ในมุมมองของผู้ใช้วัคซีน ระบุ!! “วัคซีน”เป็นอาวุธที่มีอานุภาพในการต่อสู้กับโรคติดเชื้อต่างๆ ช่วยปกป้องประชาชนและลูกหลานให้ปลอดภัยจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน สามารถเติบโตและมีสุขภาพดีเป็นกำลังที่เข้มแข็งของชาติ ชี้!!การตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติฯ มีความจำเป็นและสำคัญยิ่ง เพื่อเป็นหน่วยงานกลางประสานและขับเคลื่อนพัฒนางานด้านวัคซีนของประเทศ ให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อทำให้ความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศเป็นความจริงได้ไม่ใช่เป็นเพียงความฝันอีกต่อไป
รศ. ( พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ประธานฝ่ายวิชาการสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษากรมควบคุมโรคด้านวัคซีน กล่าวในโอกาสที่ได้รับเชิญมาเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในงานประชุมวิชาการวัคซีนแห่งชาติครั้งที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ว่า ในมุมมองของผู้ใช้วัคซีนเห็นว่า “วัคซีน”เป็นอาวุธที่มีอานุภาพในการต่อสู้กับโรคติดเชื้อต่างๆ ที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ปัจจุบันจะเห็นว่าโรคติดเชื้อต่างๆกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งที่เป็นโรคเก่าที่มีเป็นประจำหรือโรคที่เกิดขึ้นใหม่ซึ่งเป็นโรคที่คาดการณ์ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคติดต่ออุบัติใหม่ เช่น ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อโคโรน่าไวรัส ( MERS-CoV ) และ อีโบลา ฯลฯ
ในอนาคตภายหน้าหากมีโรคต่างๆระบาดขึ้น เราจะไม่สามารถควบคุมได้ จะเกิดความเสียหายอย่างมากมาย ประชาชนจะเกิดการเจ็บป่วย รัฐบาลต้องเสียงบประมาณในการรักษา ต้องใช้ทั้งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์และยารักษาโรค และต้องเสียงบประมาณในการควบคุมโรค ควบคุมสถานการณ์ให้ได้ ยิ่งในกรณีที่เป็นโรคติดต่อระหว่างประเทศก็ยิ่งเสียงบประมาณมากขึ้นไปอีก อาจเกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีระบบในการเตรียมตัวรับมือกับโรคที่เกิดขึ้นใหม่ เราจึงจำเป็นต้องมีวัคซีนไว้ใช้ในการป้องกันโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนพื้นฐานที่จำเป็น วัคซีนจึงถือเป็นความมั่นคงของประเทศไทยและของทุกประเทศทั่วโลก
รศ.(พิเศษ)นพ.ทวียังได้ให้มุมมองต่อ “การสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศไทย”ด้วยว่า ภาครัฐมีส่วนสำคัญที่สุดในการเป็นกลไกขับเคลื่อนการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ เริ่มต้นจากการมีวิสัยทัศน์ที่ดี มองเห็นความสำคัญของวัคซีนว่ามีความจำเป็น ประเทศเราจะต้องพึ่งตนเองได้ด้านวัคซีน เพราะวัคซีนเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้ประชาชนและลูกหลานปลอดภัยจากการเจ็บป่วยจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน สามารถเติบโตและดำรงชีวิตอย่างมีสุขภาพดีเป็นพลเมืองที่มีสุขภาพสมบูรณ์ และมีคุณภาพของประเทศ
โดยเห็นว่าการจัดตั้งสถาบันวัคซีนแห่งชาติซึ่งมีฐานะเป็นองค์การมหาชนนั้น ถือว่ามีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อจะได้มีหน่วยงานกลางและศูนย์รวมในการขับเคลื่อนและผลักดันความร่วมมือและรวบรวมข้อมูลด้านวัคซีน การพัฒนาวัคซีนของประเทศระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน เป็นการเดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ ให้ประเทศไทยพึ่งตนเองได้ด้านวัคซีน มีวัคซีนที่มีคุณภาพปลอดภัยและได้มาตรฐานไว้ใช้อย่างเพียงพอต่อการคุ้มครองสุขภาพประชาชนทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉินด้านโรคระบาด
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี ยังบอกอีกว่า วัคซีนทุกชนิดล้วนจำเป็นและมีความสำคัญต่อสุขภาพของคนไทยทุกคน โดยมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอและมีความเป็นไปได้ที่ไทยจะผลิตวัคซีนไว้ใช้เองเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศและเพื่อการส่งออก แต่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับนโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจการผลิตวัคซีนในประเทศอย่างจริงจัง รัฐต้องทุ่มเทในการลงทุนทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนบุคลากร อีกทั้งการพัฒนาและส่งเสริมการศึกษาที่สอดคล้องต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตวัคซีน จนนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง และควรมีการศึกษาเปรียบเทียบด้วยว่าในขณะที่เรากำลังจะเดินหน้าพัฒนางานด้านวัคซีน ประเทศเพื่อนบ้าน เช่นจีนและอินเดียได้เดินหน้าเรื่องวัคซีนไปถึงไหนแล้ว หากก้าวไกลจากเราไปมากๆ ประเทศเราก็ต้องเร่งความเร็วให้สุดแรงเพื่อให้เรื่องวัคซีนก้าวหน้า ได้เท่าเทียมกับประเทศเหล่านี้ เพื่อทำให้ความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศไทย เป็นความจริงได้ไม่ใช่เป็นเพียงความฝันอีกต่อไป
“เมื่อวงล้องานด้านวัคซีนของประเทศเริ่มหมุน จะส่งผลให้วงจรของวัคซีนมีการขับเคลื่อนไปได้ เราก็จะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมาใช้ป้องกันโรค คนในประเทศก็จะเจ็บป่วยน้อยลง ประชาชนก็จะเห็นประโยชน์ชัดเจนขึ้นและมีการใช้วัคซีนมากยิ่งขึ้น ส่งผลดีทำให้ราคาของวัคซีนถูกลง ส่วนในอนาคตมุมมองเกี่ยวกับวัคซีนในฐานะของประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ยังคงคาดหวังว่าอีกไม่นานต้องมีผู้ที่สามารถพัฒนาวัคซีนที่สามารถสร้างภูมิคุ้มต้านทานและป้องกันโรคร้ายแรงต่างๆได้เป็นผลสำเร็จ อย่างเช่นวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เป็นต้น รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวในตอนท้าย