คาร์กิลล์ลงทุน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายกิจการแปรรูปสัตว์ปีกในประเทศไทย

0
405
image_pdfimage_printPrint

Cargill-employees-conducting-quality-checks_1

กรุงเทพฯ – คาร์กิลล์ลงทุนกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อขยายกิจการแปรรูปสัตว์ปีกสำหรับโรงงานซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา การขยายกิจการในครั้งนี้จะช่วยสร้างงานใหม่กว่า 1,400 ตำแหน่ง โดยเพิ่มพนักงานจากเดิมที่มีอยู่แล้วกว่า 13,500 คน ใน 14 สาขาทั่วประเทศ คาร์กิลล์จะร่วมมือกับฟาร์มเลี้ยงไก่กระทงรายย่อยในชุมชนท้องถิ่นเพื่อตอบสนองความต้องการการบริโภคไก่กระทงที่เพิ่มขึ้น

การขยายกิจการครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของความต้องการของลูกค้าและความเชื่อมั่นจากลูกค้า ในด้านคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ไก่ที่ผลิตโดยคาร์กิลล์ในประเทศไทย โรงงานแห่งใหม่ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายจากโรงงานปัจจุบันได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2559 และคาดว่าจะเริ่มผลิตสินค้าได้ในไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2561

“คาร์กิลล์ดำเนินกิจการในอุตสาหกรรมสัตว์ปีกไทยกว่า 25 ปี และเติบโตอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุกชั้นนำของประเทศ ความสำเร็จนี้มาจากความพยายามอย่างไม่ลดละของเราในการพัฒนานวัตกรรมอาหาร คุณภาพ และความปลอดภัย แรงงานท้องถิ่นที่มีความสามารถและประสิทธิภาพทำงานในสภาพแวดล้อมที่เข้มงวดเรื่องความปลอดภัย รวมถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานในประเทศ สำหรับการขยายกิจการในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์ของเรา พนักงานของเรา และความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบผลิตภัณฑ์” นายฮานส์ คาบัท ประธานบริหาร กลุ่มบริษัทคาร์กิลล์โปรตีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

คาร์กิลล์ โปรตีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้ อันเป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าและความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์ไก่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในเดือนพฤษภาคม บริษัทได้ร่วมทุนกับกับบริษัทจอลลีบี ฟู้ดส์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย สร้างโรงงานแปรรูปสัตว์ปีกในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งสร้างงานใหม่กว่า 1,000 ตำแหน่ง เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัทจาพฟาผู้นำธุรกิจเกษตร-อาหาร เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุกในประเทศอินโดนีเซีย

“การลงทุนเหล่านี้เสริมให้คาร์กิลล์เป็นผู้นำด้านอาหารและอุตสาหกรรมการเกษตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเพิ่มความสามารถอันโด่ดเด่นของบริษัทเพื่อตอบสนองความต้องการอาหารที่เปลี่ยนแปลงในภูมิภาค อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตอย่างมากสำหรับคาร์กิลล์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะเดินหน้าลงทุนในธุรกิจในภูมิภาครวมไปถึงในทรัพยากรบุคคลของบริษัท” นายฮานส์ คาบัท กล่าวเพิ่มเติม