ขับรถลุยน้ำท่วมอย่างไร ให้เครื่องไม่ดับ

0
364
image_pdfimage_printPrint

20160623165708000000

ช่วงนี้มีพายุเข้ากรุงเทพอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำรอการระบายเป็นจำนวนมาก เอ่อล้นทุกทั่วบริเวณกรุงเทพ เราจะทำยังไงให้อยู่น้ำรอการระบายได้อย่างมีความสุข วันนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าเราจะขับรถลุยน้ำรอการระบายอย่างไรดี !!

1. ระดับน้ำ ไม่เกิน 20 เซนติเมตร
น้ำท่วมความสูงระดับเริ่มต้น หรือไม่เกินประมาณข้อเท้า ทั้งรถเก๋งและรถกระบะ สามารถวิ่งผ่านไปได้โดยไม่มีอันตรายกับตัวรถ หากมีรถคันอื่นที่วิ่งสวนทางกันมา อาจจะทำให้เกิดคลื่นน้ำมากระทบกับใต้ท้องรถเก๋งได้เล็กน้อย

2. ระดับน้ำ 20-40 เซนติเมตร
น้ำท่วมสูงอยู่ที่ประมาณระดับหน้าแข้งถึงหัวเข่า ในกรณีนี้รถเก๋งไม่สามารถวิ่งลุยน้ำได้แล้ว เนื่องจากท่อไอเสียจะจมอยู่ในน้ำเกือบตลอดเวลา อาจทำให้น้ำเข้าไปและส่งผลให้เครื่องยนต์ดับได้ ถ้ามีความจำเป็นจริงๆที่ต้องลุยฝ่าน้ำท่วมไปในระยะทางสั้น ก็สามารถขับผ่านไปได้ แต่มีความเสี่ยงอาจมีปัญหาตามมาภายหลัง ในส่วนของรถกระบะ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ น้ำท่วมความสูงระดับ 20-40 เซนติเมตร ยังคงสามารถวิ่งผ่านไปได้อยู่

3. ระดับน้ำ 40-60 เซนติเมตร
น้ำท่วมความสูงระดับนี้จะอยู่ประมาณเหนือหัวเข่าช่วงบริเวณหน้าขา เป็นอันตรายกับรถเก๋งทุกรุ่น เนื่องจากน้ำจะท่วมเข้าท่อไอเสีย และไหลเข้าบริเวณด้านในตัวรถ แม้แต่รถกระบะก็มีความเสี่ยงที่น้ำจะท่วมเช่นเดียวกัน ในส่วนของรถกระบะยกสูงนั้น ยังคงสามารถวิ่งผ่านไปได้ตามปกติ อาจจะมีคลื่นน้ำกระทบใต้ท้องรถ แต่ก็ไม่เป็นอันตรายกับรถและเครื่องยนต์

4. ระดับน้ำ เกินกว่า 60 เซนติเมตร
ในกรณีนี้ รถทุกประเภทไม่สามารถวิ่งผ่านได้ รวมทั้งรถบรรทุกขนาดใหญ่ทั้งหลาย เนื่องจากระดับน้ำมีความสูงมากอาจทำให้ไหลเข้าท่อไอเสีย กรองอากาศ และระบบต่างๆได้ง่าย เป็นอันตรายกับตัวรถและเครื่องยนต์ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมาได้

ได้รู้วิธีขับรถในสภาวะอากาศาไม่น่าเป็นใจแบบนี้กันแล้วนะคะ เรามาหาคนดูแลรถให้เรากันดีกว่าค่ะ
ประกันรถยนต์ หรือ
ประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันรถยนต์ ออนไลน์