จัดการกับอาชญากรรมในร้านค้าปลีกอย่างชาญฉลาด

0
503
image_pdfimage_printPrint

Picture5

จัดการกับอาชญากรรมในร้านค้าปลีกอย่างชาญฉลาด

โดย: ธงชัย วัฒนโสภณวงศ์
ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน
บริษัท แอ็กซิส คอมมูนิเคชั่นส์

จากการสำรวจความเสียหายที่เกิดจากการโจรกรรมในร้านค้าปลีกยังคงมีมูลค่าสูงทั่วโลก ด้วยวิธีการโจรกรรมหลากหลายรูปแบบ กล้องตรวจการณ์-เฝ้าระวังบนระบบเครือข่ายไอพี (IP surveillance) จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการจัดการกับหัวขโมยเหล่านี้ได้อย่างชาญฉลาด การลงทุนในการติดตั้งกล้องตรวจการณ์-เฝ้าระวัง คือการลงทุนระยะยาว ที่ให้ผลตอบแทนทั้งด้านการรักษาความปลอดภัย ลดค่าใช้จ่าย ลดการสูญเสีย และยังเป็นเครื่องมือเพิ่มยอดขาย เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการร้านค้าปลีกอีกด้วย

ร้านค้าปลีกต่างๆ จำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความสูญหายให้มากที่สุด ที่ผ่านมาหนึ่งในแนวทางที่จะช่วยลดการสูญเสียคือการติดตั้งกล้อง CCTV ถึงแม้ว่า CCTV ช่วยลดอาชญากรรมได้ในระดับหนึ่ง แต่กล้องดิจิทัลที่ทำงานบนระบบเครือข่ายไอพีเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับผู้ค้าปลีก

ข้อมูลจาก The Global Retail Theft Barometer 2013-2014(1) ระบุว่าต้นทุนจากสินค้าที่สูญหาย (shrinkage costs) ของร้านค้าปลีกทั่วโลกมีมูลค่าถึง 128.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 1.29% ของยอดค้าปลีกทั่วโลก สาเหตุหลักเกิดจากการโจรกรรมหรือการขโมยของในร้านค้าโดยบุคคลภายนอก 38% เกิดจากการที่พนักงานในร้านลักขโมยเสียเอง 28% เกิดจากการบริหารงานที่บกพร่องด้วยสาเหตุที่ไม่ใช่อาชญากรรม 21% และเกิดจากการทุจริตของผู้จัดจำหน่าย 13% ทั้งนี้สินค้าที่ถูกขโมยมากที่สุดคือผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้า เครื่องประดับแฟชั่นต่างๆ อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์มือถือ ไวน์และสุรา ผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่าในปี 2553-2554 ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใช้จ่ายเงินเพื่อป้องกันการสูญเสียด้านการค้าปลีกคิดเป็น 35% ของรายจ่ายด้านนี้ทั่วโลกหรือคิดเป็นเงิน 28.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

(1) The Global Retail Theft Barometer 2013-2014: http://www.globalretailtheftbarometer.com/

ผู้ค้าปลีกมีทางเลือกมากมายที่จะใช้สกัดกั้นปัญหานี้ เช่น การกลั่นกรองพนักงานและการให้การอบรมพนักงาน การปกป้องสินค้าในร้านที่เพิ่มจำนวนขึ้นด้วยการใช้ป้ายอิเล็กทรอนิกส์ (electronic tag) และทำการตรวจสอบด้านซัพพลายเชน อย่างไรก็ตามวิธีที่ดีที่สุดคือการลงทุนระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

การลงทุนระบบรักษาความปลอดภัยต้องทำอย่างฉลาดรอบคอบ ร้านค้าต่างๆ ส่วนมากติดตั้งกล้องวงจรปิดมาเป็นเวลานานแล้วเพื่อใช้ขู่ขโมยหรือเก็บหลักฐานเพื่อใช้หลังจากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นแล้ว ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีด้านต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนามากขึ้น การก้าวเข้าสู่ยุคของเทคโนโลยีดิจิทัลได้สร้างทางเลือกที่หลากหลายให้ผู้ประกอบการเช่นกัน

กล้องประเภทต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายไอทีในปัจจุบัน นอกจากการให้รายละเอียดภาพในระบบดิจิทัลแล้วยังช่วยให้ผู้จัดการร้านค้าปลีกต่างๆ สามารถเข้าถึงและใช้งานวิดีโอที่ติดตั้งอยู่ที่ร้านของพวกเขา สามารถดูวิดีโอได้แบบสดๆ ณ เวลานั้น และเรียกดูวิดีโอเก่าที่ได้บันทึกเอาไว้จากที่ไหนก็ได้ เช่น ใช้งานผ่านอุปกรณ์ส่วนตัวที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเครือข่าย 3G หรือ 4G ทั้งยังสามารถควบคุมกล้องได้จากระยะไกล และหากกล้องเหล่านั้นมีฟีเจอร์เกี่ยวกับเสียงก็สามารถใช้เป็นอุปกรณ์สื่อสารสองทางได้อีกด้วย

เทคโนโลยีที่เป็นดิจิทัลได้ก้าวเข้ามามีบทบาทมากในปัจจุบัน กล้องที่มีความละเอียดหลายล้านพิกเซลและความละเอียดระดับ HD สามารถให้ภาพที่มีความคมชัดมากกว่าภาพที่ได้จากกล้องอนาล็อกถึง 5 เท่า กล้องที่มีฟังก์ชั่นหมุนส่าย/ก้มเงย/ซูม ช่วยให้ผู้ชมสามารถหมุนส่ายกล้องไปได้รอบๆ ถึง 360 องศาเพื่อดูภาพในสถานที่หนึ่งๆ และสามารถซูมเข้ามาใกล้ๆ เพื่อให้เห็นรายละเอียดมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อจะนำไปใช้ในการสืบสวนและใช้เป็นหลักฐานการโจรกรรมซึ่งจำเป็นต้องใช้ภาพที่มีคุณภาพสูงเหล่านี้

นอกจากนี้เรายังสามารถผสานการทำงานของระบบวิดีโอตรวจการณ์ที่ทำงานบนระบบไอพีเข้ากับระบบขายสินค้าหน้าร้าน (POS – point of sale) ของร้านค้า ดังนั้นการทำธุรกรรมต่างๆ ที่เคาน์เตอร์หรือลิ้นชักเก็บเงิน จะได้รับการบันทึกไว้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าผู้ประกอบการและพนักงาน รายละเอียดของภาพถูกเก็บแยกจากวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้ เช่นกล้องสามารถจับภาพมูลค่าของธนบัตรที่ลูกค้าส่งให้พนักงานเก็บเงินและเห็นประเภทสินค้าที่พนักงานส่งกลับไปให้ลูกค้าอีกด้วย

กล้องระบบเครือข่ายไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานที่หนึ่งๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบเท่านั้น ผู้ค้าปลีกยังจะได้รับประโยชน์จากแอพพลิเคชั่นที่ชาญฉลาดที่มากับกล้องเครือข่ายระบบไอพี ซึ่งอาจติดตั้งสำหรับใช้งานบนตัวกล้องหรืออาจอยู่ในรูปแบบของซอฟต์แวร์ที่ทำงานอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ได้อีกด้วย นอกจากนี้กล้องระบบไอพียังสามารถแจ้งเตือนไปยังเจ้าของร้านเมื่อมีการเคลื่อนไหวที่แปลกปลอมในพื้นที่ที่ไม่อนุญาตให้ผ่านเข้ามาได้ด้วยฟังก์ชั่นการตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบอัจฉริยะได้อีกด้วย

นอกจากนี้กล้องยังไม่ได้ใช้สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเดียวเท่านั้น แต่ภาพวิดีโอเดียวกันนี้ยังสามารถบอกฝ่ายบริหารจัดการได้ถึงความเป็นไปในร้าน ข้อมูลจากกล้องช่วยให้ผู้จัดการฝ่ายต่างๆ มองเห็นภาพกิจกรรมและความเคลื่อนไหวในร้านได้ทั้งหมด เครื่องเก็บเงินอาจช่วยบันทึกยอดขายแต่คุณสมบัติของกล้องทุกวันนี้สามารถบันทึกจำนวนคนที่เข้ามาในร้านได้ ช่วยให้ผู้ดูแลสต๊อกสินค้าสามารถเห็นได้คร่าวๆ ทันทีว่าจำนวนสินค้าบนชั้นโชว์สินค้าเหลืออยู่มากน้อยเท่าไรและยังมีสินค้าอยู่ในที่เก็บสินค้าอีกเท่าไร กล้องที่ชาญฉลาดยังสามารถส่งข้อความไปยังพนักงานอย่างฉับไวเพื่อให้รีบเติมของบนชั้นโชว์สินค้าให้เต็มได้อีกด้วย

มีกล้องหลากหลายรุ่นที่เหมาะเป็นพิเศษกับร้านค้าปลีก เช่นกล้อง AXIS M50 Series ซึ่งเป็นกล้องหมุนส่ายและซูมแบบโดมขนาดเล็กและเป็นกล้องตัวหนึ่งในท้องตลาดที่คุ้มราคาเมื่อเทียบกับขนาดและฟีเจอร์ต่างๆ ของกล้อง รูปทรงมีขนาดเล็กจิ๋วจึงสามารถซ่อนตัวอยู่อย่างมิดชิดในร้านไม่ว่าจะเป็นเหนือเครื่องบันทึกเงินสด ช่องทางเดินระหว่างชั้นสินค้าหรือทางเข้า กล้องตัวเล็กๆ นี้ให้ภาพคุณภาพระดับ HDTV และมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นวิดีโอต่างๆ ที่ชาญฉลาด เช่นการตรวจจับความเคลื่อนไหว การแสดงภาพของพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุด และตรวจสอบการข้ามแนวหวงห้ามที่กำหนดไว้พร้อมๆ กับส่งการแจ้งเตือนเมื่อมีคนเข้ามาในพื้นที่หวงห้ามนั้น

ประโยชน์ของกล้องดิจิทัลที่ทำงานบนระบบไอพี นอกจากใช้ป้องกันการสูญเสียในทุกขั้นตอนตลอดกระบวนการซัพพลายเชน การทำธุรกรรมที่เครื่องเก็บเงินจนกระทั่งลูกค้าออกจากร้านไปแล้ว กล้องเหล่านี้ยังเป็นตัวช่วยที่ชาญฉลาดให้กับการทำธุรกิจและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายได้อีกด้วย

กล้องตรวจการณ์-เฝ้าระวังระบบดิจิทัลที่ทำงานบนระบบไอพีจึงเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพที่ผู้ค้าปลีกจะใช้ต่อสู้กับความสูญเสียในอุตสาหกรรมค้าปลีกได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

———- ———– ———- ———- ———-

เกี่ยวกับ แอ็กซิส คอมมูนิเคชั่นส์
แอ็กซิส นำเสนอโซลูชั่นด้านระบบรักษาความปลอดภัยที่ช่วยให้โลกปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในฐานะผู้นำตลาดระดับโลกด้านระบบรักษาความปลอดภัยแบบวิดีโอระบบเครือข่าย แอ็กซิสขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยการคิดค้นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเครือข่ายภายใต้การทำงานแบบโอเพ่นแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าผ่านเครือข่ายพันธมิตรจากทั่วโลกได้อย่างมาก แอ็กซิสสานความสัมพันธ์กับพันธมิตรอย่างยาวนาน และส่งต่อความรู้ความเข้าใจแก่พันธมิตร รวมถึงการคิดค้นผลิตภัณฑ์เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพอย่างไม่มีใครเหมือนให้กับพันธมิตรทั้งตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบันและในตลาดใหม่

แอ็กซิสมีพนักงานมากกว่า 1,900 คน ใน 40 สาขาทั่วโลก และประสานงานร่วมกับกับคู่ค้า 75,000 รายใน 179 ประเทศ แอ็กซิสเป็นบริษัทสัญชาติสวีเดน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2527 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ในสต็อกโฮล์ม โดยใช้ตัวย่อ AXIS ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอ็กซิส เชิญเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.axis.com