ก.พลังงาน ยกระดับ บริหารจัดการกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ให้เป็น One-Stop Service
ก.พลังงาน ยกระดับ บริหารจัดการกองทุนอนุรักษ์พลังงาน
ให้เป็น One-Stop Service
——————————————————–
กระทรวงพลังงาน เปิดมิติใหม่ในการบริหารจัดการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เผยมติคณะกรรมการกองทุนอนุรักษ์พลังงาน เห็นชอบจัดตั้งหน่วยบริหารกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ให้เป็น One-Stop Service ทันสมัย กระชับ ฉับไว บริหารงานอย่างเป็นมืออาชีพ
พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การบริหารจัดการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน แบบบูรณาการและมุ่งผลสัมฤทธิ์ โดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ว่า กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) บูรณาการจัดการบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้มีความทันสมัย โปร่งใส คล่องตัว และมีประสิทธิภาพ เนื่องจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานฯ เป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายพลังงานด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP 2015) และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP 2015) ดังนั้น กระทรวงพลังงานจึงได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเพิ่มสมรรถนะของเจ้าหน้าที่ในการเตรียมความพร้อมในด้านการบริหาร โดยใช้กลยุทธ์การจัดการองค์ความรู้ หรือ Knowledge Management (KM) ที่เน้นการบูรณาการให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะ และนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกองทุนอนุรักษ์พลังงาน นอกจากนี้ หากสามารถดำเนินงานได้ตามมาตรฐาน จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงาน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสร้างความตระหนักและจูงใจในเรื่องของการอนุรักษ์พลังงานของคนในชาติได้อีกทางหนึ่ง
“กองทุนอนุรักษ์พลังงาน มีหลายส่วนงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานบริหารจัดการ หน่วยขอรับการสนับสนุน หน่วยประเมินผลการทำงาน ซึ่งการบูรณาการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องให้มาเข้าใจในหลักการเดียวกัน เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ดังนั้น ผมจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก เพราะถ้าสามารถทำให้ทุกหน่วยงานหลายๆ ภาคส่วนมีแนวทางการทำงานไปในทิศทางเดียวกันได้ ก็จะทำให้การบริหารงานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้” พลเอก อนันตพร กล่าว
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การจัดอบรมเชิงบูรณาการครั้งนี้ เป็นหนึ่งในการพัฒนาบุคลากรของกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ให้มีความทันสมัย กระชับ ฉับไว และบริหารงานอย่างมืออาชีพ ตามที่ท่านรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ สนพ. ดำเนินการ ซึ่งสอดคล้องกับเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2559 คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งมี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ได้อนุมัติให้จัดตั้งหน่วยบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ให้เป็น One-Stop Service ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.การบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. 2558 ที่กำหนดให้มีโครงสร้างการบริหารทุนหมุนเวียนเป็นการเฉพาะ พร้อมทั้งได้อนุมัติเห็นชอบร่างระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ว่าด้วยการบริหารงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. …. เพื่อให้ระเบียบสอดรับสัมพันธ์กับโครงสร้างใหม่นี้ โดยภายหลังจากนี้จะนำเสนอร่างระเบียบนี้ต่อกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณา และนำเสนอร่างระเบียบต่อประธานกรรมการกองทุนฯ ลงนาม และประกาศใช้ต่อไป
ทั้งนี้ ในการดำเนินงานของหน่วยงานบริหารกองทุน ได้แบ่งการทำงานเป็น 3 กลุ่มงาน ซึ่งแต่ละกลุ่มได้มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ กลุ่มงานนโยบายและแผนกองทุนฯ ปฏิบัติงานในฐานะฝ่ายเลขานุการ คณะอนุกรรมการกองทุนฯ ดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการจัดทำ และบริหารเงินกองทุนตามประมาณการรายจ่ายประจำปี หรือประมาณการรายจ่ายเพิ่มเติม กลุ่มงานวิเคราะห์โครงการ ปฎิบัติงานในฐานะฝ่ายเลขานุการ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณกองทุนฯ จัดทำเกณฑ์ ค่าใช้จ่ายต่อหน่วย ในการพิจารณาความเหมาะสมของข้อเสนอการขอรับทุน และกลุ่มงานประเมินผลและรายงาน ปฎิบัติงานในฐานะฝ่ายเลขานุการ คณะอนุกรรมการประเมินผลกองทุนฯ ที่ทำหน้าที่พัฒนาระบบ รูปแบบ วิธีการ และเครื่องมือในการติดตามประเมินผลโครงการที่ได้รับการสนับสนุนไว้
“การบริหารจัดการกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ในปีนี้ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดี เปิดรับมิติใหม่ของการบริหารงานกองทุนฯ ที่จะเกิดอย่างเป็นรูปธรรมอันใกล้นี้ ปรับทัพจัดระเบียบโครงสร้างการบริหารกองทุนฯ ที่ชัดเจน ยกระดับของผู้ปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดความชัดเจน มีประสิทธิภาพสูงสุด” ดร.ทวารัฐ กล่าวทิ้งท้าย
……………………………………………………..