กิจกรรม A to a พาน้องเรียนรู้อาชีพ “Young Smart Farmer 4.0”

0
408
image_pdfimage_printPrint

คงปฎิเสธไม่ได้ว่า ยุคสมัยนี้ได้พัฒนาเทคโนโลยี เกิดนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์การดำเนินชีวิตของมนุษย์ให้มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว ทันสมัย รวมทั้งนโยบายภาครัฐเองก็ยังส่งเสริมให้ประเทศไทยมุ่งสู่ยุคดิจิทัล 4.0 นำพาประเทศให้เจริญรุดหน้าเทียบกับนานาประเทศเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่การเกษตร ที่ถือเป็นรากฐานการประกอบอาชีพที่สำคัญของประเทศ ยังมีการค้นคว้าวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยคนรุ่นใหม่ทั้งลูกหลานชาวนา เกษตรกรหรือผู้จบการศึกษาต่างก็ก้าวสู่อาชีพนี้ด้วยรูปแบบการเกษตรยุคใหม่ หรือที่รู้จักกันว่า Young Smart Farmer

ดั๊บเบิ้ล เอ อยากให้เยาวชนรู้จักกับอาชีพเกษตรกรยุคใหม่มากยิ่งขึ้น จึงพาน้องๆ จากโรงเรียนบ้านเขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกิจกรรม A to a ปลูกฝัน ปลูกปัญญา ตอน “Young Smart Farmer เกษตรกรยุค 4.0 หัวใจพอเพียง” ณ ธำรงฟาร์ม จ.นครนายก โดยนายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ พูดถึงวัตถุประสงค์โครงการว่า “A to a เป็นกิจกรรมภายใต้แคมเปญ Double A Better Tomorrow ปลูกฝัน ปลูกปัญญา ที่ต้องการให้เยาวชนได้มีโอกาสรู้จักอาชีพต่างๆที่มีอย่างหลากหลาย จากพี่ๆที่ประสบความสำเร็จในอาชีพต่างๆ อาสามาร่วมเป็นพี่ A (เอใหญ่) ถ่ายทอดประสบการณ์ แนะแนวทาง จุดประกายความฝันและสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับน้องๆ เยาวชนหรือน้อง a (เอเล็ก) สู่อนาคตที่ดี ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2557 ได้ทำกิจกรรมมาแล้ว 7 ครั้ง โดยครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากพี่ A ที่มาเป็นวิทยากร 2 ท่าน คือ คุณจอย วรวรรณ ธำรงวรางกูร, คุณบ๊วย ศรัญธร ธำรงวรางกูร ผู้ริเริ่มสร้างธำรงฟาร์ม Young Smart Farmer รุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจการเกษตรยุค 4.0 ตั้งแต่อายุยังน้อย และได้สละเวลามาแชร์ประสบการณ์ ดี ๆ และจัดเวิร์คช็อปให้กับน้อง ๆ a เพื่อต่อยอดเป็นธุรกิจได้อีกด้วย”

พี่ A คุณจอย วรวรรณ ธำรงวรางกูร เกษตรกรสาวดีกรีปริญญาโทด้านการตลาดจากประเทศอังกฤษ และคุณบ๊วย ศรัณย์ธร ธำรงวรางกูร ผู้พลิกฟื้นผืนดินว่างเปล่าประมาณ 45 ไร่ให้เป็นฟาร์มออร์แกนิคแบบประยุกต์ใช้เทคโนโลยียุค 4.0 ได้พาน้อง ๆ ชมฟาร์มผักออร์แกนิคหรือฟาร์มเกษตรอินทรีย์ และอธิบายถึงหลักการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะต้องปลูกพืชที่สะอาดปลอดภัยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ไม่ใช้สารเคมี มีแหล่งน้ำเป็นของตัวเองและไม่ใช้เมล็ดพันธุ์ที่ตัดต่อพันธุกรรม พร้อมทั้งได้ชมเทคโนโลยีการรดน้ำผ่านระบบสั่งการบนมือถือ น้ำจะรดโดยอัตโนมัติเมื่อดินแห้ง ทำให้สะดวกรวดเร็ว ลดปัญหาเรื่องแรงงาน ประหยัดน้ำและพลังงาน ทำให้ผลผลิตดีขึ้นด้วย

นอกจากนี้ พี่ A ยังได้สอนเทคนิคการปลูกผักออร์แกนิค สาธิตตั้งแต่การหว่านเมล็ดพันธุ์ การนำต้นกล้ามาปลูกในหลุมเพาะชำโดยใช้ พีทมอส (Peat Moss) เพราะสามารถเก็บความชื้นได้ดี อุ้มน้ำไว้แต่จะไม่อมน้ำจนแฉะ ปราศจากเชื้อสาเหตุโรคพืช ปราศจากวัชพืช เป็นวัสดุที่ไม่เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลง จึงเป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับใช้เพาะปลูกต้นกล้า ช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์การงอก ต้นกล้าสมบูรณ์ แข็งแรง และน้องๆก็ได้ลงมือเพาะต้นกล้าด้วยตนเอง ทั้งยังได้นำกลับไปดูแลต่อที่บ้าน ในช่วงบ่าย เป็นการแข่งขันทำน้ำสมูทตี้เพื่อสุขภาพ โดยแบ่งเป็นทีมให้น้องๆได้มีโอกาสคิดสร้างสรรค์น้ำสมูทตี้ในแบบของตัวเอง ซึ่งบรรยากาศแข่งขันเป็นไปด้วยความสนุกสนานและได้เกร็ดความรู้จากพี่ A ที่คอยแนะนำน้องๆทุกทีม และจบกิจกรรมด้วยการเข้าชมฟาร์มเห็ดนางฟ้าภูฐาน เรียนรู้วิธีการเพาะเห็ดและเข้าชมโรงเรือนเพาะเห็ด พร้อมรับเห็ดสดๆจากฟาร์มเป็นของฝากกลับบ้านให้ชิมกันอีกด้วย

คุณจอย วรวรรณ ธำรงวรางกูร เจ้าของธำรงฟาร์ม พูดถึงจุดเริ่มต้นว่า “เป็นคนกรุงเทพฯ ทำงานประจำด้านการตลาด ไม่เคยมีความฝันอยากเป็นเกษตรกร คิดว่าเป็นอาชีพที่เหนื่อย ตากแดด รายได้ไม่เยอะ แต่หลังจากทำงานประจำและใช้ชีวิตในกรุงเทพได้สักพัก รู้สึกว่างานประจำที่ทำอยู่ทำให้เหนื่อยมาก กลับบ้านดึกไม่มีเวลาว่าง จึงตั้งใจอยากหาอาชีพใหม่เพื่อหลุดจากวงจรนี้ จนน้องชายแนะนำไปดูฟาร์มผักของเพื่อนที่ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย จึงได้เริ่มศึกษาอย่างจริงจัง เริ่มจากอ่านหนังสือ ดูฟาร์มต่างๆที่ประสบความสำเร็จและทดลองปลูกจริงบนแปลงแห่งนี้ที่เป็นที่ดินของคุณพ่อ ปรากฎว่ายิ่งทำยิ่งชอบ และเห็นว่าทำให้เกิดได้จริง รวมทั้งยังแปรรูปเป็นสินค้าแบรนด์ของเราเองจากวัตถุดิบที่เราปลูก สามารถสร้างรายได้โดยจำหน่ายตามร้านค้าและออนไลน์ ความคิดเราก็เปลี่ยน และพบว่า ข้อดีของอาชีพนี้ ทำให้เรามีรายได้ มีเวลาอยู่กับครอบครัว และเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองด้วย

น.ส.ภัทรสุดา สุภาวะหา “น้องเล็ก” ชั้นม.3 โรงเรียนบ้านเขาหินซ้อน “กิจกรรม A to a ครั้งนี้ได้ความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับการเกษตร โดยเฉพาะการรดน้ำต้นไม้ที่สามารถตั้งเวลารดน้ำได้เองผ่านโทรศัพท์มือถือ การปลูกพืชโดยไม่ต้องใช้สารเคมี และความรู้ที่ได้จะนำไปใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูก เพื่อเพิ่มผลผลิตให้กับครอบครัวต่อไปค่ะ”

ด.ช.บุญพิทักษ์ พูลผล “น้องซี” ชั้นม.3 “ได้เรียนรู้การเพาะพันธุ์ผักสลัด รวมทั้งประโยชน์ของพืชผักแต่ละชนิดในการทำน้ำสมูทตี้เพื่อสุขภาพ คิดว่าประโยชน์ที่ได้รับสามารถนำไปใช้ในการเรียนและต่อยอดเป็นอาชีพ สร้างรายได้เสริมระหว่างเรียนให้กับเราได้ด้วยครับ”

นี่เป็นส่วนหนึ่งของความคิดเห็นจากน้อง ๆ กว่า 30 คนที่ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ “การให้” ด้วยการถ่ายทอดประสบการณ์ และโอกาสดี ๆ ถือเป็นการส่งต่อองค์ความรู้ที่มีคุณค่า และเป็นประโยชน์ต่อการสร้างเยาวชนรุ่นต่อไปให้เติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นพลังที่เข้มแข็งในการสร้างสรรค์สังคมที่ดีต่อไป สามารถติดตามคลิปพี่ A อาชีพต่างๆ อีกเกือบ 20 อาชีพ ได้ที่ Youtube Double A Thailand