ครึ่งปีแรกของปี 58 เบี้ยประกันชีวิตรับรวมกว่า 2 แสนล้านบาท โต 2.8 %

0
278
image_pdfimage_printPrint

-สิ้นไตรมาสสอง

เบี้ยประกันชีวิตรับรวม ณ สิ้นไตรมาสสอง ปี 2558 (มกราคม-มิถุนายน) มีทั้งสิ้น 262,834 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.79 โดยแยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 82,276 ล้านบาท อัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 10.75 และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปจำนวน 180,558 ล้านบาท โดยมีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 83 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 10.43 ในขณะที่การขายผ่านตัวแทนประกันชีวิตยังคงครองอันดับ 1 ด้วยสัดส่วนร้อยละ 48.03 ของเบี้ยประกันชีวิตรับทั้งหมด รองลงมาเป็นการขายผ่านธนาคาร สัดส่วนร้อยละ 45.08
นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า สถิติเบี้ยประกันชีวิตรับ 6 เดือนของปี 2558 ตั้งแต่มกราคม-มิถุนายน 2558 ที่สมาคมประกันชีวิตไทยรวบรวมได้ในขณะนี้ มีดังนี้
1. เบี้ยประกันชีวิตรับรวม ตั้งแต่มกราคม-มิถุนายน 2558 มีทั้งสิ้น 262,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 2.79 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวมสูงสุด หรือมีขนาดใหญ่สูงสุด 7 อันดับแรก คือ
อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. มีจำนวน 55,129 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการตลาดร้อยละ 20.97
อันดับที่ 2 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต มีจำนวน 46,105 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการตลาดร้อยละ 17.54
อันดับที่ 3 บมจ.ไทยประกันชีวิต มีจำนวน 31,958 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการตลาดร้อยละ 12.16
อันดับที่ 4 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต มีจำนวน 28,930 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการตลาดร้อยละ 11.01
อันดับที่ 5 บมจ.กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต มีจำนวน 27,736 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการตลาดร้อยละ 10.55
อันดับที่ 6 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต มีจำนวน 23,416 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการตลาดร้อยละ 8.91
อันดับที่ 7 บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต มีจำนวน 13,511 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการตลาดร้อยละ 5.14
รวม 7 อันดับแรก ครองสัดส่วนการตลาดร้อยละ 86.28 และอีก 17 บริษัทที่เหลือครองสัดส่วนการตลาด ร้อยละ 13.72

2. เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ ตั้งแต่มกราคม-มิถุนายน 2558 จะพิจารณาจากจำนวนเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกรวมกับเบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว ในรอบ 6 เดือนตั้งแต่มกราคม-มิถุนายน 2558 มีทั้งสิ้น 82,276 ล้านบาท อัตราการเติบโตลดลงจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 10.75 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่สูงสุด หรือมีการขยายงานสูงสุด 7 อันดับแรก คือ
อันดับที่ 1 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 20,369 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 24.76
อันดับที่ 2 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 12,654 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 15.38
อันดับที่ 3 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำนวน 10,035 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 12.20
อันดับที่ 4 บมจ.กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำนวน 9,468 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 11.51
อันดับที่ 5 บมจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 8,257 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 10.04
อันดับที่ 6 บมจ.พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำนวน 3,855 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 4.69
อันดับที่ 7 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต จำนวน 3,679 ล้านบาท มีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 4.49
รวม 7 อันดับแรก ครองสัดส่วนการตลาดร้อยละ 78.56 และอีก 17 บริษัทที่เหลือครองสัดส่วนการตลาด ร้อยละ 21.44

นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า อัตราการเติบโตในช่วงครึ่งปีแรกเป็นอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลง แต่ถือเป็นอัตราการเติบโตที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 1/58 อย่างมีนัยสำคัญของทั้งเบี้ยประกันชีวิตรับรวมและเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่

ปัจจัยหลักที่ทำให้เบี้ยประกันชีวิตรับรวมมีอัตราการเติบโตที่ลดลง นั้นมาจากทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยปัจจัยภายนอกประกอบด้วยภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวลง การมีอัตราค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น จึงส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ขณะเดียวกันยังมีผลต่อการชะลอตัวลงของการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งส่งผลต่อการชะลอตัวของเบี้ยประกันชีวิตกลุ่มแบบจ่ายเบี้ยครั้งเดียว(MRTA) ส่วนปัจจัยภายในหลักๆ มาจากการปรับเปลี่ยนนโยบายการบริหารการขายของแต่ละบริษัทประกันชีวิต ให้มีความเหมาะสมกับสภาวะการณ์ปัจจุบัน พร้อมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงของบริษัทอีกด้วย ขณะเดียวกันในส่วนของเบี้ยประกันภัยต่ออายุ ก็มีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างคงที่ถึงชะลอตัวเล็กน้อย จากการที่มีกรมธรรม์ที่ครบกำหนดชำระแต่ยังคงมีความคุ้มครองอยู่เป็นจำนวนมาก จากปัจจัยดังกล่าว สมาคมจึงคาดว่าธุรกิจประกันชีวิตในครึ่งปีหลัง ของปี 2558 จะยังมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ในอัตราเติบโตที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งสมาคมได้ปรับลดอัตราการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตในปี 2558 จากร้อยละ 13 เมื่อต้นปี เป็นร้อยละ 7 จำนวนเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 539,000 ล้านบาท ซึ่งสมาคมได้จัดแถลงข่าวแล้วเมื่อวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2558 วันที่ 29 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม นายเลิศ ปาร์ค ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ

ในส่วนของช่องทางการจำหน่าย การขายผ่านช่องทางตัวแทนประกันชีวิต ยังคงมีเบี้ยประกันชีวิตสูงที่สุด คือ 126,244 ล้านบาท มีสัดส่วนร้อยละ 48.03 ของเบี้ยประกันชีวิตรับทั้งหมด เติบโตขึ้นร้อยละ 5.18 เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา รองลงมาเป็นการขายผ่านธนาคาร 118,517 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 45.09 เติบโตขึ้นร้อยละ 0.001 อันดับสาม การขายผ่านช่องทางอื่นๆ 10,275 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 3.91 เติบโตขึ้นร้อยละ 5.78 และการขายผ่านช่องทางโทรศัพท์ 7,799 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 2.97 เติบโตขึ้นร้อยละ 4.98

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายข้อมูลเพื่อการพัฒนาธุรกิจ สมาคมประกันชีวิตไทย โทรศัพท์ 0-2679-8080 ต่อ 532 หรือ Download ข้อมูลสถิติได้จาก http://www.tlaa.org/2012/statistics.php