ก.ท่องเที่ยว ประกาศผลสำเร็จ “WC OK” รวมพลังเครือข่ายกว่า 5 หมื่นแห่งทั่วประเทศ

0
498
image_pdfimage_printPrint

007

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศความสำเร็จของ‘โครงการรณรงค์ห้องน้ำสาธารณะสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว’ ระยะที่ 1 เผยมีองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมเป็นภาคีเครือข่ายกว่า 5 หมื่นแห่งทั่วประเทศ เร่งติวเข้มพื้นที่ “12 เมืองต้องห้าม…พลาด” มั่นใจมาตรฐานห้องน้ำสาธารณะสะอาดช่วยเศรษฐกิจชาติได้เพราะจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน

นางกอบกาญจน์ สุริยสัตย์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานในงานแถลงสรุปผลการดำเนินงาน ‘โครงการรณรงค์ห้องน้ำสาธารณะสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว’ ระยะที่ 1 ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีผู้บริหารกระทรวงฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ รศ.ดร.ชวนี ทองโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวชลาใส ราชกิจภารวิสัย เลขานุการรัฐมนตรี และนายธีรศานต์ สหัสสพาศน์ คณะทำงานรัฐมนตรี ตลอดจนผู้แทนขององค์กรภาคีเครือข่าย ได้แก่ พระศากยปุตติยวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร นายสุเกียรติ กิตติธรรมโชติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายรัฐสัมพันธ์ บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (Tesco Lotus) นางสาวนารี เจียมวัฒนสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด โดยมีนางสาว วรรณสิริ โมรากุล รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ให้การต้อนรับ

ภายในงานยังได้มีพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่องค์กรภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการและมอบป้ายสัญลักษณ์ห้องน้ำสาธารณะสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว (“WC OK”) แก่องค์กรที่มีการพัฒนาห้องน้ำที่โดดเด่นในสาขาต่างๆ อีกด้วย

ในการแถลงสรุปผลโครงการฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า “โครงการรณรงค์ห้องน้ำสาธารณะสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว เป็นโครงการที่กรมการท่องเที่ยวได้ริเริ่มขึ้นด้วยการดำเนินงานแบบบูรณาการกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ร่วมมือกันวางกรอบ กฎเกณฑ์ มาตรฐาน และการตรวจประเมินห้องน้ำสาธารณะสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว โดยมุ่งให้เกิดประสิทธิผลทั้งในระดับชุมชนและระดับชาติ ตลอดจนจัดให้มีการประชุมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐและเอกชนเพื่อรับฟังความคิดเห็นและขอความร่วมมือ

ในการรณรงค์ รวมทั้งมีการสำรวจ จัดเก็บข้อมูลและวางแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบก่อนที่จะเปิดตัวโครงการ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2557รัฐมนตรี กอบกาญจน์ กล่าวย้ำว่า “การบูรณาการความร่วมมือจนเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยกำลังเร่งขับเคลื่อนเพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศให้เป็นไปตามเป้าที่ 2.2 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28 ล้านคน และนับเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ‘โครงการรณรงค์ห้องน้ำสาธารณะสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว’ ของกรมการท่องเที่ยวนี้สอดรับและตอบสนองเป็นอย่างดีต่อนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดูแลเรื่องความสะอาดของห้องน้ำสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยว อันจะมีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

“ความสำเร็จของโครงการเกิดขึ้นได้ก็จากความร่วมมือระหว่างกรมการท่องเที่ยวและองค์กรที่ร่วมกันดูแลและพัฒนาห้องน้ำสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวให้สะอาด สวยงาม ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และมีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการ โดยตลอดระยะเวลาของโครงการฯ คณะทำงานได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม ประเมินผลและมอบตราสัญลักษณ์ ‘WC OK’ ให้แก่ห้องน้ำที่เข้าเกณฑ์เพื่อเป็นการรับรองมาตรฐานความสะอาดและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ

“นับถึงวันนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยกรมการท่องเที่ยวได้มุ่งขับเคลื่อนโครงการฯ อย่างจริงจัง ทั้งในเรื่องของการสร้างและขยายเครือข่ายความร่วมมือ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและกระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว รวมถึงประชาชนทั่วไป เกิดความตื่นตัวในการที่จะช่วยกันพัฒนาและดูแลห้องน้ำสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวของไทยให้ได้มาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล วันนี้ เรากำลังก้าวไปอย่างแข็งแกร่งโดยมีภาคีเครือข่ายเข้าร่วม ถึง 52,975 แห่งทั่วประเทศ โดยในปัจจุบันเรามีศาสนสถานร่วมเป็นองค์กรภาคีเครือข่ายถึง 12,532 แห่ง ร้านอาหาร 12,423 แห่ง อุทยานแห่งชาติ 459 แห่ง แหล่งท่องเที่ยว 346 แห่ง ห้างสรรพสินค้า 471 แห่ง สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 1,655 แห่ง สถานีรถไฟ 443 แห่ง สถานีขนส่ง 222 แห่ง ท่าอากาศยาน 6 แห่ง ในขณะที่ อีกมากมายหลายหน่วยงานก็กำลังเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนโครงการฯ ซึ่งเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะมีองค์กรต่างๆเห็นความสำคัญของโครงการและเข้าร่วมในการพัฒนาห้องน้ำสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคต”

นอกจากการรณรงค์ประชาสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงการฯแล้ว กรมการท่องเที่ยวยังได้ประสานกับมหาวิทยาลัยพะเยาในการดำเนินการจัดการอบรมเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยวระดับสากลให้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไปทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆ ใน “12 เมืองต้องห้าม…พลาด” อันได้แก่ จังหวัดลำปาง เลย เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด นครศรีธรรมราช และตรัง รวมทั้งได้ทำการศึกษาวิจัยความต้องการด้านมาตรฐานห้องน้ำสาธารณะของนักท่องเที่ยวในพื้นที่ 8 จังหวัดดังกล่าว อันจะนำไปสู่การปรับปรุงพัฒนาห้องน้ำสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวให้อยู่ในระดับสากล และสร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยต่อไปว่า จากการขับเคลื่อนโครงการฯได้สร้างความตื่นตัวในการพัฒนาห้องน้ำสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ พร้อมทั้งก่อให้เกิดเสียงสะท้อนด้านบวกจากนักท่องเที่ยวถึงความพึงพอใจในมาตรฐานการให้บริการห้องน้ำสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวของไทย มาตรฐานที่ได้พัฒนาขึ้นมานี้ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในหมู่นักท่องเที่ยวและมีผลต่อการตัดสินใจของเขาที่จะกลับมาเที่ยวซ้ำ จึงนับเป็นความสำเร็จในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้ตรงจุดและถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ที่สำคัญยังเป็นการทำประชาสัมพันธ์ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

“สำหรับโครงการห้องน้ำสาธารณะสะอาดเพื่อการท่องเที่ยว ระยะที่ 2 กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเดินหน้าจัดกิจกรรมร่วมกับองค์กรที่เข้าร่วมเป็นเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขับเคลื่อนขยายเครือข่ายความร่วมมือให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นจนครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้องค์กรชุมชน ประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความสะอาดของห้องน้ำเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกๆคน รวมทั้งเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลห้องน้ำในที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยวให้สะอาดได้มาตรฐาน อันจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์และยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวของไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของชาติให้มั่นคงต่อไปในอนาคต” รัฐมนตรีกอบกาญจน์กล่าว

* * * * * * * * *

เผยแพร่ในนาม กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยบริษัท ซิลเลเบิล จำกัด ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเผยแพร่ข่าว กรุณาติดต่อ คุณสมคิด เจริญศักดิ์ โทร. 08 4147 7575 / โทร. 0 2254 6895-7 โทรสาร 0 2650 7738 คุณมนปรียา เฟื่องเดช โทร. 08 9814 4665