การแข่งขันวันที่ 4 ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 30 จัดพิธีสวนสนามทางทะเล แสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

0
394
image_pdfimage_printPrint

ภูเก็ต 9 ธันวาคม 2559 – การแข่งขันวันที่ 4 ของศึกเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 30 เริ่มต้นวันด้วยพิธีสวนสนามทางทะเลก่อนการแข่งขันบริเวณอ่าวกะตะ หน้าเกาะปู เพื่อเป็นการถวายความเคารพและเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 โดยทีมเรือใบซึ่งเข้าร่วมในการแข่งขันทั้งประเภทเรือใบใหญ่และเรือใบเล็ก ได้บังคับเรือตั้งขบวนและแล่นผ่านเรือรบของกองทัพเรือเพื่อทำการถวายความเคารพ ซึ่งเรือประธานในการสวนสนามคือเรือหลวงแกลง ต่อด้วยเรือ ต.113 และ เรือ ต.221 หลังจากนั้นเรือใบทุกลำจึงเดินทางเข้าสู่สนามแข่ง เพื่อเริ่มการแข่งขันในวันที่ 4 ต่อไป

การแข่งขันวันที่ 4 เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพลมจากเมื่อวันก่อนอย่างมากทำให้กลุ่มผู้นำจากวันก่อนๆ เกิดการพลิกโผในแทบทุกรุ่น โดยในช่วงที่ลมเบาสุดเหลือราว 4 น๊อตเท่านั้น ทำให้ทีมเรือใบใหญ่ทุกรุ่นต้องงัดเทคนิคทุกกระบวนท่ามาใช้เพื่อให้เกมเข้าทางเรือมากที่สุด โดยการแข่งขันวันนี้กำหนดแข่งขัน 1 รอบและเป็นคอร์สทางไกล ทำให้ทีมเรือใบต้องลุ้นกันเหนื่อยเป็นเวลานาน

นาวาเอกพรพรหม สกุลเต็ม รองผู้อำนวยการกองกำลังพล ทัพเรือภาคที่ 3 ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 30 เล่าว่า “แม้สภาพลมวันนี้จะเบามาก แต่กลับเป็นการทดสอบทักษะของทีมเรือที่ท้าทายที่สุด เรียกว่าเรือทุกทีมต้องอาศัยการบริหารงานบนเรือแบบ ‘งานละเอียด’ จริงๆ เนื่องจากในสภาพลมเบาแบบนี้ การจัดสรรน้ำหนักหรือการทริมเรือเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมากจนส่งผลถึงชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ได้เลยทีเดียว”

สภาพอากาศที่แตกต่างจากการแข่งขันวันก่อนอย่างมากนี้ ทำให้กลุ่มผู้นำเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบยกชุดในแทบทุกรุ่น เหลือเพียงหนึ่งความหวังของทีมเรือไทยที่ยังยึดตำแหน่งผู้นำเหนียวแน่นแบบไม่ยอมใครตามทัน คือทีมเรือราชนาวี 1 โดยพันจ่าเอกวิวัฒน์ พูนพัฒน์ ในรุ่นปลาทูวันดีไซน์ ที่ยังคงโชว์ฟอร์มเด็ดขาด คว้าที่ 1 ของวันไปแบบสบายๆ และค่อนข้างแน่นอนว่าจะได้แชมป์อีกสมัยในปีนี้

ฝ่ายเรือไพน์แปซิฟิกของกัปตันอิทธินัย ยิ่งศิริ ทำคะแนนเป็นอันดับ 3 ของวัน แม้จะอยู่ในกลุ่มผู้นำ แต่กัปตันแห่งเรือไพน์แปซิฟิกกล่าวว่ายังประมาทไม่ได้ “การแข่งขันช่วงเช้าใน 2 ชั่วโมงแรกยังมีลมแรง 15-18 น๊อต แต่หลังจากนั้นลมดร็อปลงเหลือเพียง 6-7 น๊อต ทำให้เราเล่นลำบากมาก โดยเฉพาะในช่วงแล่นอ้อมทุ่นเหนือลม กำลังลมลดลงเหลือ 3 น๊อต ทำให้เราต้องคุมระดับของเรือให้ดี ซึ่งถือว่าผลงานได้แบบไม่น่าผิดหวังนัก โดยเรือผู้นำในวันนี้คือเรือซูฮาลของกองทัพเรือมาเลเซีย เป็นเรือที่เบามากและได้เปรียบมากในสภาพลมเบา สำหรับการแข่งขันพรุ่งนี้ เราหวังว่าสภาพอากาศจะเป็นใจและยังคงมีความหวังในการคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ในปีนี้”

สำหรับทีมเรือทีเอชเอ 72 ของกัปตันเควิน วิทคราฟท์ ในรุ่นไออาร์ซี 0คว้าอันดับ 2 ของวัน แต่ทำคะแนนตามหลังเรือที่หนึ่งของกัปตันเรย์ โรเบิร์ตส์ ไม่ห่าง ส่วนรุ่นไออาร์ซี 1 และ ไออาร์ซี 2 ผู้นำของวันจกเป็นของเรือคาราซูของกัปตันยาซูโอะ นานาโมริ จากญี่ปุ่น และ เรือฟีนิกซ์ กัปตันนีลส์ เยนโคล จากเดนมาร์ก ตามลำดับ ส่วนเรือซีฮับ กัปตันศุภกิจ ด้วงเงิน ในรุ่นครูซิ่ง ทำผลงานได้ไม่ดีนัก ตกมาเป็นที่ 5 ของวัน แต่คะแนนยังมีลุ้นในวันสุดท้าย

สำหรับการแข่งขันเรือใบเล็ก อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส ปิดฉากการแข่งขันลงอย่างสวยงามในวันนี้ โดยผู้ชนะในรุ่นเลเซอร์ล้วนเป็นทีมตัวเก็งดาวรุ่งทีมชาติตามคาด โดยกีรติ บัวลง คว้าแชมป์รุ่นเลเซอร์ สแตนดาร์ด และ อภิวัฒน์ ศรีงาม ในรุ่นเลเซอร์ เรเดียล โดยรุ่นเลเซอร์ 4.7 แชมป์ตกเป็นของดาวรุ่งหน้าใหม่อย่าง อธิษฐ์ โรมานิค สำหรับรุ่น 420 และ 470 คู่หูดูโอที่ครองแชมป์ในแต่ละรุ่นได้แก่คู่ของสุธน แย้มพินิจ และ นพพร บุญเชิด และคู่ของนาวี ธรรมสุนทร และ ณัฐ บุตร-มารศรี ตามลำดับ ส่วนออพติมิสต์ในปีนี้ ครอบครัว “พูนพัฒน์” คว้าแชมป์ไปทั้งประเภทเยาวชนชายและเยาวชนหญิง นั่นคือ ศรัณวงค์ พูนพัฒน์ และ ปาลิกา พูนพัฒน์ ตามลำดับ

# # #

งานแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า – ศึกเรือใบอันทรงเกียรติสูงสุดแห่งเอเชีย

ตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานได้รับการยกย่องให้เป็นงานการแข่งขันเรือใบนานาชาติสำคัญทีสุดรายการหนึ่งในเอเชีย โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อสดุดีพระอัจฉริยภาพและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อวงการเรือใบ นอกจากนี้ งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ายังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นสถานที่จัดการแข่งขันเรือใบระดับนานาชาติชั้นนำที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในแต่ละปีสามารถดึงดูดนักกีฬาเรือใบทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 1,000 คน ซึ่งนำเรือใบมากกว่า 200 ลำ มาร่วมการแข่งขันเหนือท้องทะเลอันดามันอันสวยงามของเกาะภูเก็ต

การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ดำเนินการโดยคณะกรรมการจัดงานการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ภายใต้การอำนวยการของสโมสรเรือใบราชวรุณ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมด้วยกองทัพเรือสมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และจังหวัดภูเก็ต โดยในแต่ละปี มีการแข่งขันทั้งประเภทเรือใบเล็ก (รายการภูเก็ต ดิงกี้ ซีรี่ส์ และ รายการอินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส) เรือใบประเภทคีลโบ๊ทและมัลติฮัลล์ ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็นหลายรุ่น

งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ามีผู้สนับสนุน ได้แก่ กะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักการจัดงาน ร่วมด้วยองค์กรพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน), และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดจนผู้ร่วมสนับสนุน ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) โดยมีพันธมิตรสื่อมวลชน ได้แก่ Phuket Gazette, Gazette Radio, The Nation, Prestige, Sea Yachting, The Greater Phuket Magazine, True 4 you, Madame Figaro, Luxury Society Asia, Yachtstyle, The Guide Phuket, RL Magazine, One Coast, และ Phuket Marine Guide

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kingscup.com
สำหรับสื่อมวลชนที่ต้องการภาพความละเอียดสูง สามารถล็อกอินได้ที่เว็บไซต์ต่อไปนี้
Facebook: http://www.facebook.com/phuketkingscupregatta
IG: phuketkingscupregatta
YouTube Channel: http://www.youtube.com/phuketkingscup