ในการประชุมชี้แจงกรอบการวิจัย ประจำปีงบประมาณ 2561 จัดโดยเครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ (คอบช.) ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) (สพภ.) และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ซึ่งในการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการรับข้อเสนอการวิจัย รวมถึงการแนะนำขั้นตอนและวิธีการสนับสนุนทุนวิจัย วิธีการเขียนข้อเสนอการวิจัยที่มีคุณภาพและถูกต้อง เป็นไปตามเงื่อนไขของ คอบช. ตลอดจนเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักวิจัยและผู้ที่สนใจ ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ หน่วยงานสนับสนุนทุนวิจัยสาขาต่างๆ โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมการประชุมประมาณ 1,500 คน ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในการบรรยายพิเศษเรื่อง “ปฏิรูประบบวิจัยและนวัตกรรม ก้าวใหม่ มั่งคั่ง ยั่งยืน” ว่า งานวิจัยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในปีนี้ที่เป็นปีแห่งการปฏิรูป “งานวิจัย” นับเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการปฏิรูปอย่างชัดเจนในทุกๆ ด้าน และนำไปสู่ทิศทางการพัฒนาประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งนี้หน่วยงานวิจัยทั้งภาครัฐและเอกชนควรปรับบทบาทให้สอดคล้องและเชื่อมโยงกันตั้งแต่กระบวนการสร้างนักวิจัย สร้างงานวิจัย และการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ให้กว้างขวางและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยองค์ความรู้ที่สร้างขึ้นนั้นควรเป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการและแก้ปัญหาของประเทศทั้งในภาคสังคม ภาคเศรษฐกิจ และภาคเทคโนโลยี ในอันที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการอยู่ดีกินดี ลดความเหลื่อมล้ำ และรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ด้วย โดยการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยต้องมุ่งไปสู่การปฏิบัติและใช้งานในภาคสังคมและภาคอุตสาหกรรมได้จริงและรวดเร็ว ผ่านการบริหารจัดการงานวิจัยแบบมุ่งเป้าของ คอบช.
ทั้งนี้ กรอบการวิจัยที่ประกาศให้เสนอขอรับทุนสนับสนุนในปีงบประมาณ 2561 นี้ มีเป้าหมายเดินหน้าปฏิรูปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์รายประเด็นเร่งด่วนของประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยแห่งชาติ และนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ ตามทิศทางการพัฒนาประเทศของรัฐบาล
ด้าน ทพ.จเร วิชาไทย ผู้จัดการงานวิจัย สวรส. กล่าวในการเสวนาเรื่อง “คอบช.พลิกโฉมงานวิจัยและนวัตกรรมมุ่งเป้า เพื่อตอบโจทย์ 4.0” และการเสวนาห้องย่อยเรื่อง “กะเทาะเปลือกความคิด พิชิตทุนมุ่งเป้า” ว่า การทำงานร่วมกันของ คอบช. ทำให้เกิดแผนยุทธศาสตร์การวิจัยของประเทศร่วมกัน ซึ่ง สวรส.เป็นเครือข่ายหนึ่งที่บริหารจัดการทุนวิจัยภายใต้แผนงานการวิจัยมุ่งเป้าเพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนาประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุข ดังนั้นเพื่อให้เกิดการบริหารจัดการและการจัดสรรทุนวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องมีกรอบการวิจัยมุ่งเป้าที่ชัดเจน โดยในปีงบประมาณ 2561 นี้ สวรส. ได้กำหนดกรอบการวิจัยเป็น 2 กลุ่มเรื่อง 1) ด้านการแพทย์และสาธารณสุข มี 2 ประเด็นย่อย คือ ประเด็นสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น เพื่อให้ได้ความรู้ด้านระบาดวิทยาสุขภาพจิตที่ทันสมัย เกิดองค์ความรู้และเทคโนโลยีในการพัฒนานโยบายและระบบบริการสุขภาพจิตแก่เด็กและวัยรุ่น และประเด็นลดการสูญเสียฟันในผู้สูงอายุไทย เพื่อให้ได้ความรู้และปฏิบัติการแนวใหม่ที่สามารถแก้ไขปัญหาการสูญเสียฟันในผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2) วัสดุอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ เพื่อการวิจัยและพัฒนาวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน มีศักยภาพที่จะผลิตใช้เองในประเทศ ตลอดจนส่งเสริมการวิจัยต่อยอดจากการพัฒนาต้นแบบสู่การวิจัยทางคลินิก (Clinical trial) ทั้งนี้กรอบประเด็นวิจัยดังกล่าว กระบวนการและเกณฑ์การพิจารณา สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ สวรส. www.hsri.or.th
ทั้งนี้ คอบช. ได้กำหนดจัดประชุมชี้แจงกรอบการวิจัย ประจำปีงบประมาณ 2561 ทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 7 มิ.ย. 2560 ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 14 มิ.ย. 2560 ภาคใต้ จ.สงขลา ในวันที่ 21 มิ.ย. 2560 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น ในวันที่ 26 มิ.ย. 2560 เพื่อให้นักวิจัยสามารถรับทราบข้อมูลข่าวสารได้อย่างทั่วถึง
การให้ทุนอุดหนุนการวิจัย ปีงบประมาณ 2561 ของ คอบช. จะเปิดรับข้อเสนอการวิจัยผ่านระบบบริหารจัดการงานวิจัยแห่งชาติ หรือ ระบบ NRMS ซึ่งนักวิจัยสามารถลงทะเบียนส่งข้อเสนอการวิจัยมาได้ที่ www.nrms.go.th โดยเลือกหัวข้อการวิจัยที่ต้องการขอรับทุน และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนตามเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้ ระบบจะเปิดรับลงทะเบียนระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. – 27 ก.ค. 2560 นี้