“จังซีลอน” พร้อมเปิดให้บริการ 17 พ.ค. นี้

0
306
image_pdfimage_printPrint

“จังซีลอน” พร้อมเปิดให้บริการ 17 พ.ค. นี้
ยกระดับคุมเข้ม 7 มาตรการหลัก “Shop safely with Jungceylon”
สร้างมาตรฐานใหม่ ช้อปปิ้งอย่างปลอดภัยขั้นสูงสุด

นายประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต เผยว่า จากผลกระทบวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ส่งผลทำให้ทางศูนย์การค้าฯ ต้องปิดให้บริการร้านค้าที่ไม่ได้รับการอนุญาตให้เปิดชั่วคราวตามคำสั่งของภาครัฐ ซึ่งในขณะนี้สถานกาณ์ดังกล่าว ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดภูเก็ตเอง ต่างมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ศูนย์การค้าจังซีลอนมิได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ได้เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังติดตาม และรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยได้จัดทำ Big Cleaning และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้รับมาตรฐานสุขอนามัยทั่วทั้งศูนย์การค้า พร้อมทั้งได้เตรียมแผนรับมือเสริมความปลอดภัยขั้นสูงสุดในทุกด้าน เพื่อให้พร้อมกลับมาเปิดให้บริการได้อย่างทันทีเมื่อได้รับการปลดล็อคจากทางภาครัฐ โดยได้ยกระดับคุมเข้มมาตรการใหม่ ภายใต้แนวคิด “Shop Safely with Jungceylon” ร่วมมือ ร่วมใจ สร้างมาตรฐานใหม่ ของการช้อปปิ้งอย่างปลอดภัยด้วย 7 มาตรการหลัก ได้แก่

1) มาตรการ “No Mask-No Entry” พนักงานและลูกค้าทุกคนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ และเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าฯ
2) มาตรการ “Health Screening” การตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานและลูกค้าทุกคน ก่อนการปฏิบัติหน้าที่และการเข้าใช้บริการภายในศูนย์การค้าฯ พร้อมติดสัญลักษณ์แสดงผ่านการคัดกรอง และหากพนักงานหรือลูกค้าท่านใดมีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ทางศูนย์การค้าฯ จะไม่อนุญาตให้ปฏิบัติงาน หรือเข้าใช้บริการภายในศูนย์การค้าฯ โดยเด็ดขาด
3) มาตรการ “Self-Sanitizer” การจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ให้บริการลูกค้าทุกทางเข้าศูนย์การค้าฯ และภายในศูนย์การค้าอย่างทั่วถึง นอกจากนั้น ร้านค้าทุกร้านจะต้องจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ให้บริการลูกค้าทุกร้านเช่นกัน และพนักงานทุกคนจะต้องล้างมือให้สะอาดด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนการให้บริการ และสำหรับพนักงานที่ต้องให้บริการใกล้ชิดลูกค้าจะต้องสวมใส่หน้ากาก Face Shield และถุงมือขณะให้บริการทุกครั้ง
4) มาตรการ “Extra Cleaning” จัดทำ Big Cleaning และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทั้งภายใน และภายนอกศูนย์การค้าฯ ทุกเดือน, ทำความสะอาดสถานที่ จุดสัมผัส และอุปกรณ์ต่างๆ ในศูนย์การค้าฯด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 30 นาที, ทำความสะอาดบัตรจอดรถและบัตรศูนย์อาหารด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกใบก่อนใช้งานทุกครั้ง, ทำความสะอาดภายในห้องน้ำและสุขภัณฑ์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกชั่วโมง, จัดเตรียมน้ำยาล้างมือ และกระดาษชำระให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ และพนักงานทำความสะอาดทุกคน จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย สวมใส่ถุงมือยาง และจัดเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดและอุปกรณ์ป้องกันตัวเองให้พร้อมระหว่างการปฏิบัติงานทุกครั้ง
5) มาตรการ “Social Distancing” กำหนดการเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร ของทุกจุดเสี่ยงภายในศูนย์การค้าฯ ด้วยการทำสัญลักษณ์ หรือตีตารางกำหนดระยะห่าง อาทิ บริเวณทางเข้าศูนย์การค้าฯ, การใช้บันไดเลื่อน, บริเวณในลิฟท์, การเข้าใช้ห้องน้ำ, จุดรอใช้บริการหรือซื้อสินค้า และจุดชำระเงิน เป็นต้น พร้อมทั้งจัดช่องทางเข้าและออกศูนย์การค้าฯ คนละประตู เพื่อลดการแออัด และสำหรับร้านอาหาร จัดที่นั่งเว้นระยะห่างสำหรับพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่พักรอให้มีระยะห่างไม่ต่ำว่า 1.5 เมตร เช่นกัน
6) มาตรการ “Communications” การให้ความรู้และคำแนะนำ สำหรับมาตรการด้านสุขอนามัย และการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่ พนักงาน, พนักงานร้านค้าและลูกค้า ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ภายในศูนย์การค้าฯ และระบบออนไลน์ พร้อมทั้งจัดทำสัญลักษณ์สำหรับจุดให้บริการ เพื่อเน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น สัญลักษณ์เว้นระยะห่าง เป็นต้น
7) มาตรการด้านสุขอนามัยของพนักงาน จัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวเองให้แก่พนักงานทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเพียงพอ เช่น หน้ากากอนามัย, เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ, หน้ากาก Face Shield และถุงมือยาง เป็นต้น การจัดสถานที่ทำงาน ให้เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร ให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก, การจัดสถานที่นั่งรอของผู้มาติดต่อ ให้เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร, จัดให้มีการตรวจสุขภาพพนักงานประจำปี พร้อมจัดทำบันทึกประวัติการเดินทางของพนักงาน หากมีอาการไข้ ไอจาม มีน้ำมูก ขอให้พนักงานหยุดการปฏิบัติงานทันที และให้รีบไปพบแพทย์ ขอให้พนักงานหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง หรือพื้นที่เสี่ยง หากมีความจำเป็นต้องเดินทาง จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้บริหารก่อน และหากสมาชิกในครอบครัวมีการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง หรือพื้นที่เสี่ยง ขอให้รายงานให้ผู้บริหารรับทราบ เพื่อเฝ้าระวัง

นอกจากนั้นแล้ว ศูนย์การค้าฯ ยังได้ปรับแผนงานการตลาด ให้สอดคล้องกับนโยบายและปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรการของภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะงดการจัดกิจกรรมทุกประเภทที่เป็นการรวมกลุ่มของคนหมู่มาก พร้อมทั้งปรับเวลาเปิด-ปิดการให้บริการของศูนย์การค้าฯ เป็นเวลา 11.00 – 20.00 น. และยังคงปิดให้บริการในส่วนของบางพื้นที่ ตามที่ภาครัฐกำหนด จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานร้านค้าและลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ โดยเชื่อมั่นว่าด้วยมาตรการที่รัดกุม และการเตรียมความพร้อมในทุกด้านอย่างเต็มกำลังนี้ จะสามารถเอาชนะจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน นายประวิช กล่าว