1

ค่าย “คลาสสิก โกลด์ฯ” มองเทรนด์ทองคำปีหน้าขาขึ้น-พีคสุด ไตรมาส 4 แนะนำนักลงทุนทยอยสะสม และแบ่งขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง

ผู้นำโบรกทอง ค่ายคลาสสิกโกลด์ มองเทรนด์ลงทุนทองคำปี 2556 แนวโน้มขาขึ้น หลังมีการพักตัวและปรับฐาน โดยมีการพักฐานในระยะสั้นๆ เป็นช่วงๆ โดยอาจจะมีการแกว่งตัวผันผวนในกรอบเคลื่อนไหวขึ้นลงราว 150 – 200 เหรียญส่วนเป้าหมายระยะยาว น่าจะมีโอกาสทดสอบจุดสูงสุดเดิม 1,920 เหรียญต่อออนซ์และเมื่อผ่านจุดดังกล่าวแล้ว ราคาน่าจะขึ้นไปเคลื่อนไหวบริเวณกรอบคู่ขนาน  คู่บน คาดราคาเป้าหมายถัดไปน่าจะแตะ 2,000 เหรียญต่อออนซ์และแนวโน้มจุดสูงสุดของปี 2556 ในราวไตรมาสที่ 4

นางสาวณัฐฑีจุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2555 ที่ผ่านมาราคาทองคำมีการปรับฐานลดลง หลังจากที่ราคาทองคำขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปีนี้ราคาทองคำค่อนข้างผันผวนและประเมินทิศทางได้ยาก กรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ระหว่าง 1,526-1,795 เหรียญ/ออนซ์ โดยมีการลดความร้อนแรงของการเก็งกำไรลงไป หลังจากนั้นได้กลับมาเป็นขาขึ้นในช่วงเดือนก.ย. และทำจุดสูงสุดของปีที่บริเวณ 1,795 ในช่วงต้นเดือนต.ค.ก็เกิดการย่อตัวอีกครั้งตลอดเดือนต.ค. และมีแนวโน้มเป็น Side way up ในเดือน พ.ย. – ธ.ค. ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาได้ หลังประธานาธิบดีโอบาม่าชนะการเลือกตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาส่งปัจจัยหนุนให้เบอร์นันเก้และเฟดใช้ QE ได้ต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยจากกรีซเองก็ได้รับมาตรการช่วยเหลือทางด้านหนี้สินที่กำลังเจรจายืดเยื้อระหว่าง EU และ IMF และก็มีปัจจัยจากเทศกาล Diwali ของอินเดียเข้ามาหนุนนำด้วย โดยแนวโน้มราคาทองคำในเดือนธันวาคม ราคาสร้างฐานเหนือ 1700/1690 เหรียญต่อออนซ์   ซึ่งแสดงว่าการพักฐานระยะสั้นนี้จบแล้ว และรอการปรับขึ้นไปทดสอบ 1760/1,780/1800 เหรียญต่อออนซ์ อีกครั้ง

“ ประเมินว่ากรอบในเดือนธันวาคม ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,700 – 1,780 / 1,800 เหรียญต่อออนซ์ แต่ถ้าหลุด 1700/1690 เหรียญต่อออนซ์ไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 1680/1670/1650 เหรียญต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณ 1650 ดังกล่าว เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง และถ้ามีการปรับตัวลงมาแนวรับที่ลึกลงมาบริเวณ 1,650 – 1,630 เหรียญต่อออนซ์ จะทำให้กรอบบนของการขึ้นมีแนวต้านที่บริเวณเส้น MA 9 สัปดาห์ บริเวณ 1,735 – 1,740 เหรียญต่อออนซ์เท่านั้น ในกรณีนี้ คาดว่า กรอบความเคลื่อนไหวในเดือน ธ.ค. อยู่ระหว่าง 1,650 – 1,740/1,760 เหรียญต่อออนซ์”

สำหรับทิศทางราคาทองคำในปี 2556 คลาสสิก โกลด์ฯ คาดว่าการพักตัวปรับฐานที่เกิดขึ้นจะจบลงและกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น แต่ในแนวโน้มขาขึ้น ย่อมจะมีการพักฐานในระยะสั้นๆเป็นช่วงๆ เมื่อขึ้นชนแนวต้านแล้วไม่ผ่าน ดังนั้น การแกว่งตัวผันผวนในกรอบเคลื่อนไหวขึ้นลง 150 – 200 เหรียญจึงมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้  และคาดว่าแนวโน้มในระยะยาวยังอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิม 1,920เมื่อผ่านจุดสูงสุดเดิม 1,920 ได้แล้ว และราคาขึ้นไปเคลื่อนไหวบริเวณกรอบคู่ขนานคู่บน ราคาเป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 2,000 USD ต่อออนซ์ คาดว่าจุดสูงสุดของปี 2556 จะอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 4

โดยปัจจัยที่ต้องติดตามในปีหน้าทางโซนเอเชียต้องรอดูสภาวะเศรษฐกิจของจีนและอินเดียว่าจะขยายตัวได้ดีหรือไม่ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อความต้องการทองคำ ส่วนทางสหรัฐฯ จับตาดูปัญหา Fiscal cliff จะจบได้เร็วไม่เกินเดือน ม.ค. หรือไม่ และการเลือกใช้วิธีแก้ปัญหานี้จะมีผลอย่างไรบ้างต่อเศรษฐกิจรวมไปถึงเรื่องปัญหาเพดานหนี้สาธารณะจะกลับมาสร้างความยุ่งยากให้กับการออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศเช่นเดียวกับเมื่อคราวก่อนหรือไม่ และนโยบายกระตุ้นและการแสวงหาความร่วมมือกับนานาชาติเพื่อดึงอุปสงค์ต่างชาติที่จะมาช่วยพยุงเศรษฐกิจในประเทศด้วย ทางด้านฟากฝั่งของยุโรปเองก็มีเรื่องต้องติดตามค่อนข้างเยอะเช่นกัน ทั้งการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในอิตาลีและเยอรมัน ปัญหาเรื่องวิกฤติหนี้สินในยุโรปทั้งทางด้านสเปนและกรีซว่าต้องเข้ารับความช่วยเหลือทางการเงินหรือไม่ อังกฤษก็ยังอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก ต้องคอยจับตาดูว่ารัฐบาลและแบงค์ชาติจะสามารถใช้มาตรการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด

“การลงทุนทองคำในช่วงเวลาที่ราคาทองคำมีความผันผวนนี้ นักลงทุนควรตั้งเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน ว่าเราเป็นนักลงทุนระยะสั้น กลาง หรือยาว หากเป็นนักลงทุนระยะยาว ในช่วงที่ราคาทองคำอ่อนตัวลงมาเช่นนี้ ให้ทยอยสะสมที่บริเวณ 1,660 – 1,720 เพื่อทำกำไรในช่วงปลายปีหน้า ซึ่งคาดว่าราคาสามารถกลับไปยืนจุดเดิมที่ 1,800/1,920 ได้ หากเป็นนักลงทุนในระยะสั้น ก็สามารถเล่น Trading ในกรอบ โดยดูแนวรับ แนวต้านในแต่ละวันเป็นสำคัญ ซึ่งราคาทองคำในแต่ละวัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น และลดลง สลับไปมาได้ แต่แนวโน้มระยะยาวคาดว่าจะกลับขึ้นมาเป็น Up Trend  อีกครั้งดังนั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยง นักลงทุนจึงควรติดตามการเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด แ/ละคอย update ว่าทิศทางระยะยาวมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ทัน กับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต”

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทคลาสสิก โกลด์ ยังเดินหน้าร่วมงานมหกรรมทางการเงินตลอดปีที่ผ่านมา ล่าสุด เตรียมจัดทัพโปรโมชั่นส่งท้ายงานใหญ่ประจำปี ในงาน Thailand Smart Money 2012 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 16 ธันวาคม 2555  ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์ ชั้น 8 งานนี้กลุ่มบริษัทคลาสสิก โกลด์ ขนโปรโมชั่นเด็ด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีภายในงานรับทันทีเสื้อยืดจากกลุ่มบริษัทคลาสสิก โกลด์ หรือหากมีการวางเงินประกันภายในงาน รับ USB รูปทองคำแท่ง รวมถึงกระเป๋าสุดคลาสสิก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสัมมนาการลงทุนทองคำโดยผู้บริหารสาว ณัฐฑีจุฑาวรากุล ที่จะมาร่วมพูดคุยถึงเคล็ดลับการลงทุน และแนวโน้มราคาทองคำในปี 2556 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร.02-618-0808 หรือwww.classicgoldfutures.co.th