ดี และมีความเปลี่ยนแปลงชัดเจน
แต่อย่างไรก็ตาม การศัลยกรรมดึงหน้าในปัจจุบันมีวิวัฒนาการก้าวล้ำเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น ในคนที่มีความกังวลใจเรื่องปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยมาก สามารถเลือกแก้ไขปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยเฉพาะส่วนได้ตามปัญหาของแต่ละบุคคล
“ปัจจุบันการศัลยกรรมดึงหน้า สามารถทำแบบแยกส่วน หรือเฉพาะส่วนที่เป็นปัญหาจริงๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องทำทุกส่วน เมื่อการผ่าตัดสามารถทำแบบแยกส่วนได้ จึงไม่จำเป็นต้องทำเยอะ เพราะยิ่งทำน้อย ยิ่งปลอดภัย และในการผ่าตัดใช้การฉีดยาชาแทนการดมยาสลบ ซึ่งจะมีความปลอดภัยกว่า ทำให้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยลง รวมทั้ง ยังสามารถดึงหน้าในชั้นลึกได้ พร้อมปรับความตึงในการเย็บกล้ามเนื้อ ตามความหย่อนคล้อยของแต่ละคนได้ ดังนั้น ผลลัพธ์อยู่ได้คงทนกว่าวิธีการอื่นๆ และดูเป็นธรรมชาติ” นพ.ธนัญชัย กล่าว